ตอนที่สอง เหตุใดจึงเป็นที่นี่
ตอนที่สอง
เหตุใดจึงเป็นที่นี่
พวกเขากล่าวหาว่าบิดาของนางยักยอกเงินหลวงไปมากมายทั้งยังกระทำการอย่างต่อเนื่องมาหลายปีโดยมีหลักฐานความผิดหนักแน่น
หลังการสอบสวนและทรมานผู้เป็นบิดาอย่างหนัก บิดาผู้นั้นกลับขาดใจตายไปเสียก่อนที่พวกเขาจะได้รู้ที่ซ่อนของเงินทองมากมายเหล่านั้น
“เงินทองตั้งมาก อย่างไรก็ต้องมีหลงเหลือให้เห็น ไม่อาจหายสาบสูญไปเช่นนี้”
เมื่อรื้อค้น ขุดดิน ตัดต้นไม้จนจวนพังราบแล้วยังไม่พบทรัพย์สมบัติใดสักชิ้น พวกเขาจึงเบนการสอบสวนมาที่คนอื่นในสกุลซึ่งควรจะรู้เห็นเป็นใจหรือรู้สิ่งใดบ้าง โดยเฉพาะ...นาง
บุตรสาวเพียงคนเดียวซึ่งเป็นที่รักยิ่งของบิดา
หญิงสาวซึ่งบัดนี้ผิวนุ่มเนียนของนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำกับบาดแผลราวกับดอกไม้ที่ถูกย่ำแหลก คราบเลือดแห้งเกรอะกรังเกาะติดอยู่ตามข้อมือ ปลายนิ้ว และนิ้วทุกนิ้วที่บิดเบี้ยวจนไม่เหลือสภาพ
หนึ่งวันผ่านไป สองวันผ่านไปจนไม่รู้ว่านานเท่าไรที่นางเริ่มไม่รู้สึกถึงมือและเท้าของตนเองอีกต่อไป
แต่ไม่ว่าจะซักถามทรมานมากเพียงใด ถ้อยคำที่ออกมาจากร่างบางกลับมีเพียงคำว่า “ไม่รู้และไม่รู้”
นั่นจะได้อย่างไร!
แล้วเขาจะเสนอหน้ารายงานเบื้องบนอย่างไรได้
หัวหน้าหยางซึ่งเป็นหัวหน้าผู้คุมคิดได้เพียงเท่านั้นแส้เส้นเล็กในมือของผู้คุมอีกคนก็เฆี่ยนตวัดกลางหลังบอบบางโดยไม่เตือนล่วงหน้า
ความเจ็บปวดแล่นวาบไปทั่วสันหลังคล้ายเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผาทำให้หญิงสาวกัดฟันกรอดเพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดแม้จะไร้เรี่ยวแรงที่จะส่งเสียง
จากนั้นเสียงเฉือนอากาศตามด้วยเสียงแส้ที่ฟาดเข้ากับผิวเนื้อก็ตามมาอีกหลายครั้งก่อนที่นางจะทนไม่ไหวและสลบไป
ความหวังว่าพวกเขาจะปรานีปล่อยให้นางได้พักสักหน่อยแตกสลายเมื่อเหล่าผู้คุมที่ล้อมอยู่รอบกายยกถังขึ้นเพื่อสาดน้ำเย็นจัดใส่ร่างที่หมดสติ
ผมยาวสลวยที่เคยจัดแต่งเรียบร้อยยามนี้เปียกชื้นและยุ่งเหยิงบดบังครึ่งหน้า เหลือเพียงดวงตาแดงก่ำคู่หนึ่งที่ยังเบิกมอง
ลมหายใจของนางสะดุดทั้งไอถี่รัวพาให้น้ำตาที่แทบไม่มีเหลือไหลอาบแก้มลงมาทีละหยด
“ในเมื่อปากแข็งนัก เช่นนั้นก็เฆี่ยนต่อไปจนกว่าจะยอมบอกออกมา” เสียงหัวหน้าผู้คุมตะโกนลั่นพาให้ร่างบางสั่นเทาก่อนจะต้องสั่นสะท้านไปกับความเจ็บปวดที่ถาโถมอย่างไม่ยั้งแรง
ยามนี้ผิวเนื้อของนางปริแตกแทบไม่เหลือชิ้นดี ความรู้สึกแสบชาไปทั้งร่างแต่ยังคงส่ายหน้าราวกับจะยืนยันในความไม่รู้ของตนเอง
ร่างนี้ผ่านการทรมานต่อเนื่องมาหลายวันทั้งยังอดข้าวอดน้ำจนอ่อนแรง เมื่อโดนกระหน่ำด้วยแส้จึงหายใจแผ่วมีแต่ความร้อนออกมาราวจะขาดใจเสียให้ได้
ผิวที่เคยขาวนุ่มเนียนละเอียดลออผ่านการเฆี่ยนตีได้เพียงไม่กี่คราก็เต็มไปด้วยเลือดและยับเยินราวเศษชิ้นเนื้อที่ไม่อาจปะติดปะต่อ
แม้จะยังติดโซ่ที่ล่ามอยู่แต่ไม่นานร่างบางก็ค่อยๆ เคลื่อนต่ำจนลงไปกองกับพื้นเพราะแรงกายหมดสิ้นได้ยินเพียงเสียงหอบแผ่วคล้ายคนใกล้สิ้นใจ
และในห้วงวินาทีที่สติใกล้ดับสูญ นางจึงได้แต่ปลอบใจตนเอง
ในเมื่ออยู่มิสู้ตาย เช่นนั้นตายเสียก็ดีเช่นกัน
ท่านพ่อ...โปรดมารับลูกด้วย
แต่...
