2 เจตนาทำร้ายหรือเปล่า
“พี่ครีมบอกเค้กมานะว่าพี่กับเขาเป็นอะไรกัน” กานต์ชิสาคาดคั้นพี่สาวเมื่อกลับมาถึงบ้าน
“เค้กพี่ยืนยันอีกครั้งว่าพี่ได้เป็นเมียน้อยเขาอย่างที่เค้กคิดหรอกนะ พรุ่งนี้พี่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้เค้กฟังทั้งหมดแต่ตอนนี้ขอนอนก่อนได้ไหม”
“ก็ได้ แต่เค้กว่าพี่อาบน้ำก่อนดีไหม แล้วพี่มียาที่ต้องกินหรือเปล่า”
“เอาไว้กินพรุ่งนี้ก็ได้”
เมื่อพี่สาวเข้าห้องนอนไปแล้วกานต์ชิสาก็กลับมาห้องนอนของตนเอง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะตีห้าแล้วหญิงสาวเลยไม่นอนต่อ
หญิงสาวเปลี่ยนมาสวมกางเกงผ้ายืดขาสั้นกับเสื้อกล้ามเพื่อจะออกไปวิ่งบริเวณสวนสาธารณะหน้าหมู่บ้าน
ปกติแล้วตอนอยู่ที่อังกฤษกานต์ชิสาจะออกกำลังกายทุกเช้าแต่กลับมาเมืองไทยได้หนึ่งสัปดาห์กว่าแล้วก็ยังไม่มีโอกาสออกกำลังกายสักที ในเมื่อวันนี้ยังไงก็นอนไม่หลับเธอก็เลยถือโอกาสนี้ไปออกกำลังกาย
หลังจากวิ่งจนเหงื่อชุ่มก็กลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง เธอกลับเข้าห้องอาบน้ำแต่งตัวจากนั้นก็ขี่จักรยานยนต์ไปตลาดหน้าหมู่บ้านซื้อโจ๊กมาให้พี่สาวเพราะเธออาจจะต้องมียาทานหลังอาหารส่วนตัวเองนั้นกลับมาชงกาแฟทานกับขนมปังที่อยู่ในตู้
เธอดื่มกาแฟและทานขนมจนกระทั่งแปดโมงครึ่งพี่สาวก็ยังไม่ออกมาซึ่งปกติแล้วกานต์สิชามักจะตื่นนอนก่อนเธออยู่เสมอ
กานต์ชิสาเดินมาเคาะประตูห้องเพราะรู้สึกเป็นห่วงเนื่องจากเมื่อคืนหญิงสาวเพิ่งประสบอุบัติเหตุเลยกลัวว่าเช้านี้อาจจะไม่สบายหรือลุกไม่ขึ้นก็ได้
“พี่ครีมตื่นหรือยังลุกไหวหรือเปล่า” หญิงสาวตะโกนถามและเมื่อลองบิดประตูก็พบว่าพี่สาวไม่ได้ล็อกประตูห้องเธอจึงเปิดประตูเข้าไป
“พี่ครีมเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมวันนี้ตื่นสายจัง”
“พี่รู้สึกเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปหมดน่ะ น่าจะแรงกระแทกจากเมื่อคืน สงสัยวันนี้พี่คงไปที่ร้านไม่ได้แน่เลย”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวสายๆ เค้กจะเข้าไปดูให้พี่ครีมกินข้าวกินยาดีไหมเผื่อจะดีขึ้น หมอให้ยาอะไรมาบ้างล่ะ” หญิงสาวหยิบถุงยาของพี่สาวมาเปิดดูก็เห็นว่ามีแค่ยาแก้อักเสบอย่างเดียวเท่านั้น
“ไม่มียาแก้ปวดเอาไงดีล่ะ ที่บ้านมียาพาราไหม”
“มีอยู่ในตู้ยาทางด้านนอก”
“ถ้างั้นพี่ครีมรออยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวเค้กไปเอาโจ๊กแล้วก็เอายาเข้ามาให้”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ลุกไปกินข้างนอกก็ได้”
“อย่าฝืนเลยรออยู่ตรงนี้เดี๋ยวเค้กเอามาให้นะ” หญิงสาวรีบออกจากห้องจากนั้นหยิบยาพาราที่อยู่ในตู้ก่อนจะได้เทโจ๊กใส่ชามแล้วเอามาให้พี่สาวถึงในห้องนอน
“กินก่อนนะคะจะได้กินยา”
กานต์สิชาทานโจ๊กไปได้ครึ่งชามก็วางช้อนลงอิ่ม
“อิ่มแล้วเหรอ ทำไมกินไปแค่นิดเดียวล่ะมันไม่อร่อยเหรอ”
“อร่อยสิโจ๊กเจ้านี้อร่อยมากๆ แต่เขาให้เยอะวันหลังถ้าเค้กจะไปซื้อเราแบ่งกันกินคนละครึ่งนะ เช้านี้เค้กกินอะไรหรือยัง”
“กินกาแฟกับขนมปังที่อยู่ในตู้แล้วค่ะ” หญิงสาวพูดขณะที่ส่งยาและน้ำให้กับพี่สาว
“ขอบใจนะ”
“พี่ครีมจะนอนต่อไหม”
“เพิ่งตื่นเองคงนอนไม่หลับหรอกแต่ถ้าจะให้ลุกไปทำงานก็คงไม่ไหว”
“พี่ไม่ต้องห่วงร้านหรอกน่าเดี๋ยวเค้กจัดการเอง แต่ก่อนจะไปที่ร้านเค้กขอคุยกับพี่ครีมหน่อยได้ไหม”
“เรื่องเมื่อคืนใช่ไหมล่ะ”
“ใช่สิ เค้กอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นพี่ต้องเล่ามาให้หมดนะ”
กานต์ชิสาเอาชามโจ๊กและแก้วน้ำไปวางตรงโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะขึ้นมานั่งบนเตียงของพี่สาวแล้วจ้องหน้าอย่างต้องการคำตอบ
“ถ้าพี่ไม่เล่าให้ฟังเค้กก็คงจะไม่ออกจากห้องใช่ไหม”
“ใช่สิมันเกิดอะไรขึ้นแล้วทำไมพี่ถึงไปอยู่ในรถของผู้ชายที่ชื่อไตรภพได้ล่ะ”
“คืออย่างนี้นะเมื่อคืนพี่ไปงานเลี้ยงที่โรงแรมแล้วขากลับบังเอิญเจอกับคุณไตรภพ คุณไตรภพก็ถามว่าพี่จะกลับยังไงพี่ก็เลยบอกว่าจะให้เพื่อนมาส่งแล้วเพื่อนพี่ก็มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น เขาก็เลยอาสาจะมาส่งพี่น่ะเพราะเป็นทางผ่านอยู่แล้วแต่ระหว่างทางมันก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นซะก่อน”
“เขาเมาหรือเปล่า”
“พี่ไม่เลยพี่ไม่ได้กินเหล้าจากตัวเขาเลยแต่ระหว่างทางเมียเขาโทรมาแล้วเขาก็ทะเลาะกัน”
“ขับไปด้วยคุยไปด้วยนี่เอง”
“เมียเขาจะพยายามขับรถไล่ตาม คุณไตรภพเขาก็พยายามหนีสุดท้ายแล้วเขาก็ขับเบียดจนคุณไตรภพเสียหลักรถพลิกคว่ำนั่นแหละ”
“ทำไมเมียเขาจะต้องขับตามด้วยล่ะ”
“เขาคิดว่าพี่เป็นเมียน้อยคุณไตรภพเหมือนที่เค้กคิดนั่นแหละ”
“แต่พี่ไม่ได้เป็นจริงๆ ใช่ไหม”
“โธ่...พี่จะต้องให้อมพระมาพูดหรือไงเค้ก พี่กับคุณไตรภพเป็นแค่คนรู้จักกันจริงๆ”
“แล้วทำไมเมียเขาถึงคิดแบบนั้นล่ะ เขาขับรถเบียดแบบนั้นมันเจตนาทำร้ายร่างกายกันเลยหรือเปล่า” กานต์ชิสาพูดออกไปด้วยความเป็นห่วง
“เขาก็คงระแวงไปทั่ว”
“พี่ครีมยังเล่าไม่หมดใช่ไหมคะ” กานต์ชิสามองหน้าพี่สาวที่คุยกับเธอแต่ไม่ยอมสบตา
“สงสัยพี่จะปิดอะไรเค้กไม่ได้จริงๆ แล้วใช่ไหม”
“อย่าปิดเค้กเลยนะ เค้กกลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะมาทำอันตรายพี่ครีม แต่ถ้าพี่บอกความจริงกับเค้กเราจะได้ช่วยกันแก้ปัญหาได้ยังไงล่ะคะ” เธอพยายามกล่อมพี่สาว
“นี่คงคิดไปกันใหญ่แล้วใช่มั้ยเนี่ย”
“ก็มันน่าคิดไหมล่ะพี่ เล่าให้ฟังเถอะว่าระหว่างพี่กับคุณไตรภพมันคืออะไรกันแน่” เธอรู้สึกเป็นห่วงพี่สาวเนื่องจากเท่าที่ฟังแล้วผู้หญิงคนนั้นท่าทางจะโมโหร้ายไม่เบา
“พี่จะเล่าให้เค้กฟังทั้งหมด แต่เค้กสัญญานะจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับและห้ามเล่าให้ใครฟังเป็นอันขาด”
“ยิ่งพี่พูดแบบนี้เค้กก็ยิ่งอยากจะรู้รีบๆ เล่ามาเถอะนะ” กานต์ชิสาทำสายตาอ้อนวอนเพราะถ้ากานต์สิชาไม่เล่าให้เธอฟังเธอคงได้อกแตกตายแน่ๆ