บทที่ 6
ฟ้าใหม่ร้องอย่างตกใจ ชายหนุ่มกระโจนพรวดเดียวแล้วคร่อมเธอไว้ ก่อนจะพยายามอธิบายเธอ พร้อมกับเอามือปิดปากเธอไม่ให้เสียงดังไปด้วย
“เฮ้ๆ ใจเย็นๆ จะร้องทำไมนะ คุณใจเย็นๆ คุณรับผมเป็นลูกค้านะ จะมาตกใจอะไรเล่า”
“ลูกค้งลูกค้าอะไร ฮือๆ คนเลว แก...แกทำอะไรฉัน”
ฟ้าใหม่ทำตาโต ทำไมเธอจะไม่รู้ ว่ามันเกิดความผิดแปลกเสียหายอะไรกับร่างกายเธอ ฟ้าใหม่เบะปาก ร้องไห้โฮออกมาทันที
“แก ฮือ แกข่มขืนฉัน คนเลว ฮือๆๆๆๆๆ”
“เฮ้ย ผมไม่ได้ข่มขืนคุณ”
“อย่ามาจับนะ ฮือๆ”
เขาปล่อยเธอแล้วตอนนี้ แล้วลุกขึ้นยืน ส่วนฟ้าใหม่ซบหน้ากับเข่า ร้องไห้เหมือนคนใจสลาย ร่างกายเธอ...เธอรักษาดูแลมา ตามคำสั่งสอนของบิดามารดา เธอไม่เคยปล่อยตัวให้ใคร อย่างมากก็แค่จับมือหรือโอบไหล่ โธ่...ฟ้าใหม่ แล้วเธอจะมีหน้าไปเจอพวกท่านได้ไหม ที่ทำลายตัวเองแบบนี้
“คุณ ฟังผมก่อน คือ...”
เซริวพยายามอธิบาย เขามองคนที่กำลังซบหน้ากับหัวเข่า แล้วร้องไห้กระซิกอยู่แบบนั้น ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวผิดนักที่...แต่เขาจะรู้ไหมล่ะ ว่าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่เพื่อนของเธอซึ่งรับเงินไปแล้วบอก
“ไม่มีอะไรต้องพูด...”
ฟ้าใหม่เงยหน้าขึ้นมาต่อว่าเขา แล้วกัดริมฝีปาก ของมันเสียหายไปแล้ว เธอจะทำอย่างไรได้ เธอมองเขาอย่างฉุนๆ เซริวถอนใจ แล้วเอ่ยเสียงนุ่ม
“เมื่อคืนผมซื้อคุณมา”
“หืม? ซื้อ” ฟ้าใหม่ทำเสียงสูงปรี๊ด แล้วเอามือชี้ตัวเอง
“ซื้ออะไร ฉันไม่ได้ขาย”
“แต่เพื่อนคุณ ที่ชื่ออาโปบอกว่าคุณเป็นไซด์ไลน์ แล้วก็รับเงินไปล่ะด้วย สามหมื่นห้าคือค่าตัวของคุณ มากับผมวันนี้ ผมจะรู้ไหมว่า...มันเป็นเรื่องโกหก คุณเองก็เมามาก แล้วก็...ไม่ได้คัดค้านอะไรสักอย่างกับสิ่งที่ผมทำ”
คำพูดเหล่านั้นยิ่งทำให้เธออ้าปากค้าง ก่อนจะรู้สึกช็อกกับการกระทำของอาโป นี่เธอโดนเพื่อนของเธอขายหรือนี่? แถมเธอยังเมาขนาดนั้น ก็ไม่ผิดหรอกที่เขาจะเข้าใจไปว่า ตัวเธอเป็นผู้หญิงแบบไหน
โธ่...”
ฟ้าใหม่ยิ่งน้ำตาไหลออกมา เซริวค่อยทรุดลงนั่งข้างเธอ เมื่อเห็นเธอไม่ว่าอะไร เขาก็ค่อยๆ เขยิบเข้าใกล้ มือของเขาสั่นเล็กน้อยเพราะความไม่แน่ใจ ก่อนจะจับบ่ามนของเธอไว้ พลางปลอบเบาๆ
“ผมไม่รู้...ผมขอโทษนะ”
“ฉัน...”
เธอกัดริมฝีปาก พูดอะไรไม่ออกจริงๆ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเธอ หญิงสาวเจ็บแค่ตรงส่วนนั้นนิดๆ แปลบหน่อยๆ ความวิงเวียนทั้งหลายมาจากการเมาค้าง ก็เพราะเธอทำตัวเอง ไม่ใช่ว่าเขาทำให้เธอ
สายตาสองคู่มองสบกัน สายตาคู่คมของเขามีแต่แววเห็นอกเห็นใจ และเขาก็ไม่ได้มีท่าทางคุกคามอะไรอีก ชายหนุ่มค่อยเข้าใกล้เธอไปอีกนิด ก่อนจะดึงเธอมากอดไว้ ฟ้าใหม่ยอมให้เขากอด รู้สึกอบอุ่นในอ้อมแขนนี้ จนอาการเศร้าโศกทั้งหลายค่อยคลายลงบ้าง
“ผมขอโทษจริงๆ นะ ให้ผมชดใช้อะไร ผมก็ยอมนะ”
“คุณไม่ได้ผิดอะไร” เธอพูดออกมาได้ในที่สุด
“ต้องโทษฉันนี่ล่ะค่ะ เมาจนไม่มีสติขนาดนั้น”
“เพื่อนของคุณ...จริงสิ! ผมช่วยแจ้งความให้ไหม ว่าเขาทำกับคุณแบบนั้น”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ”
น้ำตาของฟ้าใหม่รื้นขึ้นมา เธอโกรธอาโปก็จริงที่ทำแบบนั้น แต่...ส่วนหนึ่งก็เพราะเธอไม่ระวังตัวเอง เธอเสียใจที่ปล่อยให้ความสนุกเข้าครอบงำจนไม่ระวังตัว ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
คนเราไม่ควรประมาทและมีสติอยู่ตลอดเวลาจริงๆ
“เอ่อ...ถ้าอย่างนั้นให้ผมไปส่งไหม? เดี๋ยวผมจะลงไปซื้อเสื้อผ้าให้”
เขาลูบเรือนผมนิ่มนั้นไปด้วย เสนอความช่วยเหลือไปด้วย ไม่รู้ทำไม พอรู้ว่าเจ้าตัวไม่รู้เรื่องอะไร แถมโดนหลอกให้มาขายตัวให้กับเขา เขาก็ทั้งสงสาร และทั้งดีใจปนกันไปหมด
สงสาร...ที่เธอโดนเพื่อนมาหลอกแบบนี้ มันเรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิงดีๆ ที่ได้รับการอบรมดูแลมาจากครอบครัวเป็นอย่างดี เธอบริสุทธิ์จนมาเสียความบริสุทธิ์นี้ไปก็เพราะเขานั่นแหละ
ดีใจ...ที่เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น จิตใจมันพองคับอกไปหมด ไม่รู้ทำไม
ทำไมวะไอ้ริว?
เขาถามตัวเอง ชายหนุ่มค่อยก้มลงมองหน้าเธอ ใบหน้างดงามน่ารักยังคงก้มงุด เธอหายสะอื้นแล้วตอนนี้ แต่ยังคงเงียบ เธอไม่ได้ต่อว่าหรือเรียกร้องอะไรจากเขา เพียงแค่นั่งนิ่งและเช็ดน้ำตาให้แห้ง นั่นแหละ...เขาก็ยิ่ง
หลงรัก...
เออ...หลงรัก
ถ้าเป็นคนอื่นเขาเปิดโอกาสขนาดนี้ ก็อาจจะเรียกเงินไปแล้ว หรือ...อาจจะขอให้เขารับผิดชอบไปแล้ว แต่เจ้าหล่อนเพียงแค่นิ่ง...และเงียบ...คำพูดคำจาเหมือนโทษตัวเองที่ประมาทเผลอเมาจนไม่มีสติ มันยิ่งทำให้เขายิ่งชอบเธอมากขึ้นไปอีก ก็คนเราส่วนใหญ่มักจะโทษคนอื่น มากกว่าตัวเองตามสัญชาตญาณการปกป้องตัวเองไม่ใช่หรือ?
ก็เธอน่ารักทั้งหน้าตา...น่ารักไปทั้งตัว แถมเขายัง...ต้องรับผิดชอบในส่วนเรื่องความเสียหาย? อืม...ไม่ใช่การรับผิดชอบก็ได้ เขาโคตรเต็มใจที่จะเดินหน้าต่อ สานต่อกับสิ่งที่ทำไปล่วงหน้ากับเธอแล้วนี่
“ผมจะออกไปก่อน คุณจะได้ทำธุระส่วนตัว แล้วเดี๋ยวเราค่อยว่ากันนะ”
เขาคลายอ้อมแขนทั้งไม่เต็มใจ อยากจะดึงเธอมาจุ๊บเบาๆ ก็...ไม่กล้าแล้วตอนนี้
เธอไม่ได้เหมือนที่เราคิด นั่นแหละมันยิ่งทำให้เราตัดใจลำบาก
ชายหนุ่มถอนใจเปิดประตูห้องออกไป ตอนแรกคิดจะโทรศัพท์หาธงราม แต่แบตโทรศัพท์ของเขาหมด เซริวเดินเตร่ลงไปยังด้านล่างของคอนโดมิเนียม ถามพนักงานว่ามีเสื้อผ้า อาหารขายแถวไหนบ้าง ก็ได้รับการบอกกล่าวอย่างเป็นมิตร
เขาเลือกเสื้อผ้าให้เธอ เป็นเสื้อยืดกับกางเกงผ้าง่ายๆ พร้อมกับชั้นในที่ตอนกะขนาด ตอนซื้อ เล่นเอาคนขายและเขาต่างพากันเขินเมื่อเขาใช้ขนาดมือวัดไซซ์ที่ตัวเองจำได้...
เซริวเดินกลับขึ้นไปพร้อมกับของพะรุงพะรัง มีเสื้อผ้า อาหารเช้าของเขาและเธอคือโจ๊ก ผลไม้ ขนมอีกสองสามอย่าง ยาแก้เมาค้าง ใจเขาคิดวกวนไปมาเกี่ยวกับเรื่องของเธอ...ฟิน เขารู้เพียงแค่เธอชื่อนี้
เวลาเขาที่เมืองไทยจะเหลืออีกกี่วันกันนะ และเขาตั้งใจจะยืดเวลาออกไปอีก เพื่อ...โอ...เขาอยากเพียงแค่เห็นเธอ อยู่ดูหน้าเธอ เท่านั้น และถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากจะสานสัมพันธ์กับเธอ
เธอเป็นเมียเขาไปแล้วนี่นา
คิดแล้วเซริวก็ยิ้มๆ เอาวะ ทำไมเขาจะเป็นคนขี้ตู่ไปไม่ได้ เธอเป็นเมียเขาแล้ว และเขาก็ตั้งใจจะจีบเธอจริงจัง เพื่อให้ได้เธอเป็นเมียถาวร
ความเพลินกับความคิดของตนเอง ทำให้ชายหนุ่มไม่ทันได้ระแวงหรือระวังตัว เขายืนรอขึ้นลิฟต์และคิดถึงเรื่องของเมียอุปโลกน์ไปด้วยเพลินๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อจู่ๆ ก็มีวัตถุบางอย่างจี้ที่หลัง และเสียงทุ้มดังขึ้นข้างหลังว่า
“คุณหนูครับ...กลับบ้าน”