บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 16 : อยากตอบแทน 1/2

ตอนที่

[8]

คิดไปเอง

เวลาดำเนินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับทุกคนที่มาร่วมงานต่างก็พยายามที่จะหาโอกาสได้เข้าไปแสดงความยินดีกับคนตระกูลเซียวอย่างใกล้ชิด ตระกูลเซียวในยามนี้มีน้ำหนักในใจฝ่าบาทไม่น้อย มากถึงเพียงที่ว่าฝ่าบาทคิดจะยกองค์หญิงสักพระองค์เพื่อให้อภิเษกกับคุณชายใหญ่ หรือในยามนี้คือรองเสนาบดีเซียว เซียวไจ้เจี้ยน เลยทีเดียว

ซึ่งเดิมทีเขาก็เป็นที่หมายปองของสตรีไม่น้อยด้วยเพราะความสามารถอันโดดเด่นและหน้าตาอันหล่อเหลา แม้จะติดเย็นชาไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อเสียอันใด ส่วนอีกผู้หนึ่งที่หลายตระกูลต่างก็จับจองไว้ในใจนั่นก็คือ คุณชายรองเซียวไจ้เสวียนที่ยามนี้ก็เริ่มจะโดดเด่นไม่ต่างจากผู้เป็นพี่ชาย เพราะในสำนักศึกษาฮุ่ยซิว ที่เป็นสำนักศึกษาอันดับหนึ่งในแคว้นจ้าวแห่งนี้ เขาเป็นบัณฑิตที่สอบได้อันดับต้น ๆ และจากสนามสอบที่ผ่านมาปีนี้ไม่พ้นได้เป็นจ้วงหยวนแน่นอน หากสามารถสานสัมพันธ์กับเขาตั้งแต่ยามนี้ได้จะเป็นการดีต่อภายภาคหน้าเป็นอย่างมาก

และในยามนี้ยิ่งถูกจับตามองขึ้นไปอีกเพราะสตรีที่เป็นอันดับหนึ่งของสำนักศึกษาฮุยอิน ที่เป็นสำนักศึกษาสำหรับสตรีชนชั้นสูงที่เป็นเครือข่ายเดียวกันกับสำนักศึกษาฮุ่ยซิว อย่างเฉินซูเม่ยหรืออีกชื่อเรียกคือยอดพธูแห่งเมืองหลวง กำลังเดินตามหลังผู้เป็นบิดาเพื่อไปแสดงความยินดีกับตระกูลเซียว ซึ่งยามนี้ทั้งมีเสนาบดีเซียวและเซียวฮูหยิน คุณชายใหญ่และคุณชายรองยืนรองรับแขกต่าง ๆ อยู่ เรียกได้ว่าอยู่กันครบถ้วน

“ขอแสดงความยินดีกับคุณชายใหญ่ที่มากด้วยความสามารถจนก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ คงต้องเป็นเพราะมีบิดาที่มากความสามารถเช่นกันเป็นแน่” เฉินหงเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางประจบประแจงหันมองสลับไปมาระหว่างเซียวไจ้เจี้ยน และเซียวไจ้เฟิง ด้านผู้เป็นบิดาไม่ได้แสดงท่าทีอันใด ส่วนผู้เป็นบุตรชายก็แค่ยิ้มตามมารยาทเท่านั้น เฉินหงเห็นท่าทีเช่นนั้นก็ไม่ยอมแพ้

“อ่า นั่นคุณชายรองใช่หรือไม่ ช่างรูปงามเสียจริง เม่ยเออร์เล่าให้ข้าฟังบ่อย ๆ ว่าคุณชายรองทั้งรูปงามและเก่งกาจด้านการร่ำเรียนนัก คงจะเป็นการดีหากคุณชายรองได้แนะนำเรื่องเรียนให้กับเม่ยเออร์ของข้าบ้าง” เมื่อเขากล่าวจบ เขาก็สังเกตเห็นว่าคุณชายรองผู้นั้นหันมองบุตรสาวของตนทันที เพียงเท่านี้ก็ถือว่าเขาสำเร็จไปหนึ่งก้าวแล้ว

“นั่นคงไม่จำเป็นกระมัง ได้ข่าวว่าคุณหนูเฉินก็เป็นหนึ่งในสำนักศึกษาฮุยอินทั้งยังเป็นยอดพธูของเมืองหลวงอีก บุตรชายของข้าคงแนะนำอันใดมากมิได้” เสนาบดีเซียวกล่าวขึ้นมาครานี้คล้ายจะยิ่งทำให้เฉินหงหน้าเสียเข้าไปอีกแต่ความพยายามของเขานั้นเป็นเลิศนัก

“ใช่สิ! ข้าน้อยลืมแนะนำบุตรสาว” ว่าแล้วเขาก็เบี่ยงกายให้เฉินซูเม่ยขยับเข้ามาด้านหน้ายิ่งขึ้น

หากเทียบกันระหว่างบิดาและบุตรสาว บุตรสาวคล้ายคงความสูงส่งและสง่างามกว่ามากนัก นางยิ้มน้อย ๆ และรักษากิริยาจากนั้นเพียงแนะนำตัวว่าตนคือบุตรสาวคนเล็กของขุนนางเฉินหงนามเฉินซูเม่ยเท่านั้น เสนาบดีเซียวมองสตรีอายุน้อย พลางนึกถึงวันนั้นที่บุตรชายคนเล็กเปียกปอนกลับจวนมาราวกับลูกหมาตกน้ำนั่นก็เป็นเพราะสตรีตรงหน้าผู้นี้ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาและประโยคถัดมาก็ทำให้เฉินหงเบิกตากว้างก่อนจะรีบปฏิเสธทันที

“สมกับเป็นยอดพธูของเมืองหลวง แล้วก็เป็นว่าที่คู่หมายขององค์ชายรอง”

“เม่ยเออร์ยังไม่มีคู่หมาย ท่านเสนาบดีเข้าใจผิดแล้ว นางยังไม่ได้ตกลงใจกับผู้ใด เพียงตั้งใจศึกษาเฉกเช่นกับคุณชายรองเท่านั้น” ว่าแล้วก็ส่งสายตาไปที่เซียวไจ้เสวียนทันที

“เป็นเช่นนั้นหรือ เห็นว่าวันที่แสดงความสามารถที่ภัตตาคารอิงเว่ย องค์ชายรองถึงกับมอบของแทนใจให้กับคุณหนูเฉิน นั่นมิใช่เพราะเสน่หาหรือ” เมื่อเสนาบดีเซียวกล่าวจบ บุตรชายคนโตอย่างเซียวไจ้เจี้ยนก็มีรอยยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อยแต่ไม่นานรอยยิ้มนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว

“มิใช่ขอรับ! ของแทนใจอันใด นั่นเป็นเพราะองค์ชายรองชื่นชมความสามารถของเม่ยเออร์ของข้าน้อยเท่านั้น” เมื่อเขากล่าวจบเสนาบดีเซียวก็มีสายตาที่เข้มขึ้นและมองเขาอย่างไม่ละสายตา

ไม่มีผู้ใดรู้ว่ายามนี้ด้านหลังของเฉินหงนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อที่มาจากความหวาดหวั่นและความกดดันมากเพียงใด

เซียวไจ้เฟิงช่างน่ากลัวนัก!

ด้านเฉินซูเม่ยแม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้นางก็ยังรักษากิริยาเช่นเดิม

“เอ่อ...เสวียนเออร์ พาคุณหนูเฉินไปรวมกับเหล่าสตรีทางนั้นเถิด อยู่ตรงนี้มีแต่คนแก่ เห็นทีจะไม่สนุกเท่าใดนัก” เป็นเซียวฮูหยินที่เอ่ยทำลายความกดดันนี้ ส่งผลให้เฉินหงรู้สึกโล่งคล้ายกับยกภูเขาออกไปจากอก และมองเซียวฮูหยินราวกับพระโพธิสัตว์มาโปรด เพราะเป้าหมายของเขาคือทำให้บุตรสาวของเขาและคุณชายรองได้มีโอกาสรู้จักและใกล้ชิดกันมากขึ้น!

ส่วนเซียวไจ้เฟิงก็รู้สึกเข่นเขี้ยวไม่น้อย เพราะเฉินหงกำลังคิดจะจับปลาสองมือ เดิมทีอีกฝ่ายไม่ควรจะมาที่นี่วันนี้เสียด้วยซ้ำเพราะเขาเป็นคนของตระกูลหลี่ ซึ่งตระกูลหลี่คือตระกูลของหลี่ซูเฟยซึ่งก็คือพระมารดาขององค์ชายรอง แต่เมื่อมองไปที่ฮูหยินของตน และเจ้าเด็กหน้าเหม็นนั่นแล้ว ก็จำต้องปล่อยไปก่อน

“ลำบากคุณชายรองแล้ว” เฉินซูเม่ยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ ทั้งแฝงไปด้วยความเกรงใจ แต่ยังคงความสง่างามไว้เช่นเดิม

“มิเป็นไร ๆ คุณหนูเฉินเชิญ” เซียวไจ้เสวียนก็ยิ้มอย่างเป็นมิตรพร้อมทั้งผายมือนำทางอีกฝ่ายไป

เมื่อได้มาอยู่กับนางในระยะประชิดเช่นนี้ นางคล้ายจะงามมากกว่าเดิมจากที่เขามองไกล ๆ เสียอีก ไม่มีข้อใดที่จะติติงได้เลย ทั้งรูปลักษณ์และกิริยามารยาทนั่น

แต่เอ๋... เหตุใดมองหน้าคุณหนูเฉินอยู่ดี ๆ จู่ ๆ ก็มีใบหน้าของสตรีผู้หนึ่งทับซ้อนขึ้นมา

นั่นมัน....ใบหน้าของนางมารนี่!

เขาคงเลอะเลือนไปแล้ว เดินอยู่กับยอดพธูของเมืองหลวงแต่กลับเห็นใบหน้าของนางมารจอมป่าเถื่อนผู้นั้นเสียได้

เขาคงเลอะเลือนไปแล้วจริง ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel