บทที่ 3
เตชิตเดินเซน้อยๆ ทำเอาคนที่กำลังพยุงเขาอยู่หัวเราะคิกคัก มือของหล่อนป้วนเปี้ยนไปตามเนื้อตัวเขา ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ เมื่อมือนั้นกำลังไล่ต่ำลงไปถึงหัวเข็มขัด ทั้งที่เขายังไม่ทันไขประตูเข้าบ้าน
"ใจเย็น คุณคงไม่อยากมีอะไรกับผมตรงนี้ใช่ไหม"
"พ่อเลี้ยงล่ะก็"
ทางนั้นหัวเราะ มือยังคงวางอยู่บนหน้าท้องแกร่ง แค่นี้หล่อนก็แทบจะแฉะไปหมดแล้ว กับการได้ใกล้ชิดพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่สุดหล่ออย่างเขา
"อุ๊ย"
ทันทีที่ประตูเปิด เขาก็ช้อนอุ้มหล่อนแล้วเตะประตูให้มันปิดลง ก่อนจะประกบริมฝีปากลงมาจูบเคล้า วีณาเผยอปากรับอย่างเต็มอกเต็มใจ ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเธอจะได้มีโอกาสเข้าถึงพ่อเลี้ยงหนุ่มสุดดังของเมืองเชียงใหม่กันเล่า หล่อนเจอเขาในผับแห่งหนึ่ง ส่งสายตาให้สักพัก เลี้ยงเหล้าเขา แล้วก็เข้าถึงตัวเขาได้ง่ายดายจนน่าแปลก
ไหนใครบอกว่าพ่อเลี้ยงเตชิตกินยากนักยากหนา บางคนมาให้ท่าถึงบ้านยังไม่ได้ลองลิ้มเขา หล่อนช่างส้มหล่นจริงๆ
เขาจูบหล่อนรุนแรงตามอารมณ์ที่กำลังโหมทวี กดลงลงกับโซฟา ปลดเปลื้องหล่อนจากอาภรณ์จนเกือบเปลือยเปล่า เขาซบหน้าลงกับทรวงอกอิ่มแล้วดูดดื่มมัน
"อ๊า พ่อเลี้ยงขา...อูย"
เตชิตที่กำลังทั้งเมาเหล้าและเมาอารมณ์ คลุกเคล้าทรวงสาวอย่างเมามัน เนื้อขาวๆ เสียงหวานๆ ทำให้อารมณ์ของเขากำลังเตลิด
"อื้อ...อยากกินพ่อเลี้ยงจัง"
เสียงนั้นเอ่ย เขาพอจะรู้ว่าหล่อนอยากทำอะไร เขาจึงนอนหงายลงกับโซฟา ขณะที่ฝ่ายหญิงนั้นปลดกางเกงของเขาแล้วรูดมันออกทั้งกางเกงนอกกางเกงใน
"ว้าว..."
เสียงครางดังขึ้น เมื่อเห็นองคาพยพส่วนนั้นของพ่อเลี้ยงหนุ่ม มันช่าง...อวบใหญ่ จนเธอเสียวไปถึงท้องน้อย
มือนิ่มๆ นั่นจับมันบีบเบาๆ
เตชิตขบกรามเมื่อทางนั้นเริ่มครอบครองเขาด้วยปากนุ่มนิ่ม เขาหลับตาลงความสุขกำลังไหลเวียนปราดทั่วร่าง ภาพใบหน้าของใครบางคนซ้อนขึ้นมาตอนที่จิตใจของเขากำลังเตลิดไปในหนทางแห่งกามา
ตากลมโตราวกับนางกวาง มองตรงมายังเขา ปากอิ่มแดงของหล่อน มือนั้น...
เขาเห็นภาพของหล่อนซ้อนกับภาพของหญิงสาวที่เขาหิ้วมาด้วย
โอปอล์
............................................................................................................
โอปอล์สะดุ้งตื่นในยามดึก หล่อนฝัน...ฝันเห็นพ่อและแม่ พวกท่านนอนเคียงกันบนพื้นถนน เลือดอาบเต็มไปหมด พวกท่านร้องของให้เธอช่วย หากหล่อนไม่สามารถเข้าไปช่วยพวกท่านได้ เพราะถูกคนๆ หนึ่งลากพามาจากที่ตรงนั้น มือนั้นแข็งแรง ลากเธอออกมาจนเธอตัวปลิว เมื่อเธอเงยมองหน้าเขา จึงตกใจจนสะดุ้งตื่น!
ลุงเต้
ทำไมเธอฝันอะไรแบบนั้นนะ เธอถอนใจ ลำคอแห้งผาก กระหายน้ำจนต้องลุกขึ้นมาจากเตียง หล่อนเปิดไฟสว่าง แล้วเดินลงมาด้านล่าง พอจะจำได้ว่าห้องครัวอยู่ตรงไหน
เสียงฝีเท้าที่เดินลงมา ไม่ได้ทำให้ชายและหญิงที่กำลังมัวเมาในเนื้อหนังได้ยิน เมื่อโอปอล์เปิดไฟ ภาพของสองคนที่อยู่บนโซฟาทำให้เธอร้องกรี๊ดอย่างตกใจ
ตาของเธอเบิกโพลงกับภาพที่เห็น
เตชิตกับผู้หญิงคนหนึ่งกำลัง...
พวกเขาแทบไม่มีเสื้อผ้าติดกาย
เธอเอ่ยพึมพำขอโทษ ใจเต้นระทึก ก่อนจะวิ่งหนีขึ้นไปยังห้องของตัวเองด้วยความรวดเร็ว หน้าแดงเห่อร้อน โอย...นั่นมัน...
ไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้อะไร แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับตาแบบนี้ เธอล้มลงนอนคลุมโปง ภาพนั้นติดตาเหลือเกิน โดยเฉพาะเตชิตยาม...เปลือยเปล่า
เธอเห็น...
พรุ่งนี้เธอจะกล้าสู้หน้าเขาหรือเปล่านะ โอปอล์อยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ
......
โอปอล์ลืมตาตื่นมาในตอนเช้า เวลาเดิมที่เคยตื่นประจำ ทุกเช้าเธอมีหน้าที่ประจำที่จะต้องไปทำ บ้านที่เธอเคยอยู่ แต่ตอนนี้ เธอมาอยู่ในสถานที่ใหม่ และยังไม่รู้เลยว่าเธอควรมีหน้าที่จะต้องทำอะไรบ้าง
สาวน้อยตื่นเช้าตามความเคยชิน แม้จะง่วงอยู่บ้าง เพราะเมื่อคืนนี้เธอนอนไม่หลับเลย กว่าจะผล็อยหลับก็เกือบรุ่งสาง สาเหตุที่ทำให้เธอไม่ได้หลับน่ะหรือ ไม่ใช่เพราะแปลกสถานที่ ปรกติแล้วโอปอล์เป็นคนนอนง่าย เรียกได้ว่ากับที่ไหนเธอก็หลับได้ เพราะเคยไปช่วยบิดามารดาที่ร้านบ่อยๆ บางทีกว่าท่านจะปิดร้านกัน ลูกสาวก็นอนหลับไปตรงซอกหนึ่งของร้าน โดยมีตุ๊กตาหมีตัวเก่ากอดไว้เธอก็หลับแล้ว
ตุ๊กตาตัวนั้นเธอก็ถือมาด้วยในตอนนี้ เป็นของขวัญจากบิดามารดาในวันเกิดครบรอบเก้าขวบ มันอยู่กับเธอมาสิบปีเต็มแล้วตอนนี้ และมันเหมือนเป็นตัวแทนของพวกท่าน ที่เธอถือมาด้วยเป็นหนึ่งในสมบัติเพียงไม่กี่ชิ้นที่เธอได้ออกมา
สาวน้อยถอนใจเฮือก คว้าหมีตัวเก่ามากอดแน่นๆ อีกหน ก่อนจะเปิดประตูห้องออกมา เธอควรจะทำอะไรก่อนดีนะ หล่อนถามตัวเอง เธอไม่กล้าจะไปวุ่นวายทำอะไร เพราะยังไม่ได้คุยกับเจ้าของบ้านที่มีสถานะเป็นผู้ปกครองว่าเธอจะต้องทำอะไรบ้าง
หล่อนตัดสินใจนั่งรอเขาอยู่ตรงห้องโถง...
โซฟาตัวนี้...ตอนนี้มันอยู่ตรงที่เดิมหมอนอิงอะไรถูกจัดไว้เรียบร้อย เมื่อคืนเธอ...เห็นว่ามันน่าจะถูกเหวี่ยงลงมาที่พื้นพร้อมกับเสื้อผ้า
แก้มของสาวน้อยแดงก่ำ
โอ...
ทำไมเธอจะต้องมาเห็นภาพอะไรแบบนี้ด้วยนะ
เมื่อคืน...แฟนของลุงเต้อย่างนั้นหรือ ทำไมจะต้องมาทำอะไรกันกลางบ้านแบบนี้ล่ะหนอ...เธอคิด แล้วก็ถอนใจอีกเฮือก ลังเลว่าจะนั่งตรงนั้นดีไหม? มันรู้สึกแปลก ที่จะต้องนั่งทับรอย...
เธอย่นจมูกเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจนั่งตรงนั้น ตัวตรง ใจคิดล่องลอยไปเรื่อยเปื่อย เกี่ยวกับเรื่องของตนเอง เรื่องของอนาคต แล้วก็วกกลับมาคิดถึงเรื่อง...
เธอมองหนังนิ่มๆ ของโซฟาตัวสีครีมนั้น อุปปาทานเหมือนเห็นคราบอะไรบางอย่างจนต้องมองอีกหน ก็เห็นว่าตัวเองตาฝาด
อา...
ภาพของเตชิตซ้อนขึ้นมาอีกแล้ว ภาพของเขาในตอนเปลือยเปล่า โอ๊ย...ทำไมเธอจะต้องคิดถึงอะไรแบบนั้นด้วยนะ หน้าของเธอตอนนี้แดงและร้อนผ่าว ใจเตลิดเปิดเปิงไปไกลลิบ แล้วต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินฝีเท้าหนักๆ เดินลงมาจากชั้นสอง
"อ้าว ปอ ตื่นแล้วเหรอ?"
เจ้าของเสียงนั้นทำให้เธอหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม โอปอล์ก้มลงหลบตาเขาพลางพยักหน้า เตชิตเองก็เสมองไปทางอื่น เขาไม่กล้ามองหน้าเด็กสาวเต็มๆ ตา
เมื่อคืน...เขาไม่น่าทำแบบนั้นเลย
มันจบตรงที่เขาให้ผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านไปเสีย เขาปลุกให้นายบุญมาไปส่งหล่อน ส่วนตัวเองขึ้นไปนอน
เขาไม่น่าทำอะไรในบ้านทั้งที่มีโอปอล์อยู่แบบนี้ หล่อนจะคิดยังไงกันนะ เกี่ยวกับสิ่งที่เห็น เขากระแอม แล้วทรุดลงนั่งข้างหล่อน เห็นว่าสาวน้อยสะดุ้ง หน้างามนั้นแดงจัด เดาไม่ยากหรอกว่าหล่อนก็คงจะคิดถึงเรื่องเมื่อคืน
เห็นอะไรไปขนาดไหนแล้วนะแม่สาวน้อย
"คือ...ไปกินข้าวเช้ากัน"
"ค่ะ"
มือใหญ่นั้นหงายออก ยื่นมาตรงหน้าเธอ เหมือนอยากจะให้เธอวางมือเธอลงตรงนั้น มือที่จับกุมมือเธอพาเธอออกมาจากปัญหาอันแสนสับสน พาออกมาจากความสิ้นหวัง มาสู่อาณาจักรของเขา
โอปอล์มองมันอย่างลังเลนิดหนึ่ง
แล้ววางมือมันลงไปบนนั้น
สัมผัสเขาครั้งก่อนทำให้เธออบอุ่น
แต่สัมผัสกับเขาครั้งนี้ไม่ได้ทำให้เธออุ่นใจ
หากมันเหมือนมีประจุไฟบางอย่างแล่นเข้าจับหัวใจของสาวน้อย
เขาและเธอลุกขึ้นยืน เธอยังคงก้มหน้าไม่กล้าสบตาเขา เตชิตเอ่ยขึ้นเสียงเบา
"กินข้าวเสร็จแล้ว ลุงจะคุยกับหนูเกี่ยวกับเรื่องของเรา"
แปลก...
คำว่าเรื่องของเราทำให้สาวน้อยใจเต้นแรง...