3 มันไม่ถูกต้อง
“เค้กจำป้ายุพินที่อยู่ท้ายซอยหมู่บ้านเราได้ไหม”
“ใช้บ้านหลังสุดท้ายที่เล็กๆ ไหม”
“ใช่บ้านหลังนั้นแหละ”
“ป้ายุพินมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เหรอพี่ครีม”
ป้ายุพินแกมีหลานสาวอยู่คนหนึ่ง ชื่อชลนิภาหรือนิ แล้วนิคนนี้แหละที่เป็นเมียน้อยของคุณไตรภพ”
“อะไรนะ ถ้าเค้กจำไม่ผิดเด็กนั่นน่าจะอายุน้อยกว่าเราหลายปีเลยนะคะ” เพราะไม่ค่อยได้กลับมาเมืองไทยจึงไม่แน่ใจว่าหลานสาวของป้ายุพินจะอายุเท่าไหร่แต่เท่าที่เธอจำได้ตอนที่เธอมาเยี่ยมบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อสี่ปีก่อนเด็กคนนั้นยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมอยู่เลย
“ใช่ตอนนี้นิกำลังเรียนอยู่ปีสองและแอบคบกับคุณไตรภพแต่ทุกครั้งที่นัดเจอกันก็มักจะนัดเจอกันที่ร้านของพี่”
“เมียของเขาเลยคิดว่าพี่เป็นเมียน้อยของเขาใช่ไหมคะ”
“อือก็ประมาณนั้น”
“แล้วทำไมพี่ครีมไม่บอกเขาไปล่ะว่าพี่ไม่ใช่เมียน้อย”
“พี่เคยอธิบายให้เขาฟังหลายครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่เข้าใจสุดท้ายพี่ก็เลยเลือกที่จะอยู่เฉยๆ”
“แล้วจะยอมให้เขาเข้าใจผิดเราไปแบบนี้เหรอคะพี่ครีม”
“เค้กจะให้พี่ทำยังไงได้ล่ะ พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย แล้วถ้าพี่ไปบอกเมียเขาว่านิคือเมียน้อยของสามีเขาพี่ก็สงสารเด็กนะตอนนี้ป้ายุพินไม่ได้ทำงานอะไรเลยเพราะแกสุขภาพไม่แข็งแรงแล้วคุณไตรภพก็ช่วยส่งเสียให้นิเรียนและช่วยจ่ายค่าเช่าบ้านให้ถ้าพี่บอกความจริงไปพี่ก็กลัวว่านิกับป้ายุพินจะลำบาก”
“แต่มันไม่ถูกนะพี่มันเท่ากับพี่ส่งเสริมให้คุณไตรภพเขามีเมียน้อย”
“พี่ไม่ได้ส่งเสริมให้คุณไตรภพเขามีเมียน้อยนะ”
“แต่พี่ก็ไม่ห้ามนี่คะ”
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับเขาพี่จะห้ามเขาได้ยังไง เมียเขาเองยังห้ามไม่ได้เลย แล้วเขาก็มีเมียน้อยมาก่อน พี่แค่เลือกที่จะไม่บอกความจริงกับเมียเขาเท่านั้น เขารวยออกอย่างนั้นแบ่งเงินมาให้นิสักนิดมันก็คงไม่เป็นไรหรอก” เพราะรู้สึกสงสารชลนิภากับป้ายุพินกานต์สิชาเลยไม่บอกกับภรรยาไตรภพว่าภรรยาน้อยของเขาคือใครเธอยอมให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าใจผิดเพราะคิดว่าตนเองไม่ได้เสียหายอะไรเนื่องจากมันไม่เป็นเรื่องจริงและลูกน้องในร้านของเธอก็รู้ดีว่าใครคือผู้หญิงของคุณไตรภพกันแน่
“แต่เค้กว่าเรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ ที่เมื่อคืนเขาขับรถตามพี่จนเกิดอุบัติเหตุมันฟังดูน่ากลัว ถ้าเกิดวันหนึ่งเขามาทำอันตรายพี่ที่ร้านขึ้นมาล่ะมันจะเป็นยังไง”
“พี่ว่าคุณเขมิกาเขาคงไม่ทำแบบนั้นหรอกมั้ง”
“ผู้หญิงเวลาโกรธหรือหึงมันน่ากลัวมากนะพี่ครีม เค้กว่าเราบอกความจริงเรื่องนี้กับเขาดีกว่า” กานต์ชิสากลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาทำอันตรายพี่สาว
“พี่ก็เคยบอกคุณเขมิกาไปแล้ว แต่เข้าก็ไม่เชื่อสุดท้ายก็เป็นเราที่เหนื่อยเปล่า”
“แต่เค้กว่าเรื่องนี้เราต้องให้คุณไตรภพเขายืนยันด้วยนะว่าพี่ไม่ใช่เมียน้อยของเขาเค้กกลัวว่าเขาจะมาทำอันตรายพี่ที่นี่”
“ไม่มีใครทำอันตรายพี่ได้หรอกที่ร้านพี่ก็มีเด็กเยอะแยะอีกทั้งข้างร้านพี่ก็มีแต่คนรู้จักครีมไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
“ก็มันน่าเป็นห่วงนี่ ยิ่งตอนนี้สามีเขาประสบอุบัติเหตุแบบนี้เค้กว่าเขาน่าจะโกรธพี่มากๆ”
คำพูดของกานต์ชิสาทำให้กานต์สิชาเริ่มคิดตามเพราะครั้งนี้คุณเขมิกาดูจะโกรธและโมโหมากๆ และเธอก็อาจจะมาทำร้ายถึงที่นี่ก็ได้ ที่ผ่านมากานต์สิชาพยายามไม่สนใจเรื่องนี้เพราะภรรยาของคุณไตรภพไม่เคยเข้ามาวุ่นวายแต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะโกรธคุณไตรภพเอามากๆ
“เค้กคิดว่าพี่ควรทำยังไงล่ะ”
“พี่ครีมเค้กว่าเราต้องให้คุณไตรภพบอกความจริง”
“แต่เขายังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล”
“เราก็รอให้เขาฟื้นแล้วค่อยไปเยี่ยมเขาดีไหมเค้กจะไปด้วย”
“เอาแบบนั้นก็ได้แต่ ตอนนี้เราไม่รู้เลยว่าอาการของคุณไตรภพเป็นยังไงบ้าง พี่ว่าเราลองโทรไปถามโรงพยาบาลดีไหม” แฝดคนพี่หยิบโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมาจากนั้นก็กดโทรออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่เธอได้มาจากเพจของโรงพยาบาลที่คุณไตรภพนอนรักษาตัวอยู่
แต่เธอก็ต้องผิดหวังเพราะทางโรงพยาบาลไม่สามารถให้ข้อมูลกับคุณเจ็บได้เพราะถือว่ามันเป็นสิทธิของผู้ป่วย
“เอายังไงดีล่ะเราไม่รู้อาการของคุณไตรภพเลย”
“เดี๋ยวเค้กไปเยี่ยมเขาให้ก็ได้ พี่ครีมรออยู่ที่นี่เดี๋ยวถ้าได้เรื่องแล้วเค้กจะโทรมาบอก”
“ไม่ต้องรีบไปก็ได้พี่เป็นห่วงร้าน”
“พี่ครีมก็โทรสั่งเด็กที่ร้านซิว่าวันนี้จะให้พวกเขาทำอะไรบ้าง”
“ขอบใจมากนะเค้ก ถ้าเค้กไม่กลับมาพี่คงแย่แน่ เรื่องที่เกิดอุบัติเหตุกับพี่เค้กไม่ต้องบอกพ่อนะพี่ไม่อยากให้พ่อเป็นห่วง”
“ก็ได้ เค้กจะไม่บอกพ่อ”
“แล้วเรื่องงานของเค้กล่ะเป็นยังไงบ้างทางโรงพยาบาลเขาให้ไปเริ่มงานเมื่อไหร่”
“จริงๆ เขาก็อยากให้เค้กเข้าไปเริ่มงานเร็วที่สุดนั่นแหละ แต่เค้กเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยก็เลยขอเวลาเขาอีกหนึ่งเดือน”
“แล้วระหว่างนี้เค้กจะทำอะไรล่ะ”
“เค้กว่าจะกินแล้วก็นอนจากนั้นก็เที่ยวพี่ครีมไปเที่ยวทะเลกันนะ”
“รอให้พี่หายดีก่อนนะ เพราะไปเที่ยวทะเลตอนนี้พี่ก็ลงน้ำไม่ได้ต้องรอให้แผลหายก่อน”
“ไม่เป็นไรช่วงนี้เดี๋ยวเค้กก็ไปเรียนรู้งานที่ร้านของพี่ก่อนก็ได้พี่จะได้พักบ้าง”
“พี่ก็คงพักแค่วันนี้แค่วันเดียวแหละงานที่ร้านไม่ได้หนักหนาอะไรได้ไปเห็นลูกน้องทำงานยังดีกว่านั่งอยู่ที่บ้าน”
“พี่ครีมนี่ขยันจริงๆ เลยนะเคยปิดร้านกับเขาบ้างไหม”
“ปิดสิแต่ไม่บ่อยหรอก” เธอบอกน้องสาวแล้วยิ้ม
กานต์สิชารับช่วงร้านเบเกอรี่มาจากผู้เป็นมารดา โดยย้ายจากร้านเดิมมาอีกที่บริเวณตึกแถวหน้าหมู่บ้านซึ่งจำหน่ายทั้งเบเกอรี่เครื่องดื่มรวมถึงรับจัดเบรคต่างๆ เดิมทีเธอก็ทำคนเดียวแต่พอทำไปสักพักลูกค้าเริ่มเยอะขึ้นบางคนก็สั่งขนมที่ร้านของเธอไปลงที่ร้านกาแฟของตัวเอง หญิงสาวก็เลยรับลูกน้องเพิ่มมาตอนนี้ในร้านมีพนักงานทั้งหมดสามคนถ้าหากวันไหนเธอไม่ว่างหรือไม่เข้าร้านทั้งสามคนก็สามารถทำงานกันได้มันเลยทำให้กานต์สิชาไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่