12 จะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก
“คุณไปไหนมาเค้ก” เขมณัฏฐ์ทำเสียงเข้ม
“ไปซื้อของมาค่ะ ฉันก็บอกคุณแล้วนี่ว่าจะเข้าไปซื้อของในเมือง”
“ใช่ผมรู้ว่าคุณจะเข้าไปซื้อของแล้วเรื่องติดแอร์ล่ะ มันคืออะไร”
“ก็คุณเป็นคนอนุญาตเองนี่”
“ผมไปอนุญาตคุณตอนไหน”
“ก็เมื่อเช้าไงตอนที่คุณพาฉันไปแนะนำให้กับคนในออฟฟิศของคุณจากนั้นฉันก็เดินตามคุณออกมาแล้วฉันก็ถามคุณว่าขอไปซื้อของในเมืองได้ไหมขอติดแอร์ได้ไหมคุณก็พยักหน้าแล้วตอบตกลง”
“ผมตอบตกลงคุณจริงๆ เหรอ”
“จริงสิถ้าคุณไม่ตกลงฉันจะกล้าให้เขามาติดแอร์เหรอ แต่ถ้าคุณไม่พอใจคุณจะหักเอาจากเงินที่คุณจะจ่ายฉันก็ได้นะ”
“เปล่าผมไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ตกใจว่าจู่ๆ ก็มีคนเข้ามาติดแอร์ที่บ้าน” จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ได้โมโหหรือโกรธเรื่องที่หญิงสาวให้ช่างมาติดแอร์แต่รู้สึกไม่พอใจมากกว่าที่เธอเข้าไปในเมืองและไปเจอกับเพื่อนของเขาโดยไม่ได้บอกเขามันทำให้เขาตอบคำถามเพื่อนไม่ถูกว่าตอนนี้กานต์ชิสามาอยู่ที่บ้านของเขาในสถานะอะไร
“คุณเจอกับเพื่อนผมด้วยใช่ไหม”
“ใช่ค่ะคุณย้งเขาอัธยาศัยดีมากๆ เขาพาฉันไปเลี้ยงกาแฟด้วยนะคะ”
“นอกจากเลี้ยงกาแฟแล้วเขาได้พาไปไหนหรือเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ คุณถามทำไมคะ”
“เปล่าผมก็แค่ถามดูและก็อยากจะเตือนด้วยนะว่าคุณอย่ามายุ่งกับเพื่อนของผมเป็นอันขาดผมไม่อยากให้เขาโดนหลอก”
“นี่คุณคิดว่าที่ฉันไปกินกาแฟกับเพื่อนคุณเพราะฉันสนใจเพื่อนคุณและจะไปหลอกเพื่อนคุณอย่างนั้นเหรอคะ”
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะตอนนี้คุณไม่มีนายไตรให้เกาะแล้วคุณก็น่าจะกำลังหาเป้าหมายคนใหม่”
“ทำไมคุณชอบดูถูกฉันจังนะคุณเข้ม ทำไมไม่รู้จักมองโลกในแง่ดีบ้างที่ฉันคุยกับเขาก็เพราะเห็นว่าเขาเป็นเพื่อนของคุณมันก็แค่นั้นเอง”
“ก็ขอให้แค่นั้นอย่างที่พูดก็แล้วกันนะ”
“ฉันชักจะสงสัยแล้วสิ”
“สงสัยอะไร”
“ที่คุณไม่พอใจเพราะกลัวว่าฉันจะไปหลอกเพื่อนของคุณหรือเพราะคุณไม่อยากให้ฉันไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นกันแน่”
“คุณจะไปยุ่งกับผู้ชายคนไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับผมเลยแต่ผมขอร้องว่าอย่ายุ่งกับคนใกล้ตัวของผมก็พอ”
“ฉันจะไม่ยุ่งกับคนใกล้ตัวของคุณก็ได้ แต่ถ้าจะยุ่งกับคุณมันก็ไม่แน่ เพราะผู้ชายแบบคุณมันเป็นสเปกของฉัน”
“แต่ผมขอย้ำอีกครั้งว่าผู้หญิงอย่างคุณไม่ใช่สเปกของผมเพราะฉะนั้นอย่าพยายามอ่อยผมเลยเพราะผมไม่มีทางหลงกลคุณหรอกนะ”
“วันนี้คุณอาจจะพูดแบบนี้แต่วันอื่นมันก็ไม่แน่นะคะ ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ใกล้กันมันก็เหมือนน้ำมันกับไฟนั่นแหละค่ะ”
“ผมรู้เรื่องนี้ดีแต่ผมก็คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ยับยั้งชั่งใจในระดับหนึ่งแล้วผมก็ไม่อยากมีเมียคนเดียวกับน้องเขยด้วย” เขมณัฏฐ์ประกาศเจตนาอย่างชัดเจน
“แล้วถ้าเกิดไม่ใช่เมียคนเดียวกับน้องเขยล่ะ”
“อย่าพยายามปฏิเสธเลยเค้กผมรู้ว่าในอดีตคุณเคยเป็นยังไงแต่ถ้าหลังจากนี้คุณจะปรับปรุงตัวคุณก็อาจจะได้เจอผู้ชายดีๆ เข้ามาในชีวิตก็ได้ ถอยออกมาจากไตรภพซะ” เขมณัฏฐ์ไม่อยากให้กานต์ชิสากลับไปยุ่งกับน้องเขยของตนเองอีกเพราะสงสารน้องสาว
“ฉันก็ถอยออกมาจากเขาแล้ว แต่คุณก็ยังไม่เชื่ออยู่ดีว่าฉันกับคุณไตรภพไม่ได้เป็นอะไรกัน เพราะฉะนั้นตอนนี้ฉันก็ได้แต่ภาวนาให้น้องเขยของคุณฟื้นขึ้นมาเร็วๆ เขาจะได้บอกความจริงกับทุกๆ คน”
“คนผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าความจริงมันคืออะไรกันแน่”
ท่าทางที่กานต์ชิสาแสดงออกมันทำให้เขมณัฏฐ์ลังเลว่าเธอจะใช่ภรรยาน้อยของไตรภพจริงหรือเปล่าแต่มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่น้องสาวของเขาจะต้องโกหก อีกอย่างเธอก็ยอมรับเองว่าคนนั้นเป็นคนที่อยู่ในรถคันเดียวกับไตรภพในเวลาดึกแบบนั้นถ้าทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งก็ไม่น่าจะอยู่ด้วยกัน เขาคิดว่าบางทีเธออาจจะกำลังพยายามทำให้เขาหลงเหมือนกับที่ผู้ชายคนอื่นแต่คนอย่างเขมณัฏฐ์ไม่มีทางกินของเหลือเดนของใคร
“ระหว่างที่อยู่ที่นี่ผมจะไม่คุยเรื่องนี้กับคุณอีกตกลงไหม”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเก็บเรื่องพวกนี้มาปวดหัวเหมือนกัน”
“นอกจากไปซื้อแอร์แล้วคุณได้ไปไหนมาอีกหรือเปล่า ทำไมกลับมาช้าจัง”
“ฉันไปซื้อของใช้ส่วนตัวแล้วก็ซื้อเสื้อผ้ามาเพิ่มค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ที่นี่นานแค่ไหน ที่บ้านคุณมีเครื่องซักผ้าไหม”
“มีมันอยู่หลังบ้านแต่คุณไม่ต้องซักเองหรอกเดี๋ยวน้านอมเธอจะจัดการเรื่องพวกนี้เอง”
“ฉันอยากทำเองมากกว่าค่ะ ฉันไม่อยากให้น้านอมต้องเหนื่อยเพิ่ม”
“บ้านนี้นอกจากน้านอมแล้วก็ยังมีหมูหวานอีกคน”
“หมูหวานนี่ใครคะ”
“หลานสาวของน้านอมน่ะ ปกติแล้วหมูหวานจะต้องมาช่วยน้านอมทำงานที่นี่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่วันนี้เธอไม่ได้มาเพราะขอลาไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะ”
“คุณเป็นเจ้านายใจดีเหมือนกันนะ ให้ลูกน้องลาไปเที่ยวด้วย”
“ลูกน้องเขาก็คือคนเหมือนกันต้องมีวันหยุดให้เขาอย่างกรณีหมูหวานยังเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่การไปเที่ยวมันก็เป็นการผ่อนคลาย”
“แล้วคนแถวนี้เขาไปเที่ยวที่ไหนกันเหรอคะ ฉันขับรถไปในเมืองวันนี้ไม่เห็นมีที่เที่ยวเท่าไหร่เลย”
“ก็ไปเที่ยวตามห้าง สวนสัตว์หรือไม่ก็ไปเที่ยวพิษณุโลกบ้างนครสวรรค์บ้าง แล้วคุณล่ะได้ไปที่ไหนมาบ้างนอกจากร้านไอ้ย้งกับห้างสรรพสินค้า”
“วันนี้ฉันไปได้แค่สองทีเองค่ะ แต่คิดว่าพรุ่งนี้จะไปปั่นจักรยานที่เมืองเก่าค่ะ” หญิงสาวศึกษาข้อมูลมาอย่างดีแล้วว่าที่นั่นมีจักรยานให้เช่าและมันคงจะดีมากๆ ถ้าได้ไปปั่นจักรยานท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่น
“ช่วงนี้เขากำลังเตรียมงานลอยกระทงกันอยู่ถ้ายังไงก็ระมัดระวังหน่อยแล้วกันนะ”
“ใกล้ถึงงานลอยกระทงแล้วเหรอคะ”
“อีกไม่ถึงอาทิตย์ ช่วงนี้เขาก็จะจัดเตรียมงานไว้ก่อนคุณเคยมาเที่ยวลอยกระทงที่สุโขทัยไหมล่ะ”
“ไม่เลยแต่ฉันเคยได้ยินว่ามันสวยและมีคนมาเที่ยวเยอะมากๆ”
“ถ้าคุณอยู่ถึงช่วงงานลอยกระทงผมจะพาคุณไปเที่ยวก็แล้วกัน”
“ฉันคงไม่รบกวนคุณหรอกค่ะ ฉันไปเองได้”
“ถ้าคุณจะเข้าไปเที่ยวในเมืองหรือไปเที่ยวช่วงกลางวันผมก็ไม่ห่วงหรอกนะแต่งานลอยรถมันเยอะมากๆ การก็จราจรก็จะแปลกออกไปบางครั้งเราก็ไม่สามารถใช้เส้นทางเดิมได้ ถ้าอยากไปจริงๆ ผมจะพาคุณไปก็แล้วกัน”
“ฉันขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ มันคงเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่ฉันได้เที่ยวงานใหญ่แบบนี้”
ทั้งสองคนนั่งคุยกันต่ออีกสักพักน้าประนอมก็เรียกให้ไปทานอาหารเย็น
“น่ากินมากเลยค่ะน้านอม สงสัยว่าเค้กมาอยู่ที่นี่จะต้องอ้วนแน่เลย”
“คุณเค้กหุ่นดีมากๆ กินเยอะก็ไม่อ้วนหรอกค่ะ อาหารน้าจัดให้เรียบร้อยแล้วน้าขอกลับก่อนนะคะคุณเข้ม”
“อย่าลืมแบ่งกับข้าวไปกินด้วยนะครับ”
“น้าแบ่งไปแล้วถุงหนึ่งที่เหลือก็อยู่ในหม้อนะคะ ถ้าคุณไม่พอก็ตักเพิ่มได้เลยค่ะ หนูเค้กน้าไปก่อนนะพรุ่งนี้จะรีบมาทำกับข้าวกันแต่เช้า”
“เค้กก็จะมาช่วยน้านอมด้วยค่ะ”
“จะทำกับข้าวไปไหนกันแต่เช้าเหรอเค้ก” เขมณัฏฐ์ถามเพราะปกติแล้วเขาจะทานข้าวเกือบ 08:00 น.
“เมื่อเช้าฉันเดินไปหน้าบ้านเห็นพระมาบิณฑบาตค่ะก็เลยคุยกับน้านอมว่าพรุ่งนี้เราจะทำกับข้าวใส่บาตรตอนเช้ากันค่ะ” หญิงสาวตอบก่อนจะนั่งทานอาหารต่อ