บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

เมื่ออิ่มอาหารเตชิตก็เอ่ยชวนให้โอปอล์ไปชมไร่ของเขา สาวน้อยมองหน้าเขาแล้วเม้มริมฝีปาก เป็นครั้งแรกที่เธอมองเขาเต็มตาตั้งแต่ที่เพียรหลบไปหลบมาอยู่นาน

เธอเกรงว่าเธอจะเผลอไปคิดเรื่องอะไรต่อมิอะไรเมื่อคืนนี้อีก

"เอ่อ...ลุงเต้บอกว่าจะคุยเรื่องของเรา"

"อืม..."

เตชิตพยักหน้า เขามองสบตาเธอ แล้วหยิบหมวกขึ้นมาสวม หมวกใบนี้ดูคุ้น...ตาเธออยู่ แต่ก็ไม่ได้ทัก ตาของเธอมองจ้องอีกแวบ ราวกับจะหาจุดสังเกตที่เคยจำได้...

หมวกสีแบบนี้ ลักษณะแบบนี้มีถมไป หมวกทรงคาวบอยสีดำ มีเชือกถักประดับคาดไว้ หมวกของเขาค่อนข้างเก่าเพราะคงจะใช้งานมานานพอสมควร จนสีของมันซีดจางลงไปมาก เกือบจะเป็นสีเทามันคุ้น...เหลือเกิน

เห็นว่าตาของเธอกำลังมองจ้องที่ไหน เตชิตก็เพียงยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก เขาลุกขึ้นยืนเต็มตัว แล้วยื่นมือส่งให้เธอ พร้อมกับเอ่ยเสียงทุ้ม

"ไปกันหรือยัง เรื่องของเรา เดี๋ยวเดินไปคุยไปก็ได้"

"ค่ะ"

เธอวางมือไว้ในมือใหญ่อบอุ่นของเขาอีกครั้ง

นัยน์ตาเธอคอยลอบมองคนที่ตัวสูงกว่าเธอเป็นระยะ

ภาพซ้อนบางอย่างทำให้เธอแก้มแดงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

เมื่อไหร่เธอจะเลิกคิดซุกซนเกี่ยวกับผู้ปกครองของเธอกันนะ

.....................................................................................................

"ว้าว"

ภาพธรรมชาติตรงหน้าทำให้สาวน้อยตื่นตาตื่นใจ ภาพของไร่กาแฟสุดลูกหูลูกตา มีต้นไม้น้อยใหญ่ปลูกล้อมให้ความร่มรื่น กลิ่นหอมๆ โชยโรยรินมาตามลม ทำให้เธอสูดจมูกฟุตฟิต อดเอ่ยถามคนที่ยืนข้างเธอ มองตรงไปยังผลงานของเขาด้วยนัยน์ตาแห่งความภาคภูมิไม่ได้ ว่ามันคือกลิ่นของอะไร

"กลิ่นดอกกาแฟ" คำตอบนั้นทำให้โอปอล์นึกสงสัย เธอเดินไปที่ต้นกาแฟใกล้ๆ มองดูดอกสีขาวนั้น แล้วก้มลงดมสูดมันเข้าไป กลิ่นหอมรวยรื่นอ่อนๆ ทำให้เธอนึกชอบกลิ่นของมัน

"หอมจังเลยค่ะ ลุงเต้"

"ชอบเหรอ?" เขาถาม มองคนตรงหน้าด้วยสายตาทอดอ่อนโยน...ยามเผลอลืมตัว ไม่ได้รั้งใจไว้เหมือนที่เคยบอกกับตนเอง

ใช่...

การที่เขาไม่ไปข้องแวะกับครอบครัวของเธอ เลี่ยงหลบที่เจอะเจอหน้าเธอ ความลับนั้นมันดังกึกก้องอยู่ในใจเขา ตอนนั้นเธอเพียงแค่สิบสี่ปี แต่ตอนนี้สาวน้อยอายุเต็มสิบเก้าแล้ว...ห้าปีเต็มๆ ที่เขาหลบเลี่ยงเธอ พยายามหักห้ามบางสิ่งที่ซ่อนลึกในหัวใจ ทว่าเขากลับหลบเลี่ยงเธอไม่พ้น เมื่อเห็นว่าสาวน้อยของเขากำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต เคว้งคว้าง ไม่มีที่ยึดเหนี่ยว เขากระโจนรับหล่อนมาทันที โดยไม่ได้ทันคิดอะไร

แม้อลงกรณ์จะไม่ได้ฝากฝัง เขาก็พร้อมที่จะโอบอุ้มหล่อนออกมาจากที่ตรงนั้น

"ค่ะ ไม่คิดมาก่อนว่าดอกกาแฟจะน่ารัก แล้วก็หอมแบบนี้"

เธอว่า ดูจะชอบเจ้าดอกกาแฟนี้จริงจัง เขาจำได้ว่าหล่อนชอบปลูกดอกไม้ ชอบเป็นพิเศษคือดอกมะลิ หล่อนชอบเอามาร้อยเป็นมาลัยพวงเล็กๆ แล้วคล้องไว้ทำเป็นสร้อยคอ สร้อยแขน มงกุฎ

เขาจำเรื่องต่างๆ ของเธอได้มากมายเหลือเกิน

ชายหนุ่มลอบถอนใจ บางสิ่งมันก็ช่างไร้คำอธิบาย ว่าทำไมถึงได้ผูกใจกับสิ่งนั้นนัก

เขาเดินไปใกล้เธอ เด็ดดอกกาแฟช่อที่สาวน้อยดมเมื่อครู่ขึ้นมา ก่อนจะเอาดอกไม้ช่อเล็กๆ นั้นเหน็บที่เรือนผมให้กับโอปอล์ สาวน้อยถึงกับหน้าแดงก่ำ แล้วพึมพำขอบคุณเขา

มือใหญ่นั้นจับมือเล็กไว้แน่นกระชับ เขาพาเธอเดินเล่นไปรอบๆ พอได้เหงื่อ มีคนงานหลายคนเอ่ยทักเขาและมองจ้องมายังเธออย่างสงสัย เธอเห็นสายตานั้นมองมือของเธอและเขาที่จับกันไว้ แล้วก็อยากจะนึกดึงออก เพราะเกรงว่าจะมีคนเข้าใจผิดกับความสนิทสนมนี้

"เอ่อ...ไผครับนี่พ่อเลี้ยง"

มีคนสงสัยหนักว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มจับจูงพาใครมา ถึงกับออกปากถาม เมื่อเขาพาเธอไปที่เรือนพักสินค้า คนถามคือหัวหน้าคนงาน ที่ทำงานกับพ่อเลี้ยงมานานหลายปี เลยกล้าเปิดปากถามในสิ่งที่คนทั้งไร่ที่เห็นคนทั้งคู่กำลังสงสัย

"เด็กของฉันเอง คุณโอปอล์ อาจจะมาช่วยงานฉันบ้างในบางเรื่อง ไว้จะพาแนะนำอย่างเป็นทางการอีกที"

ตอบเสียแบบนั้น แทนที่จะคลายความสงสัย กลับยิ่งทำให้สายตาของคนที่ได้ยิน มองมายังโอปอล์เป็นตาเดียว

สาวน้อยเองก็ฟังแล้วให้ทะแม่งหูนักกับคำนั้น

"เอ่อ...ลุงเต้คะ"

เธอเอ่ยขึ้นมาเมื่อขึ้นรถมากับเขาแล้ว ใกล้เวลารับประทานอาหารกลางวัน เขาบอกว่าจะพาเธอไปดูรีสอร์ต กิจการอีกอย่างของเขา และรับประทานอาหารด้วยกันที่นั่น

"หืม?" เขาถอดหมวกออก เมื่อขึ้นมานั่งในรถประจำหน้าที่คนขับ แล้วยื่นส่งหมวกให้เธอถือไว้ สาวน้อยรับมันมาอย่างงงๆ

"ฝากหน่อยสิ"

"แล้วเรื่องที่ลุงเต้บอกว่าจะคุย"

"กินข้าวเที่ยงก่อนค่อยคุยก็ได้" เขาว่า ก่อนจะออกรถ ตามองมือน้อยที่จับที่หมวกใบเก่ง หมวกที่เขาใช้งานมันอย่างถนอมมาห้าปีเต็ม

เขาอยากให้เธอ...จำได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel