ตอนที่ 5 ผู้ไม่หวังดี
“โทษทีครับ” รันเอ่ยขอโทษทั้งที่ยังไม่ได้มองหน้าอีกฝ่าย แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกใจเล็กน้อย เพราะชายหนุ่มที่ยืนส่งยิ้มให้อยู่ตรงหน้านั่นคือ ‘เต๋า’ รุ่นพี่นักศึกษาแพทย์ปีสี่นั่นเอง
“ไม่เป็นไรครับน้องรัน” เอ่ยแล้วก็ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“พี่เต๋ามากับใครครับเนี่ยบังเอิญจัง”
“พี่มาคนเดียวครับ เห็นว่าวันนี้มีหนังสือเข้าใหม่เยอะเลยลองเข้ามาดูเผื่อมีอะไรน่าสนใจ” เต๋าตอบกลับไปซะยาวเหยียดจนอีกฝ่ายแทบไม่ต้องถามต่อ
“แล้วเราล่ะมากับใคร” เต๋าถามกลับ พลางมองใบหน้าเรียวรูปไข่อย่างสนใจ
“มากับเพื่อนครับพวกมันแยกย้ายไปไหนแล้วก็ไม่รู้” มองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นเพื่อนสักคน
“ออ...แล้วจะไปไหนกันต่อรึเปล่า” ถ้าไม่ได้ไปไหนต่อเขาจะเป็นคนชวนอีกฝ่ายเอง ทั้งสองเคยร่วมกิจกรรมที่คณะอยู่บ่อยๆ ทำให้รู้จักและสนิทกันในระดับหนึ่ง ด้วยความน่ารัก นิสัยดี และพูดจาไพเราะ ทำให้เต๋าสนใจรุ่นน้องคนนี้อยู่ไม่น้อย แม้จะไม่ได้เอื้อนเอ่ยให้อีกฝ่ายรับรู้ แต่เขาก็พยายามแสดงออกว่ารู้สึกพิเศษด้วย
“พวกผมชวนกันไปกินไอติมต่อครับ แต่คงอีกสักพักเพราะยังไม่ได้หนังสือถูกใจเลย” รันตอบออกไป
“ถ้างั้นพี่ขอไปด้วยคนได้หรือเปล่า กลับไปก็ไม่รู้จะไปทำอะไร”
“ได้สิครับแต่พี่เต๋ารอได้ใช่ไหม”
“ได้พี่ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
“ถ้างั้นก็ตามนี้เลยครับ” รันยิ้มให้
“แล้วดูหนังสืออะไรอยู่น่ะ” เห็นหนังสือที่รุ่นน้องกำลังถืออยู่ในมือก็เอ่ยถามทันที ในตอนนี้เขาไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไรได้นอกจากเรื่องหนังสือ
“เคมีครับเล่มนี้เพิ่งตีพิมพ์มาใหม่อัพเดตเนื้อหาเกือบจะล่าสุดแล้ว” เจ้าตัวตอบไป
“ถ้ามีอะไรสงสัยถามพี่ได้นะ ไม่อยากจะชมตัวเองเลยว่าตอนปี่หนึ่งที่ท็อปเจ็นเคม”
“ไม่บอกก็รู้แล้วครับ ก็พี่เต๋าเป็นอันดับหนึ่งของชั้นซะขนาดนั้น”
“ดีใจนะเนี่ยที่รันสนใจเรื่องของพี่ด้วย” เต๋าส่งยิ้มพร้อมจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา จนรันเองก็ทำหน้าไม่ถูกได้แต่หลุบตาลงมาจ้องที่หนังสือแทน
“คณะเราไม่ได้คนเยอะขนาดนั้นสักหน่อยครับ ใครเก่งใครไม่เก่งก็รู้กันหมด” รันตอบไป
ระหว่างนั้นเจ้าตัวก็มองหาเพื่อนๆ ไม่รู้หายหัวกันไปไหนกันหมด ตอนนี้เขาเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้ว แต่เหมือนทั้งสามคนจะอายุยืนพอบ่นหาก็เดินมาอย่างพร้อมเพียงกัน
“อ้าว! พี่เต๋าสวัสดีครับ” แอนเอ่ยทักก่อนแล้วทั้งสามคนก็ยกมือไหว้ตาม
“หวัดดีครับน้องๆ” เต๋าโปรยยิ้มให้ตามสไตล์รุ่นพี่ที่มีอัธยาศัยดี นั่นทำให้สาวๆ หลายคนต่างก็กรี๊ดกร๊าดเขาอยู่ไม่น้อย
“นี่บังเอิญหรือว่าตั้งใจครับเนี่ย” ภพเอ่ยแซวเพราะรู้ดีว่ารุ่นพี่คิดยังไงกับเพื่อนรักของตัวเอง
“บังเอิญครับ แต่ว่าเรื่องไปทานไอติมนี่ตั้งใจ” ทั้งสามคนหันไปมองหน้าเพื่อนทันที
“ไม่ได้หรอ” รันถามเพื่อน เพราะเห็นสีหน้าของแต่ละคนดูไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรเลย
“ได้สิ...ดีจะตายจะได้มีคนเลี้ยง” หมิวเอ่ยแล้วมองหน้ารุ่นพี่อย่างมีเลศนัย
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว วันนี้เดี๋ยวป๋าเลี้ยงเอง” ถึงหมิวไม่เอ่ยอย่างนั้นออกไป เขาเองก็คิดจะเลี้ยงรุ่นน้องอยู่แล้ว
“ไอ้หมิวมันก็พูดเล่นไปอย่างนั้นเองครับพี่เต๋า ลำบากพี่เปล่าๆ” รันเอ่ยด้วยความเกรงใจ เพราะรู้ดีว่าเพื่อนแต่ละคนทานน้อยซะที่ไหนกันล่ะ
“พี่เต๋าพูดขนาดนี้แล้วจะเกรงใจทำไมล่ะแก” หมิวเอ่ยยืนยันความคิดของตัวเอง
“น้องรันอย่าเกรงใจไปเลยครับ ถือซะว่าเป็นการเลี้ยงรุ่นน้องในคณะละกัน”
“ก็ได้ครับ” เต๋ายังคงยิ้มให้จนเพื่อนทั้งสามคนปรายตามองอย่างอิจฉาตาร้อน
หลังจากรับรู้ว่ารุ่นพี่คนนี้มาเทียวจีบเพื่อนอยู่บ่อยๆ ต่างก็พากันสนับสนุนเพราะเต๋าเป็นรุ่นพี่ที่นิสัยดีมากคนหนึ่ง หากเพื่อนยอมเปิดใจให้ก็จะเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก แต่ติดตรงที่รันยังไม่ยอมรับใครเข้ามาในหัวใจนั่นเพราะโดนมารดาห้ามเอาไว้ เพราะหมายหมั้นปั้นมือจะให้จับคุณชายซึ่งเป็นลูกเลี้ยงนั่นเอง
“แกได้หนังสือหรือยังพวกฉันซื้อกันแล้วนะ” แอนเอ่ยถามในมือก็ถือถุงหนังสือคนละใบ เหมือนเตรียมพร้อมออกจากร้านแล้ว
“อ้าว! ทำไมไม่รอกันเลยอ่ะ ฉันกำลังเลือกอยู่เนี่ย” มองเห็นถุงในมือเพื่อนก็ทำหน้าดุให้ ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวก็อยากจะด่ามากพอแล้ว นี่ยังแอบไปซื้อไม่ปรึกษากันเลย มันน่าโมโหนักไอ้เพื่อนสามตัวนี้
“ก็เห็นกำลังสวีทกันอยู่เลยไม่กล้าเข้ามาขัดจังหวะ” นี่คือเหตุผลที่ทั้งสามคนแยกตัวออกไป เพราะรู้ว่าเพื่อนกำลังอยู่กับรุ่นพี่นั่นเอง
“ทำดีมาก” เต๋ายกนิ้วให้ทั้งสามคนอย่างพอใจ
“พวกแกนี่นะ...ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปจ่ายเงินก่อนจะได้รีบไปที่ร้านไอติมต่อเลย” รันตัดสินใจซื้อหนังสือที่อยู่ในมืออย่างไม่ลังเล
“ถ้างั้นพวกฉันไปรอที่หน้าร้านนะ” หมิวบอก
“อื้ม...เดี๋ยวตามไป”
ตกลงกันได้แล้วทั้งหมดก็เดินแยกย้ายกัน แต่เต๋ากลับเดินตามหลังรันไปแทนที่จะไปยืนรอกับอีกสามคน
“อ้าว! พี่เต๋าทำไมไม่ไปรอที่หน้าร้านกับพวกนั้นล่ะครับ” เมื่อเห็นรุ่นพี่เดินตามหลังมาก็รู้สึกสงสัย
“เดี๋ยวพี่ช่วยถือหนังสือนะรันจะได้ไม่ต้องหนักไง” รอยยิ้มหวานถูกส่งให้อีกฝ่ายอย่างเต็มใจ
“ไม่เป็นไรครับผมถือได้...แค่นี้เอง”
“ให้พี่ถือให้เถอะนะ” ชายหนุ่มรุ่นพี่ทำหน้างองุ้มเหมือนกำลังต้องการคนตามใจ
“ก็ได้ครับ พี่เต๋านี่นะทำเอาซะผมไปไม่เป็นเลย” เจ้าตัวยิ้มแล้วส่ายหน้าให้กับความดื้อดึงของรุ่นพี่
“เยส! เดี๋ยวพี่ยืนรอตรงนี้นะ”
“ครับ”
เต๋ายืนรออยู่ไม่ห่างจากเคาน์เตอร์มากนัก หลังจากรันจ่ายเงินและรับถุงหนังสือมาแล้ว รุ่นพี่ก็ยื่นมือไปรับมาถือไว้เอง จากนั้นก็เดินตามหลังไปสมทบกับเพื่อนอีกสามคนที่ยืนรออยู่หน้าร้าน แล้วทั้งหมดก็เดินมุ่งหน้าไปยังร้านไอศกรีมซึ่งอยู่ถัดลงไปอีกชั้น
หลังจากทั้งหมดลงบันไดเลื่อนไปแล้ว สองสาวเพื่อนซี้ก็มองตามหลังไปอย่างมีเลศนัย เธอทั้งสองคือ ‘เมย์’ และ ‘แบม’ เมย์เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่หลงเสน่ห์ผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างอัศ เธอรู้ว่าอัศเกลียดรันอย่างกับอะไรดี เมื่อมีโอกาสเจ้าหล่อนก็พยายามซ้ำเติมรันเพื่อเอาใจผู้ชายที่เธอรัก
“คราวนี้คุณชายเอาแกตายแน่ไอ้รัน” เธอมองภาพที่แอบถ่ายไว้ในโทรศัพท์มือถืออย่างสะใจ มันคือภาพที่เต๋าเดินถือถุงหนังสือตามหลังรันไปติดๆ ดูท่าทางกระหนุงกระหนิงอย่างกับคนเป็นแฟนกัน
“แค่ภาพนี้นะจะทำให้คุณชายทำอะไรมันได้” แบมถามเพื่อนด้วยสีหน้าสงสัย
“ก็คนมันเกลียดจะทำอะไรก็หาเรื่องด่าว่าอยู่ดี ยิ่งเห็นอย่างนี้ยิ่งทำให้คุณชายคิดว่ามันร่าน อาจจะไล่มันออกจากห้องก็ได้ ยิ่งรู้ว่าแม่มันให้มาจับคุณชายฉันยิ่งไม่ไว้ใจ กลัวว่าคุณชายจะหน้ามืดตามัวเข้าสักวัน” ยิ่งคิดยิ่งทำให้เมย์รู้สึกกลัวว่ารันจะใช้มารยาอ่อยผู้ชายที่เธอรัก
“ถ้างั้นก็จัดไปเลยย่ะ” ได้ยินอย่างนั้นเพื่อนสาวก็สนับสนุนเต็มที่
เมย์ส่งภาพให้อัศแล้วเงยหน้าขึ้นมาแสยะยิ้มให้เพื่อนสาวอย่างสะใจ ใครก็ตามที่มันอยู่ใกล้ผู้ชายที่เธอรัก จะต้องถูกกำจัดให้พ้นทางทุกคน