บทที่ 1 พิศวาสร้าวในคืนลวง 2
แสงแรกของเช้าวันใหม่สาดส่องลอดช่องหน้าต่างเห็นเป็นลำแสงสีขาวอ่อนๆกระทบดวงตาของคนที่หลับอยู่บนเตียงกว้างจนต้องเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
เพดานห้องสูง...มีโคมไฟระย้าสีทองประดับอยู่ !
นี่ไม่ใช่ห้องของหล่อนแน่ๆ !
วีรยาหลับตาลงครู่หนึ่งเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่าง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พลางหลุบตาลงมอง...เห็นตนเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าปกปิดร่างกาย มีเพียงผ้าห่มผืนบางเท่านั้นที่คลุมร่างไว้เพื่อกันอุจาด
หน้าหวานเผือดสีก่อนจะแดงปลั่งเมื่อนึกทุกอย่างออก เมื่อคืนนี้มีงานเลี้ยงรื่นเริงเพื่อขอบคุณพนักงานที่สู้อุตส่าห์เหนื่อยยากอยู่ เคียงข้างบริษัท
งานสังสรรค์จัดขึ้นที่บริษัท หลังงานเลี้ยงเลิกรา บิดาก็ขับรถมาส่งหล่อนที่บ้านหลังใหญ่ไม่คุ้นตา จากนั้นก็ถูกบังคับให้ดื่มน้ำในขวดจนเกือบหมด
เมื่อดื่มไปแล้ว หล่อนก็ร้อนไปทั้งร่างราวถูกไฟแผดเผา อยากปลดเปลื้องเสื้อผ้าออก แทบไม่เป็นตัวของตัวเอง ครั้นจะขอให้พ่อพากลับไปส่งที่บ้านของตน พ่อก็ขับรถหนีไปแล้ว ทิ้งให้หล่อนยืนอยู่ท่ามกลางความมืดหน้าบ้านของคนอื่นที่หล่อนไม่คุ้นเคย
กฤตพลเพิ่งกลับมาถึงบ้านพอดี เขาเห็นหล่อนยืนอยู่หน้าประตูรั้ว พอลงจากรถไปถาม หล่อนก็เข้าไปสวมกอดเขาราวสาวร่านสวาท
หญิงสาวไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เมื่อคืนนี้หล่อนถึงอยากถูกเขากอด อยากโดนสัมผัส อยากเป็นของเขาจนต้องแสดงท่าทางออกมาอย่างชัดแจ้ง
จริงอยู่ที่กฤตพลเป็นผู้ชายคนแรกที่หล่อนหลงรัก แต่ก็เป็นได้แค่รักอยู่ห่างๆ เพราะเขาไม่เคยแยแสหล่อนสักนิด ไม่แม้แต่จะปรายตามองด้วยซ้ำ ในเมื่อหล่อนเป็นเพียงลูกสาวของพนักงานระดับล่างคนหนึ่งที่ไม่น่าสนใจ
หล่อนเองก็ไม่เคยหวังว่าเขาจะมารัก ขอแค่หล่อนได้ปลื้มเขาอยู่ไกลๆ เท่านี้ก็พอแล้ว แต่เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้ทุกอย่างบานปลาย หล่อนกลายเป็นสาวใจง่ายที่ยอมทอดกายให้เขาเชยชมไปฟรีๆ แถมยังบอกว่ารักเขาอีก
ไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไงกับหล่อน...จะใจอ่อน รู้สึกผูกพัน หรือรู้สึกผิดบ้างหรือเปล่า
วีรยากวาดตามองรอบห้องแต่ก็ปราศจากคนที่หล่อนกำลังนึกถึง แต่รอยอุ่นๆบนเตียงข้างๆก็เป็นสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเขาคงเพิ่งลุกจากที่นอนไป
หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง แต่ยังไม่ทันจะวาดขาลงจากเตียงบานประตูก็เปิดออก ก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้ามา
วีรยาชะงัก ซึ่งเขาก็หยุดยืนนิ่ง... ดวงตาสองคู่ประสานกันอย่างไม่มีใครยอมหลบ และเพียงเสี้ยววินาทีสั้นๆ ชายหนุ่มก็เปิดปากพ่นคำพูดร้ายกาจออกมา
“ตื่นแล้วเหรอ ท่าทางเมื่อคืนผมจะจัดหนักไปหน่อย คุณถึงนอนสลบไสล เช้ามา...ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ว่าไง เช้านี้อยากได้อีกสักรอบมั้ย”
แก้มใสๆเริ่มมีสีแดงระบายไปทั่ว ขณะที่ปากอิ่มขบเม้มอย่างขุ่นเคือง
“ไม่อยาก”
“เหรอ ?” กฤตพลเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนจะสืบเท้าเข้ามาใกล้ๆแล้วก้มลงมองคนที่นั่งอยู่บนเตียง...เห็นแววตาหวาดหวั่นระคนน้อยใจของหล่อนแล้ว ชายหนุ่มก็ยิ้มหยัน พลางไล่ปลายนิ้วไปตามแนวแก้มนุ่มแล้วมาจบลงที่เรียวปากอิ่ม “แมวน้อยยั่วสวาทคนเดิมหายไปไหนแล้วล่ะ ตอนนี้ถึงกลายเป็นแม่เสือได้ แต่ผมชอบคุณอย่างเมื่อคืนนี้มากกว่านะ ร้อนแรง ยั่วยวน”
ฟังเขาพูดจบประโยค หญิงสาวก็ฉุนหนักขึ้นไปอีก ฟันซี่เล็กๆจึงงับนิ้วเขาเต็มแรงอย่างหมั่นไส้
งั่บ !
“โอ๊ย !” กฤตพลอุทานลั่น รีบดึงปลายนิ้วออก เห็นชัดเจนว่ามีรอยฟันปรากฏอยู่อย่างโดดเด่น
“เก่งจริงนะแม่คุณ” มือหนาบีบแก้มนุ่มไว้แน่น ดวงตาคู่คมเป็นประกายกร้าว วูบหนึ่งที่อยากจูบปากเล็กๆนั่นอีกสักครั้ง แต่ก็ต้องสลัดความคิดประหลาดนั้นออกไป
นักรักเช่นเขา...พิศวาสผู้หญิง1คนต่อ1คืนเท่านั้น เมื่อฟ้าสาง ทุกอย่างก็จบ จะไม่มีการผูกมัดและเริ่มต้นคบหากันอย่างจริงจังแน่ๆ
แม้ว่าส่วนลึกจะพอใจความหอมหวานที่วีรยาปรนเปรอให้เมื่อคืนนี้ไม่น้อยเลยก็ตาม
แต่ก็อย่างว่าแหละ ผู้หญิงหน้าซื่อๆมักเล่ห์เหลี่ยมจัด หล่อนเองก็คงไม่ต่างจากสาวคนอื่นๆที่หวังจะใช้เรือนร่างหาเงินด้วยการจับเขาเข้าพิธีวิวาห์
อย่าหวังเลยว่าคนอย่างเขาจะตกหลุมตื้นๆแบบนี้ สมองของเขาคอยย้ำเตือนเสมอว่า ผู้หญิงท่าทางไร้เดียงสานี่แหละ อันตรายที่สุด !