ตอนที่ 4
“ปล่อยฉันนะ....”
“จะพาฉันไปไหนเนี่ย....”
“ฉันจะไปเรียนนะ....”
“ช่วยด้วยค่า ฉันโดนลักพาตัว!!”
“ถ้าเธอไม่หุบปาก ฉันจะจูบเธอตรงนี้ล่ะ!” ชายหนุ่มหันไปบอกเสียงเข้ม
“..........”
เซร่าเงียบเสียงทันที แต่ยังคงพยายามขัดขืนไม่ให้เขาพาเธอเดินต่อไปได้
“จะเดินตามฉันมาดีๆ หรือจะให้อุ้ม” คิมหันต์ถามเสียงเรียบ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวพยายามขัดขืนเขา ทำให้เซร่าเดินตามเขาทันที
พลั่ก!
“โอ้ย ฉันเจ็บนะ”
เซร่าร้องโอดโอยออกมา เมื่อคิมหันต์ผลักเธอให้ยืนชิดกับกำแพงด้านหลังของโรงยิม พร้อมกับเอาแขนสองข้างยันกำแพงไว้ กันไม่ให้เธอหนี
“เธอเป็นบ้าอะไร ถึงได้รับปากทำหน้าที่ผู้จัดการชมรมบาสฯ น่ะ ห๊า!!” คิมหันต์ตะคอกเสียงดังใส่ทันทีด้วยความฉุนเฉียว
“อะไรล่ะ ก็ออยเฟ่ย์บอกว่าฉันเหมาะสมนี่นา”
“เธอรู้บ้างมั้ย ว่างานของผู้จัดการชมรม มันหนักแค่ไหน?” คิมหันต์ย้อนถามเสียงเข้ม
“ฉันทำได้น่ะ” เซร่าเชิดหน้าใส่อย่างไม่กลัว
“เฮอะ! แค่วิ่งแข่งนิดเดียวก็เป็นลมล้มพับไปแล้ว จะทำงานหนักได้เร้อ” คิมหันต์ทำเสียงขึ้นจมูก ไม่พอใจที่หญิงสาวยังทำท่าทางอวดเก่ง
“งานนี้ฉันไม่ต้องไปวิ่งแข่งกับใครสักหน่อย” เซร่าเถียงกลับด้วยความโมโห
“นี่เธอ ร่างกายของเธอ มันจะรับไม่ไหวนะ หมอเพิ่งเตือนมา เธอลืมแล้วรึไง” คิมหันต์ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ
“แค่งานผู้จัดการ จะหนักแค่ไหนกันเชียว” แม้เซร่าจะรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมาถูกต้อง แต่ด้วยทิฐิ ทำให้เธอยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“เธอนี่นะ.....” คิมหันต์รู้สึกอ่อนใจกับความดื้อดึงของหญิงสาวตรงหน้า
“แล้วเธอจะบอกพ่อกับแม่ว่ายังไง?” คิมหันต์เลิกคิ้วถาม
“เรื่องอะไร?”
“ผู้จัดการชมรมต้องมาโรงเรียนแต่เช้า กลับดึก บางทีก็ต้องเดินทางไปเก็บตัวกับนักกีฬา พ่อกับแม่เธอจะยอมให้ทำมั้ย?”
“เอ่อ...คือ...” เซร่าเงียบไปทันที
“เธอนี่ซ่าส์จริงๆ นะ” คิมหันต์ส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ
“ฉันรับปากออยเฟ่ย์ไปแล้ว ฉันไม่ยอมผิดคำพูดหรอก”
เซร่าบอกด้วยเสียงหนักแน่น หลังจากตัดสินใจได้ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนจ้องมองด้วยสายตาจริงจัง
“ฉันนึกอยู่แล้วว่าเธอต้องตอบแบบนี้” คิมหันต์มองอย่างรู้ทัน
“ก็ฉัน..”
“เอาเถอะ ฉันลืมไปว่า คนอย่างเธอยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ” คิมหันต์ยกมือขึ้นเบรกไม่ให้หญิงสาวพูดอะไร
“ที่ฉันห้ามเธอ เพราะไม่อยากให้เธอต้องเอาร่างกายมาเสี่ยง แต่คำพูดของฉันคงเหมือนดูถูกเธอสินะ”
“นายเป็นห่วงฉันเหรอ” เซร่าตาโตมองเขาอย่างประหลาดใจ
“ก็ใช่น่ะสิ ยัยโง่เอ๊ย!” คิมหันต์เอานิ้วจิ้มหน้าผากของเธอเบาๆ
“แล้วไม่บอกมาตรงๆ เล่า” หญิงสาวบ่นพึมพำออกมา ก่อนจะเลี่ยงสายตาก้มลงมองพื้นดิน
“แล้วใครกันที่บอกว่า ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าร่างกายอ่อนแอ จะให้ฉันประกาศตรงนั้นเลยมั้ยล่ะ?” คิมหันต์ทำเสียงขึ้นจมูก
“โอเค โอเค ฉันผิดเอง” เซร่าเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มพร้อมกับยอมรับผิดแต่โดยดี
“นี่ฉันหูฝาดไปรึเปล่า? เธอยอมรับผิดเป็นด้วยเหรอ?” คิมหันต์เบิกตากว้าง ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“แล้วฉันจะทำยังไงดีล่ะ รับปากออยเฟ่ย์ไปแล้ว” เซร่ารีบตัดบท
“เฮ้อ...” คิมหันต์เอามือออกจากกำแพงและกอดอกเอาไว้หลวมๆ พร้อมกับใช้ความคิด
“เธอก็ต้องทำน่ะสิ”
“อ้าว..”
“แต่ฉันจะบอกให้ออยเฟ่ย์มาช่วยงานที่จำเป็นก็แล้วกัน”
“อืม..” เซร่าพยักหน้ายอมรับ
“แล้วคราวหน้า หัดคิดให้รอบคอบก่อนรับปากคนอื่น รู้มั้ย?” คิมหันต์เตือนเสียงเข้ม
“รู้แล้วน่า” เซร่าบ่นอุบอิบ
“ใกล้เวลาเรียนแล้ว ขึ้นห้องเรียนกันดีกว่า” คิมหันต์เหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะชวนหญิงสาว เซร่าพยักหน้า พร้อมกับเดินเคียงคู่เขาตรงไปยังอาคารเรียน
หลังเลิกเรียน เซร่าตรงไปยังชมรมบาสฯ ตามนัด เมื่อไปถึงก็พบว่าออยเฟ่ย์กำลังยืนคอยเธออยู่
“มิยาเกะ ฉันดีใจจริงๆ ที่เธอตกลงช่วยน่ะ” ออยเฟ่ย์ยิ้มอย่างยินดี
“เอ่อ เรียกฉันว่า เซร่าก็ได้นะ”
“โอเค เซร่า ถ้าอย่างนั้น ฉันจะแนะนำสมาชิกชมรมบาสฯ ให้รู้จักนะ” ออยเฟ่ย์ยิ้มร่าเริง พร้อมกับจูงมือหญิงสาวให้เดินตามไป
ออยเฟ่ย์พาเซร่าตรงไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านหลังของโรงยิม โดยห้องแรกเป็นของสมาชิกชมรมบาสฯ ชาย ส่วนห้องที่ติดกันเป็นห้องสำหรับผู้จัดการชมรม
“นี่เป็นชุดผู้จัดการชมรมนะ ฉันไปเบิกมาจากสโมสรนักศึกษาให้น่ะ” ออยเฟ่ย์พูดพลางส่งเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มให้กับเซร่า
“ขอบคุณนะ”
เซร่าใช้เวลาในการเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่นานนัก จากนั้นออยเฟ่ย์ก็เดินนำเซร่าตรงไปยังสนามบาสฯ ภายในโรงยิม
ออยเฟ่ย์อธิบายหน้าที่ของผู้จัดการชมรมให้ฟัง โดยต้องจัดเตรียมก่อนที่นักกีฬาจะมาซ้อม เช่น ต้องนำผ้าขนหนูมาวางไว้ที่เก้าอี้พัก เป็นต้น
“ที่สำคัญต้องเตรียมกระติกน้ำแข็ง แล้วก็น้ำเปล่าเอาไว้ให้พร้อมเสมอนะ”
ขณะที่ออยเฟ่ย์กำลังสอนงานเซร่าอยู่ บรรดานักกีฬาบาส ก็พากันทยอยเข้ามาในโรงยิม รวมทั้งโค้ชผู้ฝึกสอน
“เอาล่ะ ฉันจะแนะนำทุกคนให้รู้จักนะ” ออยเฟ่ย์บอกพร้อมกับวางผ้าขนหนูทั้งหมดไว้บนเก้าอี้ และจูงมือหญิงสาวให้เดินตามไป
“ทุกคนมารวมกันตรงนี้” เสียงโค้ชเรียกนักบาสฯ ทั้งหมด
“ก่อนเริ่มฝึกซ้อม ออยเฟ่ย์มีอะไรจะบอกทุกคนน่ะ” โค้ชกล่าว
“เอ่อ..วันนี้ก็ครบ 3 ปีที่ฉันทำหน้าที่ผู้จัดการชมรมแล้ว แต่เนื่องจากปีนี้ฉันต้องเตรียมตัวเพื่อสอบเรียนต่อ อาจจะทำหน้าที่ของผู้จัดการชมรมได้ไม่เต็มที่.....” ออยเฟ่ย์นิ่งไปครู่หนึ่ง และกวาดสายตามองทุกคน
“ดังนั้น ฉันจึงตัดสินใจที่จะทุ่มเทให้กับการเรียน จึงต้องขอลาออกจากการเป็นผู้จัดการชมรม”
“เอ้ย ไม่เอานะ”
“แล้วใครจะดูแลพวกเราล่ะ”
เสียงนักกีฬาบาสฯ ดังเซ็งแซ่เมื่อรู้เรื่อง ทุกคนไม่เห็นด้วยที่เธอจะขอลาออก
“ทุกคน ใจเย็นก่อนสิ” ออยเฟ่ย์ปรามเสียงดัง
“ฉันทาบทามคนที่มีความเหมาะสมสำหรับหน้าที่นี้แล้ว นั่นก็คือ คุณมิยาเกะ เซร่า” ออยเฟ่ย์กล่าว พลางดึงตัวเซร่ามาด้านหน้าของเธอ
“วี้ดวิ้ว~” มีเสียงผิวปากแซวเล็กน้อย เนื่องจากหญิงสาวเป็นคนที่สวย และหน้าตาน่ารักไม่แพ้ออยเฟ่ย์
“เซร่า จะมาเป็นผู้จัดการชมรมคนใหม่แทนฉัน ขอฝากทุกคนช่วยดูแลด้วยนะ” ออยเฟ่ย์กล่าว
“สวัสดีค่ะ ฉันอาจจะทำหน้าที่นี้ได้ไม่ดีเท่ากับออยเฟ่ย์ แต่ฉันก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ” เซร่ากล่าวด้วยน้ำเสียงไพเราะอ่อนหวาน พร้อมกับยิ้มเขินๆ
“ใครมีอะไรจะถามมั้ย?” ออยเฟ่ย์ถามทุกคน
“ผมมีคำถามครับ” ไมเคิลเพื่อนของคิมหันต์รีบยกมือขึ้นทันที
“คุณมิยาเกะมีแฟนรึยังครับ?” ไมเคิลถามตรงประเด็น เพื่อนๆ นักกีฬาพากันผิวปากด้วยความชอบใจ เซร่ามีสีหน้าเข้มขึ้นเล็กน้อย
“ไมค์ เดี๋ยวเถอะ” ออยเฟ่ย์ดุเสียงเข้ม
“อะไรล่ะ ก็ฉันอยากรู้นี่นา” ไมเคิลลากเสียงยาวกวนประสาท
“เซร่า ไม่ต้องตอบก็ได้นะ” ออยเฟ่ย์กระซิบบอก
“เอ่อ..ฉันยังไม่มีแฟนค่ะ” เซร่าตอบพร้อมกับเอานิ้วเกาแก้มแก้เขินเล็กน้อย คำตอบของเธอทำให้เกิดเสียงดังอื้ออึงขึ้น
“แต่ฉันยังไม่สนใจใครค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ” เซร่าบอกเสียงดัง พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับไมเคิล
“โห....โดนปฏิเสธซะงั้น หัวใจผมสลายเลย” ไมเคิลทำหน้าเศร้าราวกับอกหัก
โป๊ก!
“เยอะไปละ” คิมหันต์เขกศีรษะไมเคิลเสียงดัง ส่งผลให้ทุกคนในทีมบาสฯ พากันหัวเราะออกมาด้วยความขำขัน
ออยเฟ่ย์อมยิ้มเล็กน้อย เมื่อเห็นเซร่าสามารถรับมือกับสมาชิกชมรมบาสฯ ได้อย่างดี