บท
ตั้งค่า

10 ทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่

แสงแดดที่เล็ดลอดเข้ามาจากรอยแยกของผ้าม่านทำให้กานต์สิชารู้สึกตัวตื่น หญิงสาวรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมดโดยเฉพาะช่วงล่างตั้งแต่บั้นเอวลงมา

เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องและนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน หญิงสาวจำได้ว่าตนเองนั่งดื่มอยู่ที่ริมสระจากนั้นก็เจอกับผู้ชายคนหนึ่งและคุยกันอย่างถูกคอ เธอเล่าเรื่องที่ไปเจอมาให้กับเขาฟัง จากนั้นเขาก็ชวนเธอนั่งดื่มที่ผับข้างโรงแรมและก็พากันกลับมาที่ห้องของเธอ

กานต์สิชาจำบทสนทนาที่เธอกับเขาคุยกันได้ไม่ทั้งหมดแต่เมื่อคิดทบทวนแล้วก็เป็นเธอเองที่ชวนให้เขานอนกับเธอ ป่านนี้เขาคงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่ายแน่ๆ แต่กานต์สิชาจะสนใจทำไมล่ะในเมื่อตื่นมาเขาก็ไม่อยู่ข้างกายแล้วหญิงสาวพยายามจะลุกขึ้นนั่งแต่มันก็ทำได้ค่อนข้างยากเพราะตอนนี้กลางกายของเธอมันรู้สึกระบมไปหมด

เธอมองผ้าปูที่นอนยับย่นกับคราบเลือดจางๆ แล้วใบหน้าหวานก็แดงขึ้นมาทันที เธอขอร้องให้เขาช่วยทำลืมเรื่องแย่ๆ และเขาก็ทำได้จริงอย่างที่พูดเพราะตอนนี้ในสมองของหญิงสาวจำได้แต่บทรักอันเร่าร้อนที่เขามอบให้

ประสบการณ์ครั้งนี้เธอคงลืมมันได้ยากและคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องลืมเพราะมันเต็มไปด้วยความสุขอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อนและเธอจะใช้มันกลบความรู้สึกผิดหวังที่เกิดขึ้นกับกันตภูมิให้หมด

หญิงสาวมองกระดาษโน้ตเล็กๆ ที่วางอยู่บนหัวเตียง

‘เรามีเรื่องต้องคุยกันนะครีมรอผมก่อนนะ เย็นนี้ผมจะกลับมาคุยด้วย’

หญิงสาวมองกระดาษที่เขียนด้วยลายมือเรียบร้อยแล้วยิ้ม ให้กับตัวเอง เธอคงไม่กล้าที่จะรอสู้หน้าอย่างที่เขาเขียนไว้

กานต์สิชาเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วใช้เวลาอยู่ในนั้นค่อนข้างนาน เธอมองเนื้อตัวมีร่องรอยที่เขาฝากไว้อยู่เต็มไปหมด หญิงสาวยิ้มให้กับรอยนั้นเพื่อจะย้ำเตือนว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ

ตอนนี้เธอไม่ใช่กานต์สิชาหญิงสาวที่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว เธอรอคอยจะมอบสิ่งมีค่าให้กับคนรัก แต่มันจะสำคัญอะไรล่ะในเมื่อคนรักของเธอเขาไม่ได้อยากได้สิ่งนั้นเลย เขามีผู้หญิงคนอื่นกำลังจะสร้างครอบครัวด้วยกัน แล้วมันผิดด้วยเหรอที่ผู้หญิงอย่างเธอจะหาความสุขใส่ตัวบ้าง เธอไม่ใช่เด็กสาววัยรุ่นที่ยังต้องแบมือขอเงินจากพ่อแม่แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เรียนจบและมีธุรกิจเป็นของตัวเองไม่เคยต้องพึ่งพาใคร

การต์สิชาคิดว่าการมีวันไนท์สแตนด์กับใครสักคนมันก็คงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสักเท่าไหร่และมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรเลยเพราะหลายๆ คนก็ทำแบบเธอ

หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเห็นว่ามีสายมิสคอลและข้อความจากกันตภูมิอยู่แต่เธอไม่คิดจะโทรกลับหรือเปิดอ่าน

เธอเลือกที่จะบล๊อกทุกช่องทางการติดต่อจากเขาเพราะสิ่งที่เธอเห็นเมื่อคืนมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า เขากำลังจะมีครอบครัวมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ยังจะต้องคุยกับเขา

กานต์สิชาเธอรู้สึกเจ็บและเสียดายเวลาที่คบกันตภูมิมากแต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอรู้สึกผิดหวังมากกว่าเพราะทุกอย่างที่ทุ่มเทให้เขามันดูเหมือนไร้ประโยชน์ เขาก็คงเห็นเธอเป็นแค่คนคุยเวลาเข้ากรุงเทพ

กันตภูมิทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองเป็นคนไร้ค่ามากๆ เป็นคนโง่คนหนึ่งที่รอคอยให้เขากลับไปหาพี่กรุงเทพ ถ้าหากเมื่อวานเธอไม่ตัดสินใจจะมาที่นี่ก็คงจะต้องถูกเขาหลอกต่อไปเรื่อยๆ อย่างแน่นอน ระยะทางจากนครนายกถึงกรุงเทพมันไม่ได้ไกลเลยแต่ที่เธอเชื่อว่าเขาไม่กลับบ้านเพราะงานยุ่งนั้นบางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้งานที่เขาว่าอาจจะหมายถึงการดูแลครอบครัวของเขา

ถ้าหากเขาบอกเธอสักนิดว่าเขาหมดรักเธอแล้วมันคงจะเจ็บน้อยการที่เธอมาเห็นว่าเขามีคนอื่น

หญิงสาวพยายามสลัดความคิดเรื่องกันตภูมิออกจากหัวจากนั้นก็ลงไปทานอาหารเช้าและซื้อยาคุมฉุกเฉินที่ร้านขายยา ซึ่งถามจากพนักงานของโรงแรม จากนั้นก็ขึ้นมาเก็บของลงกระเป๋าเธอมองกระดาษโน้ตแผ่นนั้นอีกครั้งก่อนจะขยี้มันและโยนลงถังขยะ

เธอจะทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่แล้วจะกลับไปเริ่มต้นใหม่ที่กรุงเทพในเมื่อมีงานมีธุรกิจของตัวเองที่จะต้องรับผิดชอบรออยู่หญิงสาวก็จะไม่จมปลักอยู่กับความเสียใจ จากนี้จะรักตนเองให้มากขึ้นจะเป็นกานต์สิชาคนใหม่

ถ้าหากถามว่าเธอเข็ดกับความรักไหมกานต์สิชาตอบได้อย่างเต็มปากว่าเธอไม่ได้เข็ดกับความรัก แต่เธอเข็ดกับผู้ชายมากกว่าจากนี้ถ้าหากเธอจะคบใครสักคนเธอต้องดูให้ดีกว่านี้ แต่คิดว่าเรื่องนี้คงยังอีกนานเพราะตอนนี้ยังรู้สึกเจ็บอยู่แต่มันก็ไม่มากเท่ากับเมื่อวานอาจเป็นเพราะได้ระบายเรื่องนี้ให้กับผู้ชายที่ชื่อเปรมฟัง

เมื่อนึกถึงเขาใบหน้าเธอก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งผู้ชายคนนั้น ทั้งหล่อและดูดีอีกทั้งยังทำให้เธอมีความสุขแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อน เธอคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอกับเขาอีกแล้วแต่ มันก็เป็นผลดีสำหรับเธอเพราะถ้าหากได้เจอหน้ากันอีกครั้งก็ไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับเขายังไงเธอรู้สึกอายมากๆ ที่เป็นคนเป็นคนชวนเขาให้นอนกับเธอ

เมื่อเก็บของทุกอย่างเสร็จแล้วหญิงสาวก็ขับรถเข้าสู่กรุงเทพ

กานต์สิชามาถึงที่ร้านในเวลาบ่ายตอนนี้ในร้านมีลูกค้าอยู่ประมาณสามโต๊ะเธอยิ้มทักทายกับลูกน้องจากนั้นก็เดินไปเข้าห้องน้ำก่อนจะสวมผ้ากันเปื้อนออกมาทำงานตามปกติ

“พี่ครีมขับรถมาเหนื่อยๆ ไม่พักก่อนเหรอคะ” พนักงานในร้านถามเจ้านายที่พอมาถึงก็ทำงานทันที

“ไม่เป็นไรจ้ะนุ่นพี่ไม่เหนื่อยเลย วันนี้ลูกค้าเยอะมั๊ย”

“ลูกค้าเยอะมากๆ เลยค่ะ วันนี้กาแฟดำกับครัวซองขายดีเป็นพิเศษเลยสงสัยว่าเมื่อคืนพวกเขาจะเที่ยวงานลอยกระทงกันจนดึกแล้วพี่ครีมล่ะคะเที่ยวสนุกไหม”

“สนุกสิ”

“พวกหนูนึกว่าพี่ครีมจะค้างที่นครนายกสองคืนเสียอีก”

“พี่อยากไปลอยกระทงแค่นั้น ไม่อยากทิ้งร้านนานๆ หรอกเดี๋ยวพวกเธอก็ได้ยึดร้านของพี่กันพอดีสิ” กานต์สิชาพูดแล้วยิ้มให้กับพนักงานทั้งที่ในใจก็ยังรู้สึกเจ็บ

“พี่ครีมรู้ใจพวกเราจริงๆ เลยนะคะ พวกเรากำลังวางแผนกันอยู่เชียวว่าถ้าพี่ครีมหายไปหลายๆ วันพวกเราจะยึดร้านนี้เป็นของพวกเราเอง”

“ฝันไปเถอะจ้ะร้านนี้มันคือทุกอย่างของพี่” หญิงสาวพูดกับลูกน้องแล้วพากันหัวเราะ

การได้กลับมาที่ร้านมาเจอลูกน้องและได้เจอกับลูกค้าที่หมุนเวียนเข้ามาในแต่ละวันมันคงทำให้จิตใจของกานต์สิชากลับมาแข็งแรงได้ไม่ยาก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel