ตอนที่ 12
“......”
“เอ่อ..ฉันขอตัวไปส่งเชร์ราที่ห้องก่อนนะ” คิมหันต์เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“เธอคุยกับเซร่าแล้วเหรอ?” ออยเฟ่ย์ทักท้วง
“เรื่อง?”
“ก็งาน...”
“คุยทีหลังก็ได้ นายรีบไปเถอะ” เซร่าชิงตัดบท
“โอเค ไปก่อนนะ” คิมหันต์ยิ้มให้เซร่า ก่อนจะเดินเคียงคู่กับเชร์ราจากไป
“เซร่า จะดีเหรอ?” ออยเฟ่ย์หันมาถาม
“......”
“เฮ้ย...คิมหันต์ไปรู้จักเชร์ราตอนไหนกัน เธอเป็นนักเรียนที่เพิ่งย้ายมาใหม่เมื่อวานนี้เองนะ” ฮิเดกิร้องออกมา
“นายรู้ได้ยังไงว่า แม่เชร์ราเพิ่งย้ายมาใหม่” เอริโกะหันไปถามชายหนุ่มด้วยความหมั่นไส้
“เอ้า...ก็นักเรียนใหม่ที่ฉันเล่าให้ฟังไงล่ะ ยัยปลาทองเอ๊ย” ฮิเดกิส่ายหน้า อ่อนใจกับความจำของหญิงสาว
“งั้นเหรอ....เอ๊ย นายว่าใครปลาทองยะ?” เอริโกะพึมพำเบาๆ ก่อนจะนึกได้ หันไปตวาดใส่ฮิเดกิ
“ก็จะใครเสียอีกล่ะ ยัยปลาทอง” ฮิเดกิยกคิ้วหลิ่วตากวนใส่เอริโกะ
“นายนี่ !” เอริโกะเงื้อมมือจะฟาดใส่ชายหนุ่ม
“แต่แปลกแฮะ ไหนเธอบอกว่ามีคนจองตั้งแต่เด็กแล้วยังไงล่ะ? แล้วทำไมกลายเป็นคิมหันต์ ???” ฮิเดกิพูดออกมาด้วยความแปลกใจ
“นายนี่โง่จริง! คนที่จับจองเขามาตั้งแต่เด็กก็คือคิมหันต์ไงเล่า!” เอริโกะบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เอ่อ..ฉันขอตัวก่อนนะ” เซร่าเอ่ยออกมาเสียงเบาหวิว และรีบลุกขึ้นเดินก้มหน้าจากไปทันที
“เดี๋ยว เซร่า....” ฮิเดกิร้องเรียก ก่อนจะวิ่งตามเธอไปทันที
“เซร่าคงรู้สึกแย่แน่ๆ เลย” ออยเฟ่ย์บ่นพึมพำออกมาเบาๆ
“ทำยังไงได้ล่ะ รายนั้นรู้จักกับคิมมาก่อนมิยาเกะนี่นะ”
“ฉันรู้ แต่คิมก็...ไม่น่าเล้ย...” ออยเฟ่ย์เหลือบมองชายหนุ่มพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองราวกับคิมหันต์อยู่ตรงนั้น
“เรื่องแบบนี้ บางทีเราก็ฝืนโชคชะตาไม่ได้หรอกนะ” เหมันต์พูดเสียงเรียบๆ
“แต่คิม....”
“เอาน่ะ เราคอยดูอยู่ห่างๆ แล้วกัน” เหมันต์สรุป
“เอ่อ...นี่มันเรื่องอะไรกันเหรอคะ?” เอริโกะนั่งมองสองคนคุยกันตาปริบๆ รู้สึกงุนงงจนอดที่จะถามออกมาไม่ได้
“ทำไมพวกคุณพูดเหมือนเซร่ากับนายคิมหันต์....เอ่อ....ชอบกันแล้วอยู่ๆ ก็มีใครโผล่มาแทรกยังงั้นล่ะ” เอริโกะถามออกมาด้วยความไม่แน่ใจ
“เฮ้อ......จริงสิเธอยังไม่รู้เรื่องนี่นะ”
ออยเฟ่ย์หันมามองเอริโกะที่มองหน้าพวกเขาด้วยความงุนงงสงสัยก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะเริ่มต้นเล่าเรื่องให้หญิงสาวฟัง
“เซร่า!! เดี๋ยวก่อนสิ”
ฮิเดกิที่วิ่งตามจนทันหญิงสาว คว้าแขนของเธอเอาไว้และดึงให้หันหน้ากลับมาเผชิญกับเขา ก็พบว่านัยน์ตาสวยของเธอมีน้ำตาเอ่อรื้นขึ้นมา ส่งผลให้ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย
“ฮึก..มี..มีอะไรเหรอ? ฮิเดกิ?”
เซร่าสะอื้นเล็กน้อย ก่อนจะเอามือปาดน้ำตาของเธอออกอย่างรวดเร็ว และปรับสีหน้าส่งยิ้มให้กับฮิเดกิเหมือนเป็นเรื่องปกติ
“เธอ....เธอร้องไห้?” ฮิเดกิอึ้ง
“ปะ..เปล่านี่..ฉัน..ฉันไม่ได้ร้องไห้เสียหน่อย.....ฮึก..”
เซร่าฝืนส่งยิ้มให้ด้วยสีหน้าร่าเริงก่อนจะกัดริมฝีปากของเธอเพื่อกั้นไม่ให้เสียงสะอื้นดังออกมา พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มรื้นขึ้นมาอีกครั้ง
“โกหก!”
“เปล่านะ...ฉัน....ฮือ ฮือ” หญิงสาวพยายามปฏิเสธ แต่ทว่าความรู้สึกภายในที่เจ็บปวดทำให้อดกลั้นไม่ได้จึงร้องไห้ออกมา
“ถ้าอยากร้อง...ก็ร้องออกมาเถอะนะ”
ฮิเดกิดึงตัวหญิงสาวเข้ามากอดเอาพร้อมกับกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นยิ่งทำให้เธอร้องไห้ออกมามากยิ่งขึ้น ความรู้สึกเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นกับหัวใจ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าไม่ใช่เป็นเพราะโรคหัวใจที่เป็นอยู่ หากแต่เป็นความรู้สึกของเธอที่มีให้กับชายหนุ่มคนหนึ่งมากกว่าคำว่าเพื่อนต่างหาก
“....................”
ฮิเดกิกอดร่างบอบบางที่กำลังร้องไห้กับอกเขาแน่น ไหล่ที่สั่นเล็กน้อยทำให้เขารู้สึกได้ถึงความเสียใจที่ท่วมท้นของหญิงสาว
เซร่าไม่เคยร้องไห้แบบนี้มาก่อน แม้ตอนเด็กเธอจะเคยร้องไห้ แต่เพียงครู่เดียวเธอก็กลับไปยิ้มแย้มเหมือนเดิม
เพียงเพราะชายหนุ่มที่ชื่อ คิมหันต์ เท่านั้น ที่ทำให้เธอร้องไห้ขนาดนี้ ฮิเดกิพอจะเข้าใจความรู้สึกของเซร่าที่มีต่อคิมหันต์ทันที
หญิงสาวร้องไห้เป็นเวลานานมากจนเธอแทบไม่รู้ถึงเวลาที่ผ่านไป จวบจนกระทั่งเธอค่อยๆ หยุดร้องไห้ทีละน้อย ฮิเดกิเอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาบนใบหน้าของเซร่าให้อย่างอ่อนโยน
“เซร่า...เธอชอบคิมหันต์ใช่มั้ย?” ฮิเดกิตัดสินใจถามเธอทันที
“ฉัน....ฉัน....ฮึก”
เซร่ารู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง ทำให้เธอไม่สามารถตอบคำถามของชายหนุ่มได้ในทันที ภาพเหตุการณ์ที่เธอและคิมหันต์ไปร่วมเผชิญด้วยกัน โผล่ขึ้นมาในหัวสมอง การกระทำต่างๆ ของเขาและเธอที่เคยทำร่วมกันส่งผลให้หญิงสาวรู้สึกใจเต้นแรงมากยิ่งขึ้น
เราชอบอีตานั่นเหรอ....
ไม่จริง....
แล้วถ้าอย่างนั้นทำไมเราต้องรู้สึกเสียใจมากขนาดนี้ที่เห็นนายนั่นไปกับผู้หญิงคนนั้นล่ะ....
หรือว่าเรา......
“เซร่า....เธอรู้สึกยังไงก็บอกมาตามตรงเถอะ”
ฮิเดกิเอานิ้วปาดคราบน้ำตาให้กับเซร่าอย่างอ่อนโยน หญิงสาวจ้องมองเขาด้วยสายตาหวั่นเกรงหัวใจเต้นถี่แรงมากยิ่งขึ้น
“ฉัน...ฉัน....อึ๊.”
เซร่ารู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจขึ้นมากะทันหัน เมื่อรู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วมากเกินกว่าขีดจำกัด หญิงสาวเอามือกำที่หัวใจ ก่อนจะค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น สีหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด นัยน์ตาพร่า สติเริ่มลางเลือน
“เซร่า!!”
“ฉัน...”
เซร่าทนความเจ็บปวดไม่ไหวจึงหมดสติไปทันที ฮิเดกิรับร่างของเธอไว้ได้ทัน ชายหนุ่มอุ้มร่างหมดสติของเธอขึ้นและวิ่งตรงไปยังด้านหน้าประตูโรงเรียนเพื่อพาหญิงสาวไปยังโรงพยาบาลทันที