11 ลืมได้แค่หนึ่งคน
ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วหลังจากคืนวันลอยกระทงตอนนี้สภาพจิตใจของกานต์สิชากลับมาเป็นปกติแล้ว ตอนนี้ชีวิตของเธอก็ไม่เหงาต่อไปเมื่อน้องสาวฝาแฝดกลับมาอยู่กับเธออีกครั้ง
กานต์สิชาฟังเรื่องราวของน้องสาวตัวเองที่ไปอยู่สุโขทัยกับพี่ชายคุณเขมิกาแล้วก็รู้สึกตกใจมากๆ เพราะไม่คิดว่าชะตากรรมของน้องสาวจะเป็นแบบนั้น
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากการเข้าใจผิดของผู้หญิงที่ชื่อเขมิกาที่คิดว่าเธอเป็นภรรยาน้อยของคุณไตรภพสามีของเธอแต่จริงๆ แล้วคนที่เป็นภรรยาน้อยนั้นคือชลนิภาเด็กที่อยู่ในซอยเดียวกับเธอ แต่ว่าทั้งสองนัดกันเจอที่ร้านเบเกอรี่
คุณเขมิกาก็เลยเข้าใจผิดคิดว่ากานต์สิชาคือภรรยาน้อย แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันก็กระจ่างแล้วเมื่อคุณไตรภพฟื้นขึ้นมาและยืนยันว่าเธอไม่ใช่ภรรยาน้อย
พรุ่งนี้กานต์สิชาจะติดต่อชลนิภาให้เจอกับพี่ชายของคุณเขมิกาจากนั้นเขาจะคุยหรือตกลงอะไรกันมันก็ไม่เกี่ยวกับอีกต่อไปแล้ว เพราะที่ผ่านมาเธอทำเธอถูกทำให้เข้าใจผิดมันก็แย่มากพอแล้ว
เมื่อน้องสาวเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟังแล้วกานต์สิชาก็เล่าเรื่องของตนเองให้น้องสาวฟังบ้าง แต่เธอไม่ได้บอกน้องสาวว่าผู้ชายคนนั้นชื่ออะไรเพราะกลัวว่ากานต์ชิสาน้องสาวฝาแฝดจะไปตามหาเพราะน้องสาวของเธอมักจะทำอะไรแปลกๆ ที่เธอคาดไม่ถึง
หลังจากคุยกับน้องสาวเสร็จแล้วกานต์สิชาก็เข้าห้องนอนของตัวเอง เธอใช้เวลาว่างช่วงกลางคืนหาข้อมูลเกี่ยวกับเมนูขนมใหม่ๆ ที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์เพื่อนำมาทำขายที่ร้าน และตอนนี้เธอก็มีเพจของร้านที่จะอัปเดตเมนูขนมให้กับลูกค้าและเพจของเธอก็เริ่มมีคนติดตามมากขึ้น
หญิงสาวสนุกกับทำงานจนไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องของกันตภูมิได้ในเวลาสั้นๆ แต่กับผู้ชายอีกคนเธอยังไม่เคยลืมเขาและเหมือนจะคิดถึงเขามากขึ้น แม้รู้ว่าเรื่องคืนนั้นมันเกิดจากความเมาและความเสียใจแต่กานต์สิชาก็ไม่เคยลืมได้เลย
หลังจากนั่งรับออเดอร์จากลูกค้าในเพจจนครบแล้วกานต์สิชาก็ปิดไฟเตรียมตัวเข้านอน พรุ่งนี้เธอคิดว่าจะตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อจะไปซื้ออาหารเช้าให้กับน้องสาวเพราะพรุ่งนี้กานต์ชิสาจะไปทำงานที่โรงพยาบาลเป็นวันแรก
เธอเป็นคนที่ทำขนมเก่งและทำอร่อยเกือบทุกเมนูแต่ในเรื่องการทำอาหารคาวหรือพวกกับข้าวนั้นเธอไม่ได้มีฝีมือเหมือนอย่างน้องสาวเลย
กานต์สิชาตื่นนอนตั้งแต่เช้าจากนั้นก็ขี่จักรยานยนต์ไปที่ตลาดซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งหน้าที่น้องสาวบอกว่าอร่อยจากนั้นก็ซื้อปาท่องโก๋มาทานกับกาแฟ ซึ่งปกติแล้วพวกเธอจะทานขนมที่ทำเองมากกว่านานๆ ครั้งถึงจะทานปาท่องโก๋ เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เห็นว่าตอนนี้น้องสาวแต่งตัวเตรียมไปทำงานแล้ว
“เค้กทำไมแต่งตัวเสร็จเร็วจังนี่มันเพิ่งเจ็ดโมงกว่าเองนะ” กานต์สิชาถามน้องสาวที่วันนี้แต่งตัวเรียบร้อยกว่าทุกวัน เธอใส่กางเกงผ้าขายาวสีครีมส่วนด้านบนเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวและสวมทับด้วยสูทสีเดียวกับกางเกงดูเป็นทางการมาก
“เค้กตื่นเต้นค่ะพี่ครีม ไม่รู้ว่าที่ทำงานใหม่จะเป็นยังไงบ้าง วันนี้เค้กต้องไปเจอรองผอ. แล้วก็เจอฝ่ายบุคคลก่อนเริ่มงานค่ะ พี่ครีมว่าเค้กแต่งตัวโอเคไหมคะ”
“อือ วันนี้น้องสาวของพี่แต่งตัวดูดีและน่าเชื่อถือมาก” เธอมองน้องสาวด้วยความภูมิใจ
“ไม่แก่ไปใช่ไหมคะพี่ครีม” กานต์ชิสาไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เพราะวันนี้เป็นวันแรกและเธอก็ไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด
“ไม่หรอกเค้ก แบบนี้มันดูน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิพี่จะโกหกทำไมล่ะ แต่เค้กพร้อมใช่ไหม” เพราะน้องสาวไม่เคยสัมผัสกับการทำงานในประเทศไทยมาก่อนคนเป็นพี่อย่างเธอก็รู้สึกเป็นห่วง
“คิดว่างานไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะพี่ครีม” กานต์ชิสาตอบพี่สาวด้วยความมั่นใจ
“เค้กต้องคิดไว้อย่างหนึ่งนะว่าที่นี่เมืองไทย เวลาจะพูดกับคนที่มาขอคำปรึกษาต้องใช้คำพูดที่มันอ้อมๆ หน่อยนะเพราะถ้าพูดตรงๆ ถ้าเกิดเขารับไม่ได้ขึ้นมามันจะเป็นเรื่องใหญ่” เพราะน้องสาวไปอยู่ต่างประเทศมาเกือบสิบปีกานต์สิชาก็เลยอดเป็นห่วงไม่ได้เธอกลัวว่าการพูดตรงๆ เหมือนตอนอยู่อังกฤษมันจะใช้ไม่ได้กับที่นี่มันค่อนข้างต่างกัน
“ไม่ต้องห่วงนะคะพี่ครีมเค้กศึกษาการทำงานของที่นี่มาบ้างคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกค่ะ อีกอย่างโรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชนคนที่เข้ามารับคำปรึกษาส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่เต็มใจจะเดินเข้ามาทั้งนั้น เดี๋ยวนี้คนเราสนใจกับสุขภาพจิตของตัวเองมากขึ้นค่ะพี่ ตอนนี้เค้กยังมีเคสที่ให้คำปรึกษาออนไลน์ จากอังกฤษอยู่หลายเคสพวกเขาแนะนำต่อๆ กันมา”
“เค้กไม่รู้สึกเสียดายโอกาสเหรอทำงานที่นั่นมันได้เงินกว่าที่นี่หลายเท่าเลยนะ”
“แต่เค้กอยากกลับมาอยู่เมืองไทยมากกว่าค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ทำงานที่นั่นแล้วแต่ก็ยังมีเคสที่ให้คำปรึกษาออนไลน์อยู่นี่คะ”
“ตอนแรกพี่คิดว่าเค้กอาจจะมาหาประสบการณ์ที่เมืองไทยและจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่อังกฤษเหมือนเดิม แต่ตอนนี้พี่ว่าเค้กน่าจะปักหลักอยู่ที่นี่แล้วละมั้ง”
“ทำไมพี่ครีมถึงคิดแบบนั้นล่ะคะ”
“ก็เพราะเค้กมีคุณเข้ม”
“เค้กไม่อยากจะนึกถึงเขาหรอกค่ะตอนนี้เค้กอยากโฟกัสกับการทำงานมากกว่า”
“คนเราหนีอะไรก็หนีได้นะเค้กแต่พี่หนีความรู้สึกของตัวเองไม่ได้หรอกจริงๆ แล้วพี่ก็แอบเชียร์อยู่นะ ตั้งแต่กลับสุโขทัยเขาได้ติดต่อมาบ้างไหม”
“เขาก็โทรมาคุยอยู่ค่ะพี่ครีมแต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษหรอกค่ะ เขาอยู่คนเดียวก็คงเหงาเลยหาเพื่อนคุยเดี๋ยวเวลาผ่านไปเขาก็น่าจะลืมเค้กได้แล้วค่ะ”
“แล้วเค้กคิดว่าจะลืมเขาได้เหรอเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเค้ก”
“ถ้าไม่ได้เจอกันเค้กคิดว่าก็น่าจะลืม ได้แล้วพี่ครีมล่ะตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”
“ถ้าเค้กหมายถึงเรื่องพี่กับพี่ภูมิตอนนี้ทุกอย่างมันจบแล้ว”
“เขาได้ติดต่อมาอธิบายอะไรไหม”
“เขาเอาเบอร์โทรศัพท์ของคนอื่นโทรมาน่ะ แต่พอพี่รู้ว่าเป็นเขาก็ไม่ได้คุยอะไรต่อเพราะพี่คิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะคุยกับเขา”
“พี่สาวของเค้กเป็นคนใจเด็ดมากๆ นะคะ แล้วผู้ชายอีกคนล่ะคะพี่ครีมยังได้เจอกันอีกไหม”
“คงเป็นไปได้ยากเพราะเขาอยู่นครนายก”
“เราไปเที่ยวกันไหมเผื่อจะเจอเขา”
“พี่ว่าอย่าเลย ป่านนี้เขาก็คงลืมไปแล้ว”
“แค่พี่ครีมไม่ลืมใช่ไหม”
“มันก็ลืมยากอยู่นะ” กานต์สิชายังลืมเขาไม่ได้จริงๆ
“บางที่เขาอาจจะเป็นเนื้อคู่ของพี่ครีมก็ได้นะคะ แต่บังเอิญว่าตอนนี้กำลังตามหาพี่อยู่ ถ้าเขาตามหาเจอก็ชัวร์เลยว่าเขาคือเนื้อคู่ของพี่ครีม”
“ถ้าเขาตามเจอพี่ก็คิดว่าน่าจะใช่นะ”
“แต่ถ้าไม่เจอก็ไม่เป็นไรนะคะพี่ครีมวันนี้เค้กไปทำงานที่โรงพยาบาลถ้าเจอหมอหล่อๆ เค้กจะติดต่อให้พี่ครีมนะคะ”
“ไม่ต้องมาติดต่อผู้ชายให้พี่เลยเรานะเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ พี่ให้ไปทำงานนะไม่ได้ไปหาผู้ชาย”
“ก็เค้กอยากให้พี่ครีมมีแฟนใหม่”
“พี่เพิ่งเลิกกับแฟนเก่าได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ครีมจะให้พี่มีผู้ชายคนใหม่แล้วเหรอ”
“ถ้ามีคนใหม่เข้ามาพี่ก็จะได้ลืมคนเก่าได้ง่าย”
“ต่อให้ไม่มีคนใหม่พี่ก็ลืมคนเก่าได้เค้กไม่ต้องห่วงพี่นะ รีบกินเถอะจะได้ไปทำงาน”
“ค่ะพี่ครีม”