ตอนที่หนึ่ง ทัณฑ์ทรมาน
ตอนที่หนึ่ง
ทัณฑ์ทรมาน
ภายในคุกอันมืดทึบมีเพียงแสงตะเกียงริบหรี่ที่ส่องสว่างมาจากทางเดิน แสงสลัวนั้นสะท้อนบนโซ่เหล็กหนาที่ล่ามตรึงร่างบอบบางร่างหนึ่งไว้กับลูกกรงเย็นเฉียบ
ร่างบางที่ไม่อาจฝืนยืนจำต้องนั่งคุดคู้บนพื้นที่ปูด้วยหญ้าแห้งกรังซึ่งทั้งชื้นทั้งเย็นจนซึมเข้าไปถึงกระดูก
สองข้อมือของนางถูกล่ามด้วยพันธนาการเหล็กจนเป็นรอยแดงลึก ทุกครั้งที่พยายามขยับตัวแม้เพียงนิดเดียวก็หนักอึ้งมองเห็นเลือดที่ไหลซึมออกมาตามร่องเหล็กที่เสียดสีผิวครั้งแล้วครั้งเล่า
ปอยผมที่ลุ่ยปรกใบหน้าบดบังความงดงามที่เคยมี ทิ้งไว้เพียงเงาของหญิงสาวที่อิดโรย ดวงตาที่เคยสดใสบัดนี้หม่นหมองคล้ายแสงเทียนที่ใกล้ดับเช่นเดียวกับลมหายใจที่หอบสั้นกระชั้นถี่
ไม่ว่าผู้ใดที่ได้เห็นย่อมคาดไม่ถึงว่าร่างที่สวมเพียงเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเผยให้เห็นรอยฟกช้ำทั้งเนื้อทั้งตัวผู้กำลังสั่นไม่หยุดจากความหนาวเย็นผู้นี้จะเป็นคนเดียวกับคุณหนูสกุลเมิ่งผู้งดงามอ่อนหวาน
‘เมิ่งเข่อซิง’ บุตรสาวเพียงคนเดียวซึ่งเกิดจากภรรยาเอกของเสนาบดีคลัง
คุณหนูตระกูลสูงซึ่งเคยเป็นดอกฟ้าด้วยบิดามีตำแหน่งสำคัญทั้งนางเองเมื่อเติบโตขึ้นก็เผยหน้าตางดงามกับรูปร่างเย้ายวนใจ
นั่นจึงทำให้มีเหล่าคุณชายทั้งหลายแก่งแย่งส่งแม่สื่อมาทาบทามสู่ขอตั้งแต่ยังไม่ทันได้ปักปิ่น
ทั้งนางยังเคยได้รับการวางตัวเป็นถึงว่าที่ชายาขององค์ชายหลายพระองค์
หากมิใช่ว่าสกุลหวังป่าวประกาศว่าสกุลเมิ่งมีสัญญาหมั้นหมายตั้งแต่เด็กระหว่างกัน นางคงได้รับเลือกและแต่งงานไปกับองค์ชายองค์ใดองค์หนึ่งนานแล้ว
และด้วยสัญญาระหว่างตระกูล สกุลหวังจึงรีบส่งแม่สื่อมาขอหมั้นหมายเมิ่งเข่อซิงให้กับ ‘หวังหลี่เจี๋ย’บุตรชายคนโตของเสนาบดียุติธรรมตั้งแต่หลายเดือนก่อน
แม้จะไม่ได้เป็นชายาของราชนิกุล แต่เมิ่งเข่อซิงกลับพึงพอใจในว่าที่สามีด้วยเขาเองก็นับว่าเป็นคุณชายผู้เป็นที่หมายปองของเหล่าสตรีชั้นสูง
ทั้งด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา กิริยาดีมีมารยาท กับครอบครัวซึ่งสามารถสนับสนุน
“ซิงซิง พี่ช่างโชคดียิ่งนักที่ได้หมั้นหมายกับเจ้า”
ยามพบหน้ากัน คำหวานที่ออกจากปากของชายคู่หมั้นย่อมทำให้หญิงสาวเขินอายและใจเต้นแรงตอบรับการสู่ขอและกำหนดวันแต่งงานอย่างง่ายดาย
ชีวิตอันแสนเพียบพร้อมกำลังดำเนินไปอย่างดีและสดใสเต็มไปด้วยความหวานชื่น
มิคาดว่าเช้าตรู่ที่นัดหมายกับชายคู่หมั้นเพื่อออกไปเลือกหาผ้ามาตัดชุดเพิ่ม บิดาของนางกลับโดนเจ้าหน้าที่จากกรมอาญาบุกเข้ามาจับตัวไปอย่างกะทันหัน
เดิมที เมิ่งเข่อซิงที่ยังไม่โดนจับตัวย่อมไม่เข้าใจและคิดว่าอาจเป็นความเข้าใจผิดจึงผุดลุกผุดนั่งหวังรอสอบถามจากปากของหวังหลี่เจี๋ยด้วยความร้อนรน
แต่...รอแล้วรอเล่า คู่หมั้นที่นัดหมายกลับไม่มาถึงเสียที กลายเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมอาญาอีกชุดที่กรูกันเข้ามาฉุดกระชากลากถูคนในสกุลเมิ่งทั้งครอบครัวโดยบอกว่าต้องพาตัวไปสอบสวน
ในใจของเมิ่งเข่อซิงยังพยายามปลอบตนเองเพราะถึงอย่างไรคู่หมั้นของนางก็คือบุตรชายของเสนาบดียุติธรรมซึ่งเป็นหัวหน้าของกรมอาญาอีกที
กว่าจะรู้ตัวว่าคนในสกุลเมิ่งไม่ว่าชายหรือหญิง เด็กหรือแก่ล้วนโดนทรมานจนตายไปทั้งหมดแล้วเหลือรอดเพียงนางคนเดียวซึ่งกลายเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ก็เมื่อหัวหน้าผู้คุมลากนางออกจากคุกกว้างที่ยังนับว่าพอสบายมาล่ามไว้ด้วยโซ่ตรวนและขังไว้ในคุกมืดที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายที่สุด
