ตอนที่ 5 เริ่มต้นรักครั้งใหม่ [5]
เขาและปานวาดต่างสูญเสียคนรักไปและไม่อาจลืมเลือนรักเก่าได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาหมดสิทธิ์ที่จะมีรักครั้งใหม่กับใครสักคน ไม่จำเป็นต้องลืมเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น ก็แค่สร้างเรื่องราวบทใหม่ของพวกเขาเพิ่มเข้าไป เขาอยากจะสานต่อเรื่องในตอนนั้นที่ถูกเธอทำค้างไว้ คราวนี้ก็จะไม่ปล่อยให้หลุดรอดไปอีกแล้ว
มือหนาใหญ่เอื้อมคว้ากรอบรูปที่ด้านในเป็นภาพถ่ายของภรรยายืนคู่กับเขา เธอด่วนจากไปเร็วมากจนเขาตั้งตัวไม่ทัน เมฆาที่ยังอายุไม่ถึงสิบขวบก็ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าแม่ เขาที่เลี้ยงลูกคนเดียวไม่สามารถแทนที่ในส่วนนี้ได้เมฆาถึงได้เป็นคนใจร้อนที่ไม่ค่อยยอมฟังเหตุผลอะไรเท่าไหร่ เพราะถูกเขาตามใจจนเสียคน
“คุณไม่โกรธผมใช่ไหมที่เลี้ยงลูกของเราให้มีนิสัยเป็นอย่างนี้ ถ้าตอนนี้คุณมาอยู่ต่อหน้าผมก็คงจะหัวเราะด้วยรอยยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไรสินะ ผมรู้จักนิสัยคุณดี คุณทั้งอ่อนโยนทั้งใจดี และไม่เคยถือสาไม่ว่าผมจะทำอะไรผิดก็ตาม แน่นอนว่ามันทำให้ผมรู้สึกผิดจนต้องเลิกทำตัวร้ายๆ น่าเสียดายที่เวลาที่เราได้ใช้ร่วมกันมันหมดลงเร็วเกินไป ผมอยากให้คุณได้เห็นว่าตอนนี้ลูกชายของเราโตเป็นผู้ใหญ่จนสามารถสร้างครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนกับเราได้แล้ว”
...เหมือนเมื่อครั้งที่เราสองคนได้อยู่ร่วมกัน
ดวงตาดำสนิทลึกล้ำวูบไหวไปมาจับจ้องใบหน้าสวยห้าวของภรรยาไม่กะพริบ ปลายนิ้วหยาบกระด้างแตะลงบนดวงหน้าอิ่มเอิบของเธออย่างอ่อนโยน ถึงจะเป็นเพียงรูปภาพแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวามีเสน่ห์น่าหลงใหล ริมฝีปากเรียวบางโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มละไม กระตุกหัวใจเขาให้สั่นไหวรุนแรง
“ผมอยากจะขออนุญาตคุณ ผมรู้ว่าเรื่องนี้อาจทำให้คุณรู้สึกไม่ดี ผมอยากเริ่มต้นใหม่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อปานวาด เป็นผู้หญิงที่นิสัยต่างจากคุณโดยสิ้นเชิง เธอไม่ได้สดใสร่าเริงเหมือนคุณ ไม่ได้ชอบยิ้มแย้มทำตัวสบายๆ เหมือนคุณด้วย แต่ก็มีบางอย่างที่คล้ายกัน จิตใจของเธอดีงามเหมือนกับคุณ อย่าโกรธผมเลยนะ เพราะผมขอให้สัญญาว่าความรักของเราจะยังอยู่ในใจผมตลอดไป...”
ช่วงหัวค่ำเมคินแวะมาที่บ้านของปานวาดอีกครั้งและก็เหมือนเช่นเคยที่ถูกเจ้าของบ้านทำหน้าไม่พอใจใส่ แถมยังส่งสายตาคุกรุ่นมาให้ตลอดเวลาจนเขานึกว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในเตาไฟร้อนระอุ นัยน์ตาคู่คมเจือแววเอ็นดูรักใคร่มองสบดวงตาขุ่นขวางอึดอัดคับข้องใจของเธอ หากเป็นไปได้เธอคงอยากไล่ตะเพิดเขาออกจากบ้านมากกว่าจะมานั่งจ้องตากันแบบนี้
“ไหนว่าจะให้เวลาวาดตัดสินใจ แล้วคุณโผล่มาที่นี่อีกทำไม”
“ปกติผมก็มากินข้าวกับคุณทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ได้มาวันนั้นจะนอนไม่หลับ”
“ใครจะไปเชื่อเรื่องพรรค์นั้น เมื่อตอนบ่ายวาดคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก หลงนึกว่าคุณจะให้เวลาวาดได้คิดทบทวนเรื่องของเรานานกว่านี้”
“ผมก็ไม่ได้เร่งเร้าเอาคำตอบอะไรตอนนี้ บอกแล้วไงว่าอยากมากินข้าวกับคุณ ส่วนเรื่องเวลาผมให้คุณได้เท่าที่คุณต้องการ เพียงแต่อย่านานเกินไปจนความอดทนผมสิ้นสุดลง เพราะถึงตอนนั้นผมคงไม่อาจหยุดยั้งอะไรได้อีก” น้ำเสียงจริงจังแกมข่มขู่กับแววตาแน่วแน่แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนของเขาทำให้ปานวาดกัดริมฝีปากล่างอย่างกระวนกระวายใจ ไม่รู้ว่าจะหาทางออกเกี่ยวเรื่องนี้ยังไง โดยหารู้ไม่ว่าปฏิกิริยานั้นช่างน่ารักน่าใคร่ในสายตาคนมองเหลือเกิน
“วาดไม่รู้ว่าคุณจะมาก็เลยกินมื้อเย็นไปก่อนแล้ว ถ้ายังไงเชิญคุณกินข้าวให้อร่อยนะคะ วาดขอตัวไปนอนก่อน พรุ่งนี้ต้องเข้าบริษัทแต่เช้า ถ้าอยู่ดึกไปจะลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหว”
ปานวาดลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้อย่างร้อนรนเตรียมเดินหนีขึ้นชั้นบนเพื่อกลับเข้าห้อง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหนก็ถูกฝ่ามือร้อนลวกคว้าจับข้อมือไว้แน่นจนต้องหยุดชะงัก ดวงหน้าผุดผ่องนวลเนียนเผยความตระหนกตกใจ พยายามควบคุมสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดแล้วค่อยหันกลับไปหาเขา ทว่าก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเขารวบช้อนส้อมเข้าหากันแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจนเธอต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา
นี่อย่าบอกนะว่าเขาคิดจะตามเธอขึ้นไปข้างบนด้วย?!
“ผมกินอิ่มพอดี ขอขึ้นไปเยี่ยมชมห้องของคุณหน่อยได้ไหม”
“อะไรนะคะ! นี่คุณคิดอะไรอยู่กันแน่ นั่นห้องส่วนตัวของวาดนะ ไม่ใช่ที่สาธารณะที่จะอนุญาตให้ใครที่ไหนก็ได้มาเยี่ยมชมได้ตามใจชอบ วาดไม่ยอมให้คุณขึ้นไปข้างบนแน่”
“ผมไม่ใช่ใครที่ไหนสำหรับคุณ ปานวาด...แล้วที่ผมอยากขึ้นไปดูห้องของคุณก็เพราะสงสัยรู้ว่าเวลาคุณอยู่ที่บ้านจะแตกต่างจากตอนอยู่ที่บริษัทหรือเปล่า ตัวคุณที่ยืนอยู่ต่อหน้าผมตอนนี้ดูเปราะบางเหมือนแก้วใสที่พร้อมจะแตกหักได้ง่ายๆ ถ้าเผลอจับต้องแรง อยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้ ผมขอเกินไปงั้นเหรอ” เมคินกำข้อมือของสาวสวยวัยสี่สิบกว่าแน่นไม่ยอมปล่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บแต่อย่างใด
สิ่งที่เกิดขึ้นกับปานวาดในตอนนี้ก็คือรู้สึกยุ่งยากใจทุกครั้งที่อยู่ใกล้ผู้ชายอันตรายคนนี้ เขาช่างเอาแต่ใจและไม่ยอมให้ตัวเองตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลยสักนิด นับตั้งแต่วันที่ต้องมาเกี่ยวพันกันอีกครั้ง เขาก็รุกเข้าจู่โจมหัวใจเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ยอมปล่อยให้เธอได้หยุดพักหายใจบ้างเลย
แค่พลั้งเผลอมีอะไรกันแค่ครั้งเดียว ถึงกับทำให้เธอหมดสิ้นอิสรภาพเลยงั้นเหรอ? เธอไม่ยอมให้เขาทำตามอำเภอใจไปมากกว่านี้แล้ว!