12 คุณไม่ใช่ครีม
กานต์ชิสามาถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเวลา 8.30 น.วันนี้รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลนัดหญิงสาวเพื่อพูดคุยในเวลา 09.00 น.
เลขาของรองประธานพาเธอไปรอในห้องประชุมเล็กซึ่งอยู่ติดกันกับห้องของรองผู้อำนวยการ
เมื่อถึงเวลาประตูห้องก็เปิดชายหนุ่มรูปร่างสูงแต่งกายดูภูมิฐานก็เดินเข้ามาในห้องเขาหยุดชะงักไม่มองหน้าเธอก่อนจะเดินตรงมาหา หญิงสาวรีบลุกขึ้นแต่เขาก็เข้ามากอดเธออย่างไม่ทันตั้งตัว
“ครีมใช่คุณจริงๆ ด้วยผมดีใจมากเลยนะที่เจอคุณ” อ้อมกอดมันแน่นขึ้นกานต์ชิสาทำตัวไม่ถูก หญิงสาวพยายามผลักเขาออก
“เดี๋ยวค่ะคุณ คุณกำลังเข้าใจผิดแล้วคุณปล่อยฉันก่อน” กานต์สิชาอยากตะโกนให้คนช่วยแต่ชื่อที่เขาเรียกทำให้หญิงสาวได้แต่ดันตัวเขาออกเท่านั้น
ชายหนุ่มกอดและหอมไปบนแก้มของเธอทั้งสองข้างก่อนจะผละออกและมองหน้าหญิงสาวด้วยความแปลกใจ
“ขอโทษนะครับที่เสียมารยาทกับคุณ” เขาถอยจากนั้นก็ถอนหายใจอย่างหนัก
“คุณคงไม่ทักทายพนักงานใหม่ด้วยวิธีนี้ทุกครั้งใช่ไหมคะ”
“ผมขอโทษอีกครั้งนะครับ ที่ทำให้การเจอกันครั้งแรกของเราทำให้คุณตกใจ ผมว่าเรามาเริ่มต้นทำความรู้จักกันใหม่ดีกว่านะ”
“ค่ะ” หญิงสาวรู้สึกแปลกๆ กับท่าทางของรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลแล้วเธอก็คิดว่าที่เขาเข้ามากอดเธอน่าจะเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นพี่สาว
“สวัสดีครับผมชื่อปุริมปรัชญ์หรือเรียกผมว่าหมอเปรมก็ได้แล้วคุณชื่ออะไร”
“สวัสดีค่ะฉันชื่อกานต์ชิสาหมอเปรมเรียกว่าเค้กก็ได้ค่ะ แต่ก่อนที่เราจะคุยกันแค่ขอถามอะไรหมอเปรมหน่อยได้ไหมคะ”
“ถามอะไรครับ”
เขาผายมือให้หญิงสาวนั่งแล้วตนเองก็นั่งบนเก้าอี้และมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“เมื่อกี้หมอเปรมตรงเข้ามากอดเค้กและเรียกว่าครีมใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ คุณหน้าเหมือนเธอมากๆ แต่ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่เธอ” น้ำเสียงที่พูดเหมือนคนกำลังผิดหวัง
“คุณรู้ได้ยังไงคะ”
“ให้ผมพูดตรงๆ ไหม”
“ได้ค่ะเค้กเป็นคนชอบพูดอะไรตรงๆ”
“ที่ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่ครีมเพราะกลิ่น”
“นี่คุณแยกแยะคนด้วยกลิ่นเหรอคะหมอเปรม” กานต์ชิสาถามด้วยความแปลกใจ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมแค่รู้สึกว่าคุณไม่ใช่ครีมแม้ว่าหน้าตาของคุณจะเหมือนเธอก็ตาม”
“เค้กอาจจะเปลี่ยนน้ำหอมและเปลี่ยนชื่อก็ได้นะ คุณมั่นใจได้ยังไงล่ะ”
“ผมมั่นใจ” เพราะกลิ่นของผู้หญิงคนนั้นมันติดอยู่ในความทรงจำของของปุริมปรัชญ์และเขาก็คิดถึงกลิ่นของเธอมาตลอด
“มันก็ถูกแล้วค่ะเพราะเค้กไม่ใช่ผู้หญิงที่คุณพูดถึง”
“ผมขอถามคุณเค้กหน่อยได้ไหมล่ะ ว่าคุณมีฝาแฝดหรือเปล่า”
“ถ้าเค้กตอบว่าไม่มีล่ะคะ”
“ถ้าคุณตอบว่าไม่มี ผมก็อยากจะให้คุณกลับไปถามครอบครัวของคุณอีกครั้งว่ามีฝาแฝดและถูกแยกกันเลี้ยงหรือเปล่าเพราะคุณเหมือนกับครีมมากๆ เลยนะเหมือนจนผมเห็นครั้งแรกต้องเข้าไปกอดมันเป็นการเสียมารยาทมากๆ ผมขอโทษคุณอีกครั้งก็แล้วกันนะเค้ก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เค้กเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ เค้กมีอะไรอยากจะบอกหมอเปรมอย่างหนึ่ง แต่นั่นต้องหลังจากหมอเปรมตอบเค้กมาก่อนว่าหมอเปรมกับผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกัน”
“ผมจะไม่เล่าเรื่องของผมให้คนแปลกหน้าฟังหรอกนะครับ”
“แต่ดูเหมือนหมอจะอยากเจอเธอนะคะ ถ้าหมอไม่เล่าเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อครีมให้เค้กฟัง เค้กก็จะไม่บอกว่าเธอคือใครและอยู่ที่ไหน” กานต์ชิสาต่อรองเพราะตอนนี้หญิงสาวคิดว่าตนเองถือไพ่เหนือกว่า
“คุณรู้เหรอเค้ก คุณบอกว่าคุณไม่มีกว่าแฝด”
“เรามายื่นหมูยื่นแมวกันดีไหมคะ”
“ดูเหมือนว่าตอนนี้ผมจะได้นักจิตวิทยาที่เก่งมากๆ คนหนึ่งมาทำงานที่โรงพยาบาลนะครับ”
“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับจิตวิทยาเลยค่ะหมอเปรมมันเกี่ยวกับสัญชาตญาณล้วนๆ เค้กว่าตอนคุณกับผู้หญิงคนนั้นไม่น่าจะใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดานะคะ”
“คุณนี่ฉลาดทันคนเหมือนกันนะ ผู้หญิงที่ชื่อครีมคือผู้หญิงที่ผมเจอเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน คงไม่ต้องบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรอกนะครับ แต่หลังจากวันนั้นแล้วผมก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย”
“คุณก็เลยอยากจะเจอเธอใช่ไหมคะ เพื่ออะไรคะ”
“มันอธิบายยากผม ผมรู้แค่ผมอยากเจอเธออีกครั้ง อยากคุยกับเธอให้มากกว่าเดิมอยากรู้ว่าเธอสบายดีหรือเปล่า”
“แค่นั้นเหรอคะ คุณไม่ได้ตามหาเธอเพื่อที่อยากจะคบกับเธอเป็นแฟนหรือสานต่อความสัมพันธ์ใช่ไหม”
“จริงๆ แล้วผมก็อยากจะสานต่อความสัมพันธ์กับเธอนะหลังจากคืนนั้นผมก็กลับมาหาเธอที่โรงแรมอีกในเวลาเย็นแต่เธอก็เช็กเอาท์ไปแล้ว ผมพยายามถามชื่อและที่อยู่จากโรงแรมแต่คุณก็รู้ว่าความลับของลูกค้ามันเป็นอะไรที่พวกเขาต้องปกปิดไว้ ผมไปดักรอเธอที่นั่นอยู่หลายวันนะแต่ก็ไม่เจอ พนักงานที่โรงแรมเห็นใจผมก็เลยบอกแค่ว่าเธอไม่ใช่คนแถวนั้น มันเลยทำให้ผมถอดใจและไม่รู้จะไปตามที่ไหน เมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นคุณผมรู้สึกดีใจมากๆ และกระโดดเข้ากอดคุณแบบที่เห็นนั่นแหละ”
“ถ้าผู้หญิงคนนั้นมาได้ยินคงดีใจมากๆ นะคะที่คุณตามหาเธอ”
“คุณบอกว่าคุณรู้จักเธอใช่ไหมเค้ก บอกผมได้ไหมล่ะว่าครีมอยู่ที่ไหนผมอยากเจอเธอ”
“เค้กขอถามเพิ่มหน่อยได้ไหมคะ”
“ว่ามาสิ”
“ตอนนี้ตอนนี้คุณหมอมีแฟน มีคนรัก มีคนที่คบอยู่หรือว่ามีครอบครัวหรือยังคะ”
“สถานะผมตอนนี้ก็คือยังโสด อาจจะมีผู้หญิงเข้ามาบ้างแต่ยังไม่คิดจะคบใครอย่างจริงจัง ผมบอกตามตรงก็ได้ว่าผมมีคู่นอนแต่ยังไม่มีคู่รัก” ปุริมปรัชญ์ตอบไปตามความจริง
“นั่นหมายความว่าผู้หญิงที่ชื่อครีมก็เป็นหนึ่งในคู่นอนของคุณใช่ไหมและคุณอยากจะสานต่อความสัมพันธ์กับเธอเหมือนกับคู่นอนคนอื่นๆ หรือเปล่า” กานต์ชิสาอยากรู้คำตอบที่แท้จริงของเขา
“ไม่เลยผมไม่เคยรู้สึกว่าเธอคือคู่นอนถึงแม้เราจะนอนด้วยกันแล้วก็ตามผมมีความรู้สึกว่าเธอคือใครคนหนึ่งที่มันพิเศษมากๆสำหรับผม คุณเชื่อในรักแรกพบหรือเปล่าล่ะ”
“คุณเชื่อเรื่องนี้ด้วยเหรอคะ”
“ผมเชื่อเรื่องรักแรกพบและเชื่อเรื่องเนื้อคู่ ผมคิดว่าบางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นเนื้อคู่ที่พระเจ้าส่งมาให้ผมก็ได้นะ”
“ดูท่าทางคุณแล้วไม่น่าจะมีความเชื่อเรื่องนี้เลยนะคะ มันขัดขัดกับบุคลิกขัดกับลักษณะการทำงานของคุณมากๆ”
“ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ใครฟังมาก่อนเลยนะ คุณเป็นคนแรกผมว่าคุณเป็นนักจิตวิทยาที่ดีมากๆ ที่สามารถหลอกล่อให้ผมพูดความรู้สึกออกมาได้ สงสัยว่าผมจะต้องเพิ่มเงินเดือนให้คุณและคุยกับคุณให้น้อยที่สุดเพราะรู้สึกว่ายิ่งคุยคุณก็จะยิ่งดึงตัวตนของผมออกมาเรื่อยๆ” ปุริมปรัชญ์รู้สึกว่าตนเองพูดกับกานต์ชิสาเหมือนกับรู้จักกันมานาน
“แล้วแบบนี้มันไม่ดีเหรอคะ”
“มันดีสำหรับผู้ให้คำปรึกษาที่เขาตั้งใจมาขอคำปรึกษาครับแต่ผมไม่ได้ตั้งใจอยากจะปรึกษาคุณเลย แต่คุณพูดโน้มน้าวจนผมเผลอหลุดพูดอะไรในแบบที่ไม่เคยพูดกับคนอื่นออกมา”
“เค้กดีใจนะคะ สิ่งที่ฉันเรียนมามันทำประโยชน์ให้กับเค้ก”
“แต่ผมว่าตอนนี้คุณก็บอกผมมาได้แล้วว่าครีมอยู่ที่ไหนและเป็นอะไรกับคุณถ้าเดาไม่ผิดคุณคงเป็นฝาแฝดกันใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ พี่ครีมคือฝาแฝดของเค้กแล้วเธอเปิดร้านขนมอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงนี้ ถ้าคุณอยากเจอเธอก็ลองไปหาเธอตามร้านขนมสิคะ”
“คุณบอกว่าจะบอกเรื่องของเธอไง”
“ก็นี่ไงคะเค้กบอกแล้วหมอเปรมลองใช้ความพยายามตามหาเธอสิคะ ถ้าภายในหนึ่งอาทิตย์หมอเปรมยังหาเธอไม่เจอก็แสดงว่าหมอไม่ได้ใช้ความพยายามและไม่ได้อยากรู้จักเธอมากพอ”
“แล้วถ้าผมตามหาจนเจอ คุณจะขัดขวางเรื่องของผมกับเธอหรือเปล่า”
“เค้กไม่เคยคิดจะขัดขวางพี่สาวหรือห้ามพี่สาวให้คบหรือไม่คบกับใครหรอกนะคะ แต่ที่เค้กไม่ยอมไม่บอกหมอว่าพี่สาวทำงานอยู่ที่ไหนเพราะเค้กอยากจะรู้ว่าหมออยากรู้จักพี่สาวของเค้กจริงๆหรือเปล่า”
“ผมจะรีบหาเธอให้เจอเร็วที่สุดและหวังว่าผมจะได้เป็นพี่เขยของคุณนะเค้ก”
“เค้กก็หวังว่าคุณจะได้เป็นพี่เขยของเค้กนะนะ ทีนี้เรามาพูดเรื่องงานกันต่อดีไหมเค้กจะต้องตรวจวันไหนบ้าง”
“ได้สิ”