11 ไม่ได้เป็นอะไรกัน
กานต์ชิสาขับรถออกมาจากบ้านของเขมณัฏฐ์และไปตามทางที่ถามมาจากน้าประนอม เมื่อเลี้ยวขวามาตามทางก็เห็นป้ายร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ หญิงสาวจอดรถที่หน้าร้าน เมื่อเปิดประตูลงจากรถพนักงานก็เข้ามาต้อนรับอย่างดี
“สวัสดีครับคุณลูกค้า ให้ทางร้านรับใช้อะไรครับ”
“ฉันอยากได้แอร์สักตัวค่ะ”
“เชิญทางนี้เลยครับ ทางร้านเรามีแอร์หลายยี่ห้อเลยครับ ไม่ทราบว่าได้ดูมาก่อนไหมว่าอยากได้ยี่ห้ออะไร “
“ยังเลยค่ะ คุณช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้ครับ ผมขอถามเบื้องต้นก่อนะครับว่าจะเอาไปใช้กับห้องไหนครับ ห้องนอนห้องรับแขกหรือเป็นสำนักงานครับ”
“ห้องนอนค่ะ”
“พอจะทราบขนาดของห้องไหมครับแล้วแดดสองหรือเปล่า ถ้าส่องเป็นช่วงเช้าหรือบ่ายครับ”
แต่ละคำถามที่พนักงานถามออกมานั้นกานต์ชิสาตอบอะไรได้เลยสักอย่าง
“ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าขนาดห้องนอนมันเท่าไหร่”
“เอาพอประมาณก็ได้ครับผมจะได้กะขนาดบีทียูให้คุณถูก” พนักงานบอกอย่างสุภาพขณะเตรียมกระดาษกับปากกามาจด
“ฉันไม่รู้จริงๆ ถ้ายังงั้นเอาขนาดกลางๆ ไปก่อนก็ได้ค่ะ”
“บ้านคุณอยู่ไกลไหมผมจะให้ช่างเข้าไปดูขนาดห้องก่อนก็ได้แล้วจะตกลงเลือกกี่บีทียูก็ค่อยคุยกันอีกที”
“ก็หลายกิโลอยู่ค่ะ บ้านฉันอยู่ตรงท่าข้าวเขมณัฏฐ์ค่ะ”
“คุณหมายถึงท่าข้าวของคุณเข้มเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“คราวนี้จะเอาไปติดบ้านหลังไหนล่ะ”เสียงหนึ่งดังมาจากทางด้านหลังกานต์ชิสาหันไปมองก็เห็นผู้ชายท่าทางสุภาพเดินออกมาจากมุมหนึ่งของร้าน
“ฉันจะเอาไปติดห้องนอนค่ะ”
“หมายถึงห้องนอนอีกห้องหนึ่งในบ้านหลังนั้นใช่ไหมครับ”
“คุณรู้ได้ยังไงคะ”
“ก็ผมเป็นเพื่อนกับเจ้าของบ้านหลังนั้น เดี๋ยวผมดูแลให้นะคุณจะเลือกยี่ห้ออะไรล่ะ”
“คุณช่วยเลือกได้ไหม ฉันไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย”
“เดี๋ยวผมจัดการให้คุณรออยู่ตรงนี้นะ” เขาหายไปกับลูกน้องสักพักจากนั้นก็เดินกลับออกมา
“ได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ครับ ผมจะให้ลูกน้องเข้าไปติดตั้งหลังจากบ่ายนี้นะครับ”
“จะเสร็จทันเย็นนี้ไหมคะ”
“เสร็จทันแน่นอนครับเพราะห้องนั้นมันเคยมีแอร์อยู่ก่อนแล้วแค่เอาไปติดในตำแหน่งเดิมแค่นั้น”
“ขอบคุณนะคะ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่คะ เดี๋ยวฉันขอสแกนจ่าย”
“ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวผมไปเก็บกับเพื่อนผมทีเดียวก็แล้วกัน แต่ผมขอมัดจำหน่อยได้ไหม”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันโอนให้”
“ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องเงิน”
“แล้วหมายถึงอะไรคะ”
“ผมอยากรู้ว่าผมเป็นใคร แล้วทำไมถึงมาอยู่บ้านเดียวกับเพื่อนผมได้” ยงยศถามด้วยความสงสัยเพราะเพื่อนเขาไม่เคยพาใครมาอยู่ที่บ้านเลยขนาดเพื่อนผู้ชายเวลาไปกินเหล้ายังต้องแยกย้ายกันกลับแต่นี่เธอเป็นผู้หญิงเลยอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร
“ฉันเป็นคนรู้จักของเขาและมีเหตุจำเป็นจะต้องมาอยู่กับเขาชั่วคราวค่ะ”
“คุณรู้จักจริงเหรอปกติไอ้เข้มไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาค้างที่บ้านเลยนะ ผมว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ”
“ไม่แปลกหรอกค่ะ ไม่เชื่อก็ลองไปถามเขาสิคะ ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ”
“ผมก็ยังไม่ได้ว่าคุณเป็นอะไรกับเขาเลยนะ ดูเหมือนคุณจะร้อนตัวรีบปฏิเสธ”
“ก็ฉันไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิดนี่คะ เพราะความเข้าใจผิดมันสร้างความเสียหายมานักต่อนัก”
“เรื่องแค่นี้เองไม่เสียหายหรอกมั้งครับ ว่าแต่ผมขอทราบชื่อคุณหน่อยได้ไหมล่ะ”
“ฉันชื่อเค้กค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเค้ก ผมชื่อย้งเป็นเพื่อนของไอ้เข้ม”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณย้งชื่อคุณแปลกดีนะคะ”
“มันมาจากยงยศนะครับ เพราะผมมีเชื้อสายจีนชื่อเล่นก็จะออกไปทางจีนๆ หน่อย แล้ววันนี้ไอ้เข้มมันไปไหนล่ะครับถึงให้คุณเข้ามาซื้อแอร์คนเดียวแบบนี้”
“เขาก็อยู่ที่ท่าข้าวนั่นล่ะคะ เห็นว่าวันนี้มีรถข้าวเข้ามาเยอะเลย”
“ปกติรถที่เข้ามาท่าข้าวไอ้เข้มมันก็เยอะแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว ครับยิ่งช่วงที่เกี่ยวข้าวนี่แทบไม่ได้พักกันเลยทีเดียว”
“แล้วช่วงนี้ใช้ช่วงเกี่ยวข้าวหรือเปล่าคะ”
“ช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวครับ นอกจากคุณจะมาซื้อแอร์แล้ววันนี้จะไปไหนต่อไหม”
“เค้กคิดว่าจะไปซื้อของใช้ที่จำเป็นหน่อยค่ะ”
“ก่อนไปผมขอเลี้ยงกาแฟคุณสักแก้วได้ไหมล่ะถือว่าเป็นโอกาสที่เราได้รู้จักกัน”
“เค้กรบกวนคุณไปหรือเปล่าคะ คุณยังต้องทำงาน”
“ในร้านผมมีลูกน้องหลายคนครับ ปกติแล้วผมก็ไม่ได้ออกมาคุยกับลูกค้าเองหรอกแต่บังเอิญว่าเดินผ่านมาแล้วได้ยินคุณพูดถึงท่าข้าวของไอ้เข้มก็เลยเข้ามาคุย ข้างร้านผมมีร้านกาแฟไปนั่งกินในนั้นกันนะคุณคงไม่ได้ไปซื้อของเท่าไหร่ใช่ไหมครับ”
“ก็ได้ค่ะ” เพราะตั้งแต่เช้าหญิงสาวยังไม่มีกาแฟตกถึงท้องและเธอก็เริ่มจะปวดศีรษะนิดๆ เมื่อร่างกายไม่ได้รับคาเฟอีน เธอว่ามันเป็นข้ออ้างสำหรับคนติดกาแฟแต่ทุกครั้งที่ได้กินมันก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมากจริงๆ
หลังจากดื่มกาแฟและพูดคุยกับยงยศแล้วกานต์ชิสาก็ขับรถตรงไปยังห้างสรรพสินค้าเธอเลือกซื้อของใช้บางอย่างจากนั้นก็ตรงไปยังร้านขายเสื้อผ้าที่มีอยู่ไม่กี่ร้าน
เธอไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนจึงเลือกซื้อกางเกงยีนเพิ่มอีกหนึ่งตัวที่เหลือก็เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวและเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นสำหรับออกกำลังกาย หญิงสาวซื้อรองเท้าผ้าใบอีกหนึ่งคู่เพราะอยากจะวิ่งในตอนเช้าเนื่องจากอากาศที่นี่สดชื่นมาก
เมื่อได้เสื้อผ้าครบแล้วกานต์ชิสาก็ตรงไปแผนกชุดชั้นในเลือกแบบที่ตัวเองชอบมาอีกสี่ชุดจากนั้นก็ซื้อชุดนอนเพิ่มอีกสองชุดเพราะที่เธอเตรียมมานั้นมีแค่สองชุดเท่านั้น
กานต์ชิสาเอาของไปเก็บที่รถจากนั้นก็ขึ้นเดินมาบริเวณฟูดคอร์ทเพื่อทานอาหารกลางวันง่ายๆ ก่อนจะไปแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อขนมและกาแฟเนื่องจากเมื่อเช้าเธอเห็นแล้วว่าที่บ้านของเขาไม่มีขนมอะไรเลยเธอคงอยู่ไม่ได้แน่ถ้าไม่ได้กินขนม
เมื่อเดินผ่านแผนกเบเกอรี่กานต์ชิสาก็คิดถึงพี่สาวฝาแฝดขึ้นมา มันเป็นโอกาสดีมากๆ ที่เธอจะโทรหาพี่สาวในตอนนี้
“ว่าไงเค้กตอนนี้อยู่ไหน”
“เค้กมาซื้อขนมกับเพื่อนๆ เดี๋ยวก็จะออกเดินทางกันต่อ แล้วพี่ครีมเป็นยังไงบ้างมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นที่ร้านหรือเปล่า”
“ไม่มีเลยเค้กไม่ต้องเป็นห่วงนะเที่ยวให้สนุกเถอะ”
“อย่าลืมนะพี่ครีมมีอะไรให้โทรหาตำรวจก่อนเลยเขาจะได้มาช่วยทัน”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ห่วงแต่ตัวเองเถอะเวลาเที่ยวก็ดูแลตัวเองด้วย”
“รับทราบค่ะ ถ้างั้นเค้กวางก่อนนะเพื่อนเรียกแล้วบ๊ายบายจ้ะ”
เมื่อวางสายจากพี่สาวฝาแฝดแล้วกานต์ชิสาก็โทรศัพท์ไปหาบิดาเพื่อบอกท่านว่าช่วงนี้อาจจะติดต่อยากหน่อยเพราะเธอมาเที่ยวกับเพื่อนซึ่งบิดาของหญิงสาวก็เข้าใจดีเพราะตอนที่อยู่อังกฤษกานต์ชิสาก็มักจะไปเที่ยวกับเพื่อนแบบนี้อยู่เป็นประจำ
เมื่อบอกกับคนที่รักทั้งสองคนไม่ให้เป็นห่วงแล้วกานต์ชิสาก็เดินซื้อขนมต่อก่อนจะชำระเงินและขับรถตรงไปยังบ้านของเขมณัฏฐ์
เมื่อไปถึงทุกอย่างก็เรียบร้อยหมดแล้วแต่ดูเหมือนเจ้าของบ้านกำลังจะโมโหอะไรสักอย่าง