บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ผมอยากให้พี่ 'เอา' ผมเร็ว ๆ

ตอนที่ 5

ผมอยากให้พี่ 'เอา' ผมเร็ว ๆ

"โอ๊ย!" ผมร้องขึ้นด้วยความเจ็บที่อยู่ ๆ พี่อายก็เอื้อมมือมากระชากหัวผมอย่างแรงทันทีที่เธอพูดจบ

"แล้วใครใช้ให้นายมาโกหกฉันฮะ!"

"ถ้าไม่โกหกแล้วพี่จะยอมฟังผมไหมล่ะครับ โอ๊ย ๆ ปล่อยก่อนได้ไหมครับ ผมเจ็บนะเนี่ย" ผมพยายามลูบมือเธอเบา ๆ เผื่อว่าเธอจะใจเย็นลงบ้าง

ให้ตายเหอะ ผู้หญิงอะไรซาดิสม์ชะมัด!

"เจ็บก็ดี! แต่แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ!" ว่าจบเธอก็ยิ่งลงแรงหนักกว่าเดิมเป็นเท่าตัวอย่างโมโห

"โอ๊ย ๆ ๆ ก็ถ้าผมไม่ทำแบบนี้พี่ก็ไม่ยอมฟังผมอะ ปล่อยผมก่อนได้ไหมผมเจ็บนะครับเนี่ย" ผมบอกพร้อมกับลูบมือเธอซ้ำ ๆ อย่างขอร้องเพราะมันเจ็บมากจริง ๆ

"นายนี่มัน!" เธอตวาดก่อนจะปล่อยมือแล้วชี้หน้าเหมือนจะด่าผมแต่ก็ไม่รู้จะด่ายังไง สุดท้ายเธอเลยทำได้แค่หายใจฟึดฟัดอย่างหงุดหงิด ประจวบกับไฟเขียวขึ้นพอดีผมเลยรีบออกรถไป ระหว่างทางก็เอามือข้างหนึ่งลูบหัวตัวเองเบา ๆ พร้อมกับแอบมองเธอ แล้วก็อดหัวเราะอย่างเอ็นดูตอนเธอโมโหไม่ได้

คนบ้าอะไร ขนาดตอนโมโหยังน่ารัก!

"หึ"

"อย่ามาหัวเราะแบบนั้นนะ" เธอหันมาแว้ดทันทีที่ได้ยินผมหัวเราะ

"ทำไมล่ะครับ ก็พี่น่ารักอะ" ผมหันไปมองเธอแล้วหัวเราะอีก

"นี่นาย!" พี่อายเริ่มโวยวายอีกครั้ง แถมยังมองผมตาขวางเหมือนอยากกระชากหัวผมเต็มทน

"นายโกหกฉัน เพราะงั้นเรื่อง 7 วันอะไรนั่นก็ยกเลิกไปซะ!" ว่าไงนะ

"อะไรนะครับ" ผมรีบหันมาถามเธอทันที

"นายได้ยินไม่ผิดหรอก ฉันขอยกเลิกเรื่องที่นายจะทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหวหรือรู้สึกดี ๆ อะไรนั่นไปซะ" เธอยืนคำขาด

"ได้ไงกันครับ ก็พี่ตกลงแล้วอะ"

"แล้วไง ตกลงได้ก็ยกเลิกได้" เธอยักไหล่แบบไม่สนอะไร

หึ รู้จักผมน้อยไปซะแล้ว

"พูดแต่จะยกเลิก ๆ พี่คงลืมไปสินะครับ ว่าตอนนี้พี่นั่งอยู่ในรถผม"

"มะ หมายความว่าไง" พี่อายหันมามองผมอย่างงง ๆ

"หึ ก็หมายความว่า ถ้าพี่จะยกเลิกก็ไม่ต้องลงไปจากรถผมไงครับ อยู่ด้วยกันบนนี้แหละ ไม่ต้องลองต้องลงมันหรอก" ผมบอกอย่างสบาย ๆ แล้วก็ขับรถไปเรื่อย ๆ แบบไม่คิดอะไรมากมาย แต่คนข้างกายเนี่ยสิ

แทบจะควันออกหูเลยมั้งผมว่า

"นี่นาย! นายขู่ฉันงั้นเหรอ!" นั่นไง ว่าแล้วเชียว

"ใช่ครับ ผมขู่พี่อยู่ แล้วผมก็ทำจริงแน่ถ้าพี่ไม่ตอบตกลง" คราวนี้ผมยักไหล่ใส่เธอคืนบ้าง

"หึยยย นายนี่มัน!"

"มันทำไมครับ" ผมเลิกคิ้วอย่างกวน ๆ

"นายมันบ้า!"

"หึ ๆ ๆ"

"อย่ามาหัวเราะแบบนั้นนะ!"

"งั้นพี่ก็ตอบมาสิครับว่าจะเอาแบบเดิมตามที่เราตกลงกันไว้" ผมยิ้มเหมือนคนที่อยู่เหนือกว่าอยู่แล้ว

"เออ! อยากทำอะไรก็ทำ!" พี่อายตะคอกก่อนจะหันไปนั่งกัดฟันกรอด ๆ อย่างโมโห

"หึ ๆ ๆ"

"ก็บอกว่าอย่าหัวเราะแบบนั้นไง!" แต่ก็ยังไม่วายหันมาแว้ดใส่ผมอยู่ดี

"โธ่ อย่าโวยวายเยอะสิครับ สงสารจมูกผมบ้าง พี่อย่าลืมนะว่าหน้าพี่ก็ไม่ได้ล้าง อาบน้ำก็ไม่ได้อาบ ฟันก็ยังไม่ได้แปรง กลิ่นคลุ้งเต็มรถไปหมดแล้วเนี่ย" ผมล้อเธอเล่น ๆ

"นะ นาย!" พี่อายแว้ดครั้งสุดท้ายก่อนจะเอามือปิดปากอย่างอาย ๆ แล้วเงียบไป

"หึ แล้วก็อย่าได้คิดจะถลามาหยุมหัวผมอีกนะครับ ผมขับรถอยู่นะเนี่ย เดี๋ยวก็เกิดอุบัติเหตุกันพอดี" ผมขู่ไว้ก่อน

"ฉันรู้หรอกยะ! ฝากไว้ก่อนเถอะ!" กัดฟันบอกผมเสร็จก็หันไปกอดอกแล้วมองออกไปข้างทางทันที ผมเลยอดแหย่เธอต่อไม่ได้

"ฝากไว้แล้วก็มา 'เอา' คืนเร็ว ๆ นะครับ ผมอยากให้พี่เอาผมเร็ว ๆ" ผมตั้งใจเน้นคำว่า 'เอา' อย่างชัดถ้อยชัดคำ ทำเอาพี่อายรีบหันขวับกลับมาตะคอกใส่ผมทันทีทันใด

"โรคจิต! ในหัวนายมีแต่เรื่องพรรค์นั้นรึไงฮะ!" 

อาย TALK

ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าผู้ชายคนนี้แล้วจริง ๆ เขาตั้งใจเน้นคำว่า 'เอา' ให้ฉันคิดเตลิดเปิดเปิงไปไกลแล้วก็หัวเราะชอบใจอย่างสนุกสนาน บอกตามตรงว่าฉันอยากหยุมหัวเขาอีกแล้ว!

"จะขำอีกนานไหม ถึงแยกข้างหน้าแล้วเลี้ยวซ้ายนะ ตรงไปอีกนิดเดียวก็ถึงหอฉันแล้ว" ฉันหันไปบอกอย่างพยายามระงับอารมณ์ตัวเองสุด ๆ และก็พยายามไม่ส่งเสียงมากไปกว่านี้ เพราะฉันอายที่ตัวเองยังไม่ได้อาบน้ำแปรงฟันอย่างที่นายบ้านี่บอก ฮืออออ

"ใกล้ถึงแล้วเหรอเนี่ย งั้นผมขอไลน์กับขอเบอร์พี่หน่อยสิครับ" ว่าแล้วก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ด้วย

ฉันก็เลยรับมาแล้วเมมเบอร์ตัวเองลงไปพร้อมกับแอดไลน์ให้มันจบ ๆ จะได้ลงจากรถไว ๆ ทำเอานายนี่หันมามองอย่างจับผิด

"ถ้าฉันไม่ทำนายคงไม่ให้ฉันลงจากรถแน่ ๆ อย่าคิดว่าฉันจะไม่รู้" ฉันบอกอย่างรู้ทันคนชอบขู่ พลางยื่นโทรศัพท์คืนให้เขาไป

"หึ" นายธามหัวเราะแล้วรับโทรศัพท์คืนไป แต่ก็ยังไม่วายลองกดโทรเข้ามาเบอร์ฉันเพื่อเช็กดูอีกที

"นี่นาย ฉันไม่โกหกนายหรอกน่า"

"ผมรู้ครับ แต่ผมก็แค่อยากให้พี่มีเบอร์ผมเหมือนกัน ช่วยเมมชื่อว่าที่แฟนตัวเองไว้ด้วยล่ะ เมมว่า...ที่รักได้เลยยิ่งดี"

"เหอะ หลงตัวเอง ฝันไปเถอะว่าฉันจะเมมชื่อนั้นให้นาย"

"หึ ๆ ไม่ฝันหรอกครับ อีกอย่างผมก็ไม่ใช่แค่หลงตัวเอง แต่ผมจะทำให้พี่หลงผมด้วย เอาให้โงหัวไม่ขึ้นเลยคอยดูสิครับ" ไม่พูดเฉย ๆ แต่ยังยิ้มอย่างมั่นอกมั่นใจด้วย

เหอะ ผู้ชายบ้าอะไรเนี่ย!

"จอดตรงนี้แหละ" ฉันบอกเมื่อเขาขับมาถึงหน้าหอฉันแล้ว

"อยากให้จอดก็รีบเมมเบอร์ผมก่อนสิครับ"

"นี่นาย!" ฉันแว้ดขึ้นอย่างลืมตัวเพราะนอกจากนายบ้านี่จะไม่ยอมจอดรถแล้ว เขาก็ยังไม่ยอมปลดล็อกประตูให้ฉันอีก ฉันเลยต้องพยายามกัดฟันทนแล้วรีบเมมเบอร์เมมชื่อที่รักตามที่เขาบอกอย่างจำใจ บ้าจริง!

"พอใจรึยัง!" ว่าแล้วก็ชูหน้าจอเข้าไปให้ดูใกล้ ๆ

"หึ ๆ พอใจมาก ๆ เลยครับ แต่ว่า...ผมขออะไรอีกอย่างสิครับ" ว่าแล้วเขาก็ถอยรถกลับมาจอดหน้าหอฉัน แต่ก็ยังไม่ยอมปลดล็อกประตูให้ฉันอยู่ดี

"ขออะไรอีกล่ะ" ฉันถามเสียงแข็ง

"ผมขอตารางเรียนพี่หน่อยสิครับ พี่เรียนวันไหนเวลาไหนบ้างเดี๋ยวผมมารับมาส่ง"

"นายเรียนตรงกับฉันรึไงถึงจะมารับมาส่งฉันได้" ฉันเลิกคิ้วถาม

"ก็อาจจะไม่ตรงหรอกครับ แต่ถ้าวันไหนพี่มีเรียนก่อนผมก็จะมาส่งพี่ก่อน ถ้าวันไหนพี่มีเรียนทีหลังผม ผมเรียนเสร็จก็จะรีบมารับพี่ไปส่ง แต่ถ้าวันไหนเรามีเรียนเวลาตรงกันเราก็ไปด้วยกันมาด้วยกันไงครับ" ผมอธิบายร่ายยาว แต่ฉันก็ทำได้แค่ทำหน้าไม่เข้าใจว่าเขาจะยุ่งยากทำไมเนี่ย

"เฮ้อ เอาเถอะ จะอะไรก็แล้วแต่นาย" สุดท้ายฉันถอนหายใจอย่างไม่มีอะไรจะเถียง ก่อนจะส่งตารางให้เขาทางไลน์ เพราะถ้าไม่ยอมเขาก็คงไม่ให้ฉันลงจากรถ อีกอย่างก็ดีเหมือนกันที่จะมีคนมาคอยรับคอยส่ง ประหยัดค่าเดินทางดี

"ส่งแล้ว พอใจรึยัง" ฉันชูหน้าจอให้เขาดูอีก

"หึ พอใจครับ" เขาตอบยิ้ม ๆ เมื่อเห็นว่าฉันส่งจริง ๆ เพราะโทรศัพท์เขามันก็เด้งแจ้งเตือนขึ้นมาด้วย

"พอใจแล้วก็รีบ ๆ เปิดประตูให้ฉันสิ"

"ผมเปิดก็ได้ครับ แต่พี่ต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่บล็อกเบอร์ บล็อกไลน์ผมด้วย"

"ฉันไม่บล็อกหรอกน่า" บอกไปแบบนั้นแม้ใจจริงอยากบล็อกก็ตามที แต่ถ้าขืนทำแบบนั้นฉันว่านายนี่ก็คงมารังควานฉันอีก เพราะงั้นฉันจะให้โอกาสเขาตามที่ตกลงกันไว้

ใน 7 วันนั้นผลจะเป็นไงก็ค่อยมาดูกันอีกที

"ชื่นใจจัง" นายธามยิ้มดีใจจนตาหยี ซึ่งมันดู...น่าเอ็นดูจนฉันต้องรีบเปลี่ยนประเด็นไปพูดเรื่องอื่น เพราะเดี๋ยวจะโดนจับผิดเอาได้

"ชื่นใจแล้วก็ปลดล็อกประตูให้ฉันสักทีเถอะ"

"แต่พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยนะครับ เราไปกินข้าวกันก่อนไหม"

"ฉันยังไม่หิว เปิดประตูให้ฉันก็พอ"

"หึ แล้วพี่จะเดินขึ้นหอได้เหรอครับ ให้ผมอุ้มไปส่งดีรึเปล่า"

"ไม่ดี นายเลิกพูดมากได้แล้วน่า แค่ช่วยเปิดประตูให้ฉันก็พอ" ฉันบอกเสียงแข็ง นายธามเลยหัวเราะหึ ๆ ก่อนจะยอมหันไปกดปุ่มปลดล็อกประตูให้ในที่สุด

ฉันจึงเปิดออกไปแล้วลงจากรถเขาในสภาพที่ทุลักทุเลพอสมควร จากนั้นค่อยเดินขึ้นบันไดไป

และพอขึ้นไปได้ไม่กี่ขั้นเลยลองหันกลับมามองเขาอีก ปรากฏว่านายนั่นก็ยังไม่ได้ออกรถไปไหน เขาลดกระจกลงและยังคงนั่งมองพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ฉันอยู่เลย

เฮ้อ ฉันคงหนีนายเด็กเนิร์ดที่นิสัยไม่ได้เนิร์ดเหมือนหน้าตาคนนี้ไม่พ้นจริง ๆ สินะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel