1 พี่เป็นเมียน้อยเขาหรือเปล่า
ท่ามกลางความมืดในเวลาเกือบเที่ยงคืนรถยนต์สองคันขับเบียดกันมาบนถนนเส้นหนึ่งก่อนที่รถคันหน้าจะเสียหลักพลิกคว่ำอยู่หลายตลบจนไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง
รถที่ขับเบียดมานั้นไม่ได้จอดให้ความช่วยเหลือแต่ขับเลยไปแล้ววนกลับมาอีกครั้งคนในรถรีบโทรศัพท์แจ้งเหตุกับกู้ภัยและรอจนกระทั่งได้ยินเสียงไซเรนก็รีบขับออกไปจากจุดเกิดเหตุ
เสียงโทรศัพท์ของกานต์ชิสาหญิงสาววัย 24 ปีดังขึ้นในเวลา 02.15 นาฬิกา เจ้าของโทรศัพท์กวาดมือไปบนเตียงนอนเพื่อหาโทรศัพท์ที่ไม่รู้ว่ามันไปซ่อนอยู่ตรงไหนบนเตียงนอนกว้าง
“ใครโทรมาเวลานี้นะ” หญิงสาวเปิดโคมไฟที่หัวเตียงเพื่อหาโทรศัพท์ที่ยังส่งเสียงไม่ยอมหยุด ถ้าปลายสายที่โทรมาไม่มีเรื่องสำคัญละก็ได้เห็นดีกันแน่
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีใช่เบอร์ของคุณกานต์ชิสาไหมคะ”
“ใช่ค่ะ”
“ดิฉันเป็นพยาบาลประจำห้องฉุกเฉินจากโรงพยาบาล xxx ค่ะ”
“โรงพยาบาลเหรอคะ” กานต์ชิสามองนาฬิกาดิจิทัลที่โต๊ะข้างเตียงแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน ดึกขนาดนี้แล้วโรงพยาบาลจะโทรมาหาเธอทำไมกันหรือว่าจะมีใครเป็นอะไร
“ใช่ค่ะ ดิฉันจะโทรมาแจ้งว่าตอนนี้คุณกานต์สิชาได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วเธอให้เราโทรมาแจ้งคุณค่ะ”
“แล้วพี่สาวของฉันเป็นอะไรมากไหมคะ ทำไมเธอไม่โทรมาเอง”
“เธอไม่มีแผลนิดหน่อยค่ะ กำลังทำแผลอยู่แต่เธอบอกให้ฉันโทรบอกคุณให้มารีบรับ”
“ได้ค่ะ ไม่เกินสิบนาทีฉันจะไปรับค่ะ”
เมื่อวางสายจากพยาบาลแล้วกานต์ชิสาก็รีบล้างหน้าและเปลี่ยนชุดก่อนจะขับรถตรงมายังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
“เค้กทางนี้” หญิงสาวคนหนึ่งโบกมือให้กับคนที่วิ่งเข้ามาที่หน้าฉุกเฉินใบหน้าของเธอทั้งสองคนนั้นเหมือนกันมากถ้าหากอีกคนหนึ่งไม่มีผ้าก็อซติดที่ศีรษะก็คงแยกไม่ออกแน่ว่าใครเป็นใคร
“พี่ครีมเป็นอะไรหรือเปล่าเจ็บมากไหม แล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
“ก็เท่าที่เห็น เรารีบไปกันเถอะเค้ก เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนอยู่ในรถนะ” กานต์สิชาตอบน้องสาวฝาแฝดและมีท่าทางร้อนรน
“ทำไม่รีบจังพี่ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม ให้หมอตรวจอย่างละเอียดหรือยัง”
“อือ หมอตรวจดีแล้ว รถจอดอยู่ไหนล่ะ”
“นู้นไง เดินไหวไหม” เธอหันมาถามพี่สาวด้วยความเป็นห่วง
“ไหวสิพี่เจ็บที่หัวนะไม่ได้เจ็บที่ขาสักหน่อย” เธอตอบก่อนจะเดินนำไปยังรถที่จอดอยู่หน้าโรงพยาบาล
“เล่ามาเลยนะพี่ครีมว่ามันเกิดอะไรขึ้นนี่มันดึกมากแล้วทำไม่พี่ถึงไม่นอนอยู่ที่บ้าน”
“เค้กขับรถไปโรงพยาบาลxxx ให้หน่อยสิ”
“พี่ครีมจะไปทำไม แล้วก็ตอบคำถามของเค้กมาก่อน”
“ก็คนที่ขับรถให้พี่นั่งถูกพาไปโรงพยาบาลนั้น” เพราะโรงพยาบาลที่เธอมารักษานั้นเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กเครื่องมือมีไม่มากพอกู้ภัยเลยไปส่งคนที่อาการหนักว่าที่นั่น
“ใครเหรอพี่”
“คุณไตรภพ”
“เขาเป็นใครเหรอ” กานต์ชิสาถามพี่สาวเพราะตั้งแต่เธอกลับมาจากอังกฤษได้หนึ่งสัปดาห์ก็ยังไม่เคยได้ยินพี่สาวพูดถึงคนชื่อนี้เลย
“เขาจะเป็นแฟนพี่ได้ยังไงเค้กก็รู้ว่าแฟนพี่ชื่อภูมิ แล้วคนนี้เขาก็มีเมียแล้ว”
“พี่ครีมคงไม่ได้เป็นเมียน้อยเขาใช่ไหม” หญิงสาวหันมามองหน้าพี่สาวที่เกิดก่อนตนเองสองนาทีด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างจะผิดหวัง
“อย่าเพิ่งมองพี่แบบนั้นสิ พี่กับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“แล้วทำไมถึงต้องนั่งรถมาด้วยกันกลางดึกแบบนี้ล่ะ เราพี่น้องกันนะมีอะไรก็บอกเค้กมาเถอะน่า”
“ไม่เชื่อใจกันเลยเหรอเค้ก”
“ก็พี่ทำตัวน่าสงสัยนี่”
“เดี๋ยวพี่จะเล่าทุกอย่างให้เค้กฟังทั้งมดเลย แต่ตอนนี้ขอไปดูก่อนว่าคุณไตรภพเขาเจ็บมากไหมและภรรยาเขารู้ข่าวหรือยัง”
“พี่บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแล้วพี่จะไปเยี่ยมเขาทำไม”
“เค้กพี่นั่งรถมากับเขานะ ถ้าไม่เห็นว่าเขาปลอดภัยพี่คงนอนไม่หลับแน่ๆ ตอนที่กู้ภัยพาเขาไปเอาเลือดออกเยอะมากพี่กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไปน่ะ” สีหน้าของพี่สาวทำให้คนเป็นน้องอย่างกานต์ชิสาไม่ค่อยสบายใจเลย
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลกานต์สิชาก็ตรงไปที่ห้องฉุกเฉินซึ่งตอนนี้ด้านในเหมือนจะไม่มีผู้ป่วยเลยสักคน
“ขอโทษนะคะ คนเจ็บที่กู้ภัยมาส่งเมื่อกี้ไปไหนแล้วค่ะ” เธอถามเจ้าหน้าที่ซึ่งนั่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
“คุณหมายถึงคนไหนคะ” เพราะในแต่ละคืนมีคนเจ็บเข้ามาใช้บริการค่อนข้างมากเจ้าหน้าที่จึงต้องถามให้แน่ใจ
“คุณไตรภพค่ะ”
“คุณเป็นอะไรกับเขาคะ” เจ้าหน้าที่ถามเพราะข้อมูลของผู้ป่วยก็ถือว่าเป็นความลับอย่างหนึ่งที่จะบอกให้คนอื่นรู้ไม่ได้
“ฉันนั่งมากับเขาในรถคันที่เกิดอุบัติเหตุค่ะ แต่ฉันถูกพาไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ถ้าคุณไม่เชื่อจะถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่พามาส่งก็ได้นะคะ ว่าฉันนั่งอยู่ในรถคันเดียวกับคุณไตรภพจริงหรือเปล่า”
“คนเจ็บได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแต่ไม่เป็นอะไรมากแต่ที่ขามีกระดูกหักค่ะตอนนี้ถูกพาไปที่ห้องผ่าตัดแล้ว”
“ภรรยาเขารู้เรื่องแล้วใช่ไหมคะ”
“ค่ะ ตอนนี้ก็น่าจะอยู่หน้าห้องผ่าตัด”
“ขอบคุณนะคะ” กานต์สิชากล่าวขอบคุณจากนั้นก็ทำท่าจะเดินกลับ
“เราจะขึ้นไปดูเขาไหมพี่ครีม”
“เอาไว้เขาออกจากห้องผ่าตัดเราค่อยมาเยี่ยมพรุ่งนี้ก็ได้ ตอนนี้พี่ง่วงมากอยากกลับไปนอน”