บท
ตั้งค่า

4 อย่ายุ่งกับสามีฉันอีก

เมื่อคุยกับพี่สาวแล้วกานต์ชิสาก็แวะไปยังร้านเบเกอรี่สั่งงานลูกน้องตามที่พี่สาวบอกจากนั้นก็ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนจะตรงไปยังโรงพยาบาล

หญิงสาวได้ชื่อจริงและนามสกุลจริงมาจากกานต์สิชาก็เลยถามจากทางประชาสัมพันธ์และอ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนจากบริษัทประกันชีวิตประชาสัมพันธ์ก็เลยยอมบอกว่าคุณไตรภพรักษาตัวอยู่ที่ไหน

กานต์ชิสาเดินตามป้ายบอกทางแผนกไอซียูเธอยืนมองคนไข้ที่อยู่ด้านในผ่านกระจกหญิงสาวไม่รู้หรอกว่าคนไหนชื่อไตรภพจึงต้องไปถามจากพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์แต่พยาบาลพยาบาลก็ไม่ยอมบอก

เธอถอนหายใจและขอตัวกลับแต่ยังไม่ทันออกมาจากบริเวณหน้าห้องไอซียูก็เจอผู้หญิงกับผู้ชายเดินมาเข้ามาทัก

“ยังมีหน้ามาเยี่ยมกันอีกนะ เพราะเธอคนเดียวเลยทำให้พี่ไตรถึงเป็นแบบนี้”

“คุณพูดถึงอะไร” กานต์ชิสากำลังงงว่าผู้หญิงคนนี้หมายถึงอะไร

“ยังจะมาทำหน้าซื่อ ฉันรู้นะว่าเมื่อคืนเธออยู่ในรถกับพี่ไตร”

“คุณเป็นเมียของคุณไตรภพเหรอคะ” กานต์ชิสาถามเพราะไม่เคยเจอมาก่อนแต่ถ้าเดาจากคำพูดก็น่าจะใช่

“อย่าทำมาเป็นไม่รู้จักฉันหน่อยเลย เธอก็รู้ว่าฉันเป็นเมียพี่ไตร แล้วฉันขอบอกไว้เลยนะว่ายังไงฉันกับพี่ไตรไม่มีทางเลิกกันเด็ดขาด”

“ค่ะ”

“แล้วเขาขอสั่งอีกอย่างจากนี้เธออย่ามาเยี่ยมพี่ไตรอีก”

“แต่ฉันอยากรู้ว่าการของคุณไตรภพเขาเป็นยังไงบ้าง”

“เธอจะอยากรู้ไปทำไมล่ะ”

“ก็ในฐานะคนเคยรู้จักกัน”

“แค่คนเคยรู้จักเหรอ ฉันล่ะสงสารพี่ไตรจริงๆ ถ้ามาได้ยินคำพูดนี้จากเธอเขาคงเสียใจมากนะ เอาล่ะฉันจะบอกให้เอาบุญก็แล้วกันว่าตอนนี้อาการของพี่ไตรเป็นยัง”

“ขอบคุณค่ะแล้วเขาเป็นยังไงบ้าง”

“พี่ไตรมีเลือดคลั่งในสมองตอนนี้สมองเขาบวมมากและขาหัก”

“เลือดคลั่งเหรอคะ” เธอตกใจเพราะเมื่อคืนพยาบาลที่ห้องฉุกเฉินไม่ได้บอกแบบนั้น

“หมอยังไม่รู้เลยว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนไหนและจะจำอะไรได้หรือเปล่า เป็นยังไงล่ะพอใจหรือยังเพราะเธอคนเดียวให้พี่ไตรต้องเป็นแบบนี้”

“คุณแน่ใจเหรอคะว่าฉันเป็นคนทำให้สามีคุณเป็นแบบนี้ถ้าหากคุณไม่ขับรถไล่ตามอุบัติเหตุก็คงไม่เกิดขึ้น” กานต์ชิสาเถียงไปตามที่ตนเองฟังมาจากพี่สาว

“ก็ฉันบอกให้เขาหยุดจอดรถคุยกับฉัน เขาไม่ยอมหยุดเองเป็นเธอใช่ไหมล่ะที่บอกให้เขาขับรถหนีฉัน”

“ฉันจะทำอย่างนั้นทำไมล่ะ”

“ก็เพราะเธออยากจะให้เขาเป็นของเธอคนเดียวไงล่ะ ถ้าพี่ไตรเป็นอะไรขึ้นมาเธอจะต้องรับผิดชอบ”

“จะให้ฉันรับผิดชอบอะไรเขาก็เป็นสามีของคุณ มันเกี่ยวอะไรกับฉัน”

“ทีแบบนี้มาบอกว่าเขาเป็นผัวฉันแล้วทีวันอื่นล่ะเธอเอาเขาไปกกอยู่ตั้งนานไม่ละอายใจมั่งเหรอ”

“คุณจะพูดหรือจะคิดอะไรก็แล้วแต่คุณเลยค่ะ ตอนนี้ฉันต้องการแค่ให้คุณไตรฟื้นขึ้นมาเร็วที่สุด เขาจะได้บอกอะไรบางอย่างกับคุณ”

“เธอคงไม่หวังให้เขาฟื้นขึ้นมาแล้วบอกเลิกฉันหรอกนะเพราะมันไม่มีทางเป็นแบบนั้นเลย ถ้าเขาเลิกกับฉันเขาก็เป็นผู้ชายที่เหลือแต่ตัวเท่านั้น”

“เขาจะเหลือแต่ตัวมันก็ไม่เกี่ยวกันฉัน”

“แน่เหรอ ถ้าเขาไม่มีเงินให้เธอจะยอมเป็นเมียน้อยเขาเหรอ รู้ไว้นะบริษัทที่เขาบริหารงานอยู่ตอนนี้มันก็เป็นบริษัทของครอบครัวฉัน เขาจะไม่เหลืออะไรเลยแล้วเธออยากจะได้ผู้ชายที่ไม่เหลืออะไรเลยแบบนั้นหรอก”

“เขมพี่ว่าค่อยๆ คุยกันดีกว่านะเสียงดังเกินไปแล้ว” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เตือนน้องสาว

“พี่เข้มจะให้เขมใจเย็นได้ยังไงล่ะ ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียน้อยแล้วยังจะมีหน้ามาเยี่ยมพี่ไตรอีก”

“ฉันไม่อยากจะคุยเรื่องนี้กับคุณหรอกค่ะรอให้เขาฟื้นขึ้นมาก่อนดีกว่า” กานต์ชิสาส่ายหัว

“ฉันขอสั่งเธอเลยนะ ว่าห้ามมายุ่งกับพี่ไตรอีกเด็ดขาด อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า อย่าให้ฉันรู้ว่าเธอยังแอบมาเยี่ยมเพราะถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะทำลายร้านเบเกอรี่เล็กๆ ของเธอให้มันไม่เหลือแม้แต่ซากเลยทีเดียว” เขมิกาขู่ด้วยน้ำเสียงอาฆาต

“โหดร้ายเกินไปไหมคะคุณ แต่คิดเหรอว่าฉันจะกลัวกับคำขู่ของคุณ”

“เธอกำลังท้าทายฉันอยู่นะเปล่าค่ะ”

“ฉันไม่กล้าท้าทายคุณหรอกค่ะ ถ้ายังไงขอตัวกลับก่อนนะคะ” หญิงสาวพูดจบก็เดินออกมาจากบริเวณหน้าห้องไอซียูเข้ามาในลิฟต์โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าผู้ชายที่เดินมากับภรรยาคุณไตรภพเดินตามเธอมาด้วย

“ผมขอคุยอะไรกับคุณหน่อยสิ”

“ฉันเหรอคะ”

“ใช่คุณนั่นแหละ”

“แล้วคุณเป็นใครจะมาขอคุยกับฉันได้ยังไง”

“ผมเป็นพี่เขยของนายไตร”

“พี่เขยหมายความว่าคุณคือพี่ชายของผู้หญิงที่ด่าฉันเมื่อกี้เหรอคะ” กานต์ชิสาไม่รู้ว่าเขาจะตามเธอมาทำไม

“ใช่ผมคือใช่ผมคือพี่ชายของเธอ และผมมีอะไรจะตกลงกับคุณหน่อย”

“ทำไมฉันจะต้องตกลงอะไรกับคุณล่ะคะ ในเมื่อฉันกับพี่เขยของคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“คุณอย่าคิดนะว่าผมไม่รู้ว่าคุณกับนายไตรเป็นอะไรกัน”

“แล้วคุณคิดว่าฉันกับเขาเป็นอะไรกัน”

“จะต้องให้ผมพูดอีกเหรอ”

“ก็ได้ค่ะ ไม่พูดก็ไม่พูดงั้นคุณจะคุยอะไรกับฉัน”

“เราไปหาที่นั่งคุยกันดีไหม ร้านกาแฟตรงนั้นเป็นไง” เขาพูดเมื่อลิฟต์มาแล้วเห็นร้านกาแฟพอดี

“ก็ได้ค่ะ”

เมื่อไปถึงร้านทั้งสองก็สั่งเครื่องดื่มและขนมคนละชิ้นจากนั้นชายหนุ่มก็แนะนำตัว

“ผมชื่อเขมณัฏฐ์หรือจะเรียกว่าเข้มก็ได้ แล้วคุณล่ะชื่ออะไร” เขายังไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไรเพราะเขมิกาก็ไม่เคยพูดชื่อภรรยาน้อยของไตรภพให้เขาฟัง

“ฉันชื่อเค้กคุณมีอะไรจะคุยกับฉันก็คุยมาสิคุณเข้ม”

“ผมไม่อยากให้คุณไปยุ่งเกี่ยวกับน้องเขยและน้องสาวผมอีก”

“ฉันไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวเลย ที่ฉันมาวันนี้ก็อยากจะมาดูว่าอาการเขาเป็นยังไงบ้าง”

“ในเมื่อคุณเห็นแล้วว่าตอนนี้เขายังไม่ฟื้นเพราะฉะนั้นคุณก็อย่ามาเยี่ยมพี่เขยผมอีก”

“คนเราจะแสดงความมีน้ำใจมาเยี่ยมกันไม่ได้เชียวเหรอคะ ทำไมคุณจะต้องห้ามด้วย”

“ถ้าเป็นคนอื่นผมคงไม่ห้ามแต่คุณก็รู้ตัวดีว่าคุณเป็นอะไรกับนายไตรผมไม่อยากให้น้องสาวผมไม่สบายใจ”

“ดูท่าทางคุณเป็นพี่ชายที่แสนดีจังเลยนะ”

ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ใช่เขาเป็นพี่ชายที่แสนดีอย่างที่ผู้หญิงก็มีพูดจริงๆ ไม่ว่าน้องสาวของเขาอยากได้อะไรหรือต้องการให้เขาทำอะไรเขมณัฏฐ์ก็จะทำให้น้องสาวทุกอย่าง เพราะมีกันอยู่แค่สองพี่น้องเนื่องจากบิดามารดาเสียชีวิตไปกันหมดแล้วอะไรก็ตามที่ทำให้เขมิกามีความสุข เขาก็ยินดีทำทุกอย่าง

“ตกลงค่ะ ฉันจะไม่มาเยี่ยมเขาอีกแล้ว แต่ถ้าเขาฟื้นขึ้นมาคุณช่วยรบกวนโทรบอกฉันหน่อยได้ไหม แค่โทรบอกมันคงไม่ลำบาก เกินไปหรอกนะคะ”

“เอาเบอร์โทรศัพท์ของคุณมาสิถ้านายไตรฟื้นผมจะโทรบอกคุณ”

เมื่อแลกเบอร์โทรศัพท์แล้วหญิงสาวก็เดินออกไปจากร้านกาแฟเขมณัฏฐ์มองตามด้วยความเสียดายเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์มาก แต่ไม่น่าจะต้องมาเป็นภรรยาน้อยของใครเลยถ้าหาได้เจอเธอก่อนไตรภพเขาก็อาจจะจีบเธอก็ได้แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel