บท
ตั้งค่า

10 อยากซื้ออะไรก็ไปจัดการเลย

กานต์ชิสาเดินตามเขมณัฏฐ์มายังท่าข้าวและโรงสีที่อยู่ติดกับรั้วบ้านซึ่งตอนนี้มีรถบรรทุกข้าวเปลือกมารออยู่หลายสิบคัน คนงานหลายคนมองมาที่หญิงสาวแต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าตัวเองจะอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน

“ข้าวเปลือกพวกนั้นคุณจะเอาไปทำอะไรต่อคะ”

“เอาไปสีเป็นข้าวสารจากนั้นก็บรรจุใส่กระสอบแล้วส่งขาย หรือบางครั้งก็ส่งไปให้กับพ่อค้าคนกลางอีกทีหนึ่ง”

“แล้วคนที่เขาเอามาขายเป็นชาวนาเหรอคะ”

“บางครั้งก็ชาวนาเอามาขายโดยตรงแต่บางครั้งก็เป็นตัวแทนที่เขาจะรวมกลุ่มกันเอามาขายให้” เขมณัฏฐ์อธิบายให้เธอฟังคร่าวๆ ก่อนจะพาเธอเข้ายังห้องกระจกที่อยู่ด้านข้างซึ่งเขามักเรียกที่นี่ว่าออฟฟิศ

“เข้ามาสิผมจะแนะนำให้รู้จักพนักงานที่อยู่ในออฟฟิศ”

ชายหนุ่มเปิดประตูห้องกระจกออกแล้วในนั้นมีผู้หญิงนั่งอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามคนด้วยกัน เขมณัฏฐ์แนะนำให้เธอรู้จักกับคนที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบัญชีชื่อศิริรัตน์หรือพี่รัตน์และผู้ช่วยของเธออีกสองคนคือสายพินหรือหญิง ส่วนคนสุดท้ายที่ดูดเด็กกว่าคนอื่นชื่อกุ้งหรือรัตนา

หลังจากแนะนำให้เธอรู้จักกับทั้งสามคนแล้วเขาก็ขอตัวออกไปทำงานด้านนอก กานต์ชิสาขอตามออกไปดูการทำงานของเขาด้วยระหว่างที่นี้หญิงสาวก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองจะคุยกับเขาเรื่องเครื่องปรับอากาศในห้องนอน

“คุณเข้มค่ะเรื่องที่ฉันบอกว่าอยากจะซื้อของค่ะ ฉันขออนุญาตซื้อแอร์ได้ไหมห้องที่ฉันอยู่มันร้อนมากๆ เลย” หญิงสาวตะโกนแข่งกับเสียงรถสิบล้อที่กำลังทยอยกันเข้ามาเรื่อยๆ

“อยากซื้ออะไรก็ไปจัดการเลย แล้วมาเบิกเงินที่พี่รัตน์ในห้องบัญชีหรือให้ทางร้านเขาส่งบิลมาเก็บก็ได้ ร้านค้าแถวนี้เขารู้จักท่าข้าวของผมดี”

“ถ้างั้นฉันขอตัวไปจัดการเลยนะคะ”

เมื่อได้รับคำอนุญาตแล้วหญิงสาวก็เดินกลับมาบริเวณบ้านของเขาซึ่งตอนนี้น้าประนอมกำลังทำความสะอาดบ้านอยู่พอดี

“ไปดูท่าข้าวมาเหรอคะหนูเค้ก”

“ใช่ค่ะน้านอม แต่ที่นั่นฝุ่นเยอะมากๆ เลย”

“น้าก็ว่าจะเตือนหนูตั้งแต่ก่อนไปแล้วว่าอย่าเข้าไปที่นั่นเลยเพราะบางคนโดยละอองพวกนั้นแล้วจะแพ้เอานะเพราะมันไม่ใช่ฝุ่นอย่างเดียวแต่มันคือละอองของข้าวเปลือก”

“พอน้าพูดแบบนี้เค้กก็รู้สึกคันตัวไปหมดเลยค่ะ”

“น้าว่าหนูรีบไปอาบน้ำก่อนดีกว่าไหม ถ้ามีผื่นก็ออกมาทายาแล้วก็กินยาแก้แพ้นะคะ”

“เค้กว่าคงเป็นไรหรอกค่ะอาบน้ำก็น่าจะดีขึ้น” กานต์ชิสารีบเข้าไปในห้องนอนจากนั้นอาบน้ำแต่งตัวและเปลี่ยนมาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกางเกงยีนขายาวเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก

“หนูเค้กจะไปไหนคะ จะไปท่าข้าวอีกหรือเปล่า”

“เค้กว่าจะออกไปซื้อของใช้ที่จำเป็นบางอย่างค่ะ แล้วก็จะให้ช่างมาติดแอร์ที่ห้องด้วยเพราะห้องนอนของเค้กไม่มีแอร์”

“ห้องนั้นมันมีแอร์นะคะ แต่แอร์ที่ท่าข้าวมันไม่ค่อยเย็นคุณเข้มเห็นว่าห้องนั้นไม่มีคนใช้ก็เลยให้ช่างย้ายแอร์ไปติดเพิ่มที่นั่นค่ะ เมื่อคืนคงร้อนแย่ใช่ไหม”

“นิดหน่อยค่ะ เค้กมาถึงที่นี่เที่ยงคืนกว่าแล้วอากาศมันก็เย็นและเค้กก็เพลียมากก็เลยหลับง่าย แต่ถ้าให้เค้กอยู่แบบไม่มีแอร์เค้กคงอยู่ไม่ได้จริงๆ ค่ะน้านอม”

“น้าเข้าใจ เดี๋ยวนี้ชาวบ้านเขาก็ติดแอร์กันเยอะขึ้นแล้วเพราะร้านในเมืองมีให้ผ่อนรายเดือนแบบถูกๆ อากาศเมืองไทยมันร้อนขึ้นมาก ถ้าเป็นสมัยก่อนนี่เปิดหน้าต่างแล้วก็นอนรับลมสบายเลยแต่ปีหลังๆ มานี่น้าว่ามันร้อนจริงๆ ขนาดที่บ้านของน้ายังต้องเปิดแอร์และมานอนรวมกันหลายๆ คนเลย”

“ส่วนใหญ่เขาจะไปซื้อแอร์ที่ร้านไหนคะน้านอม”

หญิงสาวถามเพราะตนเองก็ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหนครั้นจะสั่งทางออนไลน์ก็คงจะชักช้าไม่ทันการณ์อีกอย่างการสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ขนาดนี้มันก็จะต้องมีค่าติดตั้งด้วยเธอเลยอยากจะหาร้านที่ไว้ใจได้และจะเร่งให้เขามาติดตั้งภายในวันนี้

“ร้านในเมืองมีเยอะแยะเลยค่ะ แต่น้าจะแนะนำให้คุณเค้กไปร้านหนึ่งเดี๋ยวน้าเอานามบัตรให้นะคะ” ประนอมหายเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายจากนั้นก็กลับออกมาพร้อมกับนามบัตร

“ร้านนี้เป็นเพื่อนของคุณเข้มค่ะ หนูเค้กไปบอกเขานะว่าจะติดแอร์ในห้องนอนเขาน่าจะรู้ว่าต้องใช้ขนาดไหน”

“แล้วน้าคิดว่าช่างเขาจะมาติดให้เค้กวันนี้เลยหรือเปล่าคะ”

“ถ้าเป็นร้านอื่นน้าไม่รู้แต่ร้านนี้รับรองมาติดให้อย่างรวดเร็วเลยแหละ”

“แล้วร้านอยู่ตรงไหนหายากไหม”

“ไม่หรอกค่ะ”

“ให้น้าเป็นเพื่อนไหมคะ”

“น้านอมลองบอกทางมาก่อนก็ได้ค่ะถ้าไปไม่ยากเค้กก็คิดว่าจะไปเอง”

“คุณเค้กขับรถออกจากรั้วและเลี้ยวขวาจากนั้นก็ขับตรงไปจนกระทั่งถึงแยกบริเวณตลาดสดก็เลี้ยวขวาอีกครั้ง จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ ผ่านสองไฟแดงพอถึงไฟแดงที่สามคุณเค้กก็เลี้ยวขวาค่ะจากนั้นก็จะเห็นป้ายร้าน ร้านเขาค่อนข้างใหญ่มากน่าจะใหญ่ที่สุดในจังหวัด”

“เท่าที่ฟังเค้กว่าน่าจะหาง่ายอยู่นะคะ น้านอมจะฝากซื้ออะไรไหมคะ”

“ไม่เป็นไรจ้ะ น้าก็เพิ่งเข้าไปในเมืองเมื่อวานก่อนเอง”

“น้านอมคะปกติของใช้ทั่วไปในบ้านใครจะเป็นคนซื้อคะ”

“ส่วนใหญ่ก็จะน้าค่ะ อาทิตย์หนึ่งก็จะสำรวจที่หนึ่งว่ามีอะไรขาดเหลือไหม คุณเค้กอยากได้อะไรก็จดไว้นะคะ เดี๋ยวน้าจะไปซื้อให้”

“ไม่เป็นไรค่ะวันนี้เค้กว่าจะไปดูเองก่อน”

“ถ้าคุณเค้กจะซื้อของใช้มันก็มีห้างสรรพสินค้าอยู่ไม่ไกลจากร้านที่บอกเลยค่ะ แล้วจะกลับมากินข้าวกลางวันไหมน้าจะได้เตรียมให้ค่ะ”

“เค้กว่าคงหาอะไรกินในเมืองค่ะ ปกติแล้วคุณเข้มจะกลับมากินข้าวกลางวันไหมคะ”

“ส่วนใหญ่ก็จะกลับมากินค่ะ แต่บางวันก็ไปกินกับคนงานที่ร้านอาหารตามสั่ง ส่วนตอนเย็นก็จะกินข้าวที่บ้านค่ะ”

“ถ้างั้นเค้กจะกลับมาให้ทันอาหารเย็นนะคะ”

“ได้เลยค่ะ คุณเข้มคงหายเหงาเพราะมีคนมากินข้าวเย็นด้วย”

“เขากินข้าวคนเดียวทุกวัยเลยเหรอคะน้านอม”

“ค่ะ ปกติแล้วคุณเข้มอยู่คนเดียวพอตกเย็นบ้านก็เงียบจะเงียบมากๆ”

“แล้วน้านอมไม่ได้นอนค้างที่นี่เหรอคะ”

“ไม่ค่ะ น้าจะตื่นมาทำกับข้าวตอนเช้าจากนั้นก็ทำงานบ้านพอตกเย็นทำอาหารเย็นทิ้งไว้ให้แล้วก็กลับบ้าน”

“บ้านน้านอมอยู่ไกลไหม”

“ไม่ไกลหรอกค่ะ น้าขี่มอเตอร์ไซค์มาไม่ถึง 5 นาทีด้วยซ้ำ”

“น้ามาทำงานทุกวันไหม”

“น้าได้หยุดวันอาทิตย์วันหนึ่งค่ะ”

“เค้กมาอยู่ที่นี่น่าจะเพิ่มภาระให้น้านอมเยอะเลยใช่ไหมคะ”

“อย่าคิดแบบนั้นสิการได้ดูแลเพื่อนของคุณเข้มก็ถือว่าเป็นงานของน้าอย่างหนึ่งนะคะไม่ได้เป็นภาระอะไรเลย แต่น้าว่าหนูอย่ามัวคุยกับน้าเลยเดี๋ยวจะไปถึงที่ร้านสาย เกิดช่างเขาออกไปติดตั้งแอร์กันหมดทีนี้จะลำบากเอานะ”

“นั่นสิคะเค้กลืมไปเลย เค้กไปก่อนนะคะน้านอม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel