ตอนที่ 7
ขณะเดียวกันมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งกำลังกลั้นใจรอคอยฟังคำตอบจากปากของออยเฟ่ย์อยู่ด้านหลังของผ้าม่านเช่นกัน
เซร่ารู้สึกตัวตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องพยาบาล แต่เธอไม่กล้าโผล่หน้าออกไป เมื่อได้ยินเรื่องที่ทั้งคู่สนทนากัน
“.........”
“ก็ได้”
“งั้นเหรอ ฉันเข้าใจ..ฮะ? เธอว่าไงนะ?” คิมหันต์ตาโตมองหน้าหญิงสาว นึกว่าหูฝาด
“ฉันจะคบกับเธอ”
“จริงน่ะ!” คิมหันต์ถามซ้ำอย่างไม่เชื่อหูในสิ่งที่เขาได้ยิน
เมื่อเขาเห็นหญิงสาวพยักหน้าให้อย่างอายๆ เป็นการยืนยัน เขาก็คว้าตัวเธอมากอด ฉีกยิ้มกว้างเหมือนเด็ก
“โอ๊ย เบาๆ หน่อยสิ ฉันเจ็บอยู่นะ” ออยเฟ่ย์ร้องพร้อมกับตีเผียะไปที่แขนของชายหนุ่ม
“โทษที ฉันลืมไปน่ะ” คิมหันต์ปล่อยตัวหญิงสาว ยิ้มเก้อๆ ทำให้ออยเฟ่ย์ต้องยิ้มออกมากับท่างทางของเขา
“เอ่อ..เรากลับไปเข้าเรียนดีกว่ามั้ย? ยังทันคาบเรียนที่สองนะ”
ออยเฟ่ย์รู้สึกขัดเขินกับสายตาที่จ้องมองมาของชายหนุ่ม และรีบคว้าถุงคุกกี้ลุกขึ้นยืนทันที
“ช่างมันสิ...” คิมหันต์รั้งแขนของออยเฟ่ย์เอาไว้
“เดี๋ยวฉันกินคุกกี้เอง แล้วก็....” คิมหันต์ดึงถุงคุกกี้ออกจากมืออออยเฟ่ย์ แล้ววางไว้บนเคาน์เตอร์ จ้องมองออยเฟ่ย์ด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“หืม?” ออยเฟ่ย์กระพริบตาอย่างงงๆ
“ขอมัดจำหน่อยสิ”
คิมหันต์รั้งเอวบางของหญิงสาวเข้ามาแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เพียงเท่านี้ออยเฟ่ย์ก็รู้ถึงสิ่งที่เขาต้องการ หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ แต่ก็ไม่ขัดขืนในสิ่งที่ชายหนุ่มกระทำ
เซร่าแหวกม่านออกมาแอบดู หลังจากเสียงพูดคุยเงียบไป แต่ภาพที่เห็นทำให้เธอตกตะลึง
คิมหันต์กำลังจูบออยเฟ่ย์
หญิงสาวรีบปิดผ้าม่านทันที และนอนลงชักผ้าห่มขึ้นคลุมตัว ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นไปที่หัวใจ
เธอยกมือกุมหน้าอกด้านซ้าย นิ่วหน้า กัดฟัน ข่มความเจ็บปวดไว้
จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าของทั้งคู่เดินออกจากห้องพยาบาลไป
เซร่ารีบลุกขึ้น เดินซวนเซไปค้นยาจากกระเป๋า เป็นยาแก้อาการเจ็บปวดที่หมอให้พกติดตัวไว้เสมอ
เมื่อทานยาเสร็จ เธอก็ล้มตัวลงนอนต่อ พยายามข่มตาให้หลับ
ทว่าภาพเมื่อครู่ ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในสมองของเธออยู่ดี
12.00 น. เหมันต์รีบร้อนออกจากห้องเรียนและตรงไปยังห้องพยาบาลทันที
ครืดด!
“มิยาเกะซัง ตื่นรึยัง....อ้าว”
เมื่อชายหนุ่มไปถึง ก็พบว่าหญิงสาวนั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว และกำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างห้องพยาบาล
หญิงสาวไม่ได้พักผ่อนเลย หลังจากที่เห็นคิมหันต์จูบกับออยเฟ่ย์
เซร่าพยายามข่มตาให้หลับ แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ จึงได้แต่นั่งเหม่อลอยและครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเธอตั้งตัวไม่ทัน
“มิยาเกะซัง ตื่นนานแล้วหรือครับ” เหมันต์เรียกซ้ำ เมื่อเห็นเซร่าไม่ได้ยิน
“อ่า..เอ่อ..ฉันตื่นซักพักแล้วค่ะ” เซร่าเลือกที่จะไม่บอกความจริง และรีบลุกขึ้นยืนทันที และรู้สึกหน้ามืด ร่างซวนเซ
“ไหวมั้ย” เหมันต์รับร่างของหญิงสาวไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะล้มลง
“แหะ สงสัย.จะนอนเยอะเกิน” เซร่าหัวเราะกลบ
“เหรอ..สงสัยต้องให้เธอนอนนานกว่านี้แล้วล่ะ”
“ทำไมคะ?”
“ฉันจะได้กอดเธอเหมือนตอนนี้ไง” เหมันต์ยักคิ้ว อมยิ้มกรุ้มกริ่ม
“เอ่อ..”
เซร่ารีบยันตัวห่างจากชายหนุ่ม ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย
“ฉันหิวแล้ว ไปหาอะไรทานกันดีกว่า”
เหมันต์อมยิ้ม ก่อนจะจูงมือเซร่าเดินเคียงคู่กันออกจากห้องพยาบาลไป
โรงอาหารตอนกลางวันคลาคล่ำไปด้วยนักเรียน เอริโกะนั่งทานข้าวอยู่ที่โต๊ะ แต่สายตาของเธอกลับสอดส่องมองหาใครบางคนตลอดเวลา
พลันสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นฮิเดกิกำลังเดินถือถาดใส่อาหารเดินตรงมาหาเธอ
“เอริโกะ เซร่าล่ะ?” ชายหนุ่มถามพร้อมกับนั่งลงเคียงข้าง
“ไม่รู้ ตัวฉันไม่ได้ติดกับเซร่านะ” เอริโกะสะบัดเสียงใส่ ในใจรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย
“เป็นอะไรน่ะ”
“เปล่านี่” เอริโกะตอบด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น
“แน่ะ อารมณ์เสียเรื่องอะไรล่ะ หืม?” ฮิเดกิอมยิ้มล้อเลียน
“ไม่มีอะไรซักหน่อย”
“โมโหมากๆ หน้าเหี่ยวไม่รู้ด้วยนะ”
“เอ๊ะ นายนี่” เอริโกะทำตาเขียวใส่ ชายหนุ่มกลับหัวเราะชอบใจ
“ถ้าเธอเลิกโมโห ตอนเย็นฉันจะเลี้ยงเครป”
“จริงนะ!” เอริโกะตาโตมองเขา
“อื้อ” ฮิเดกิอมยิ้มและพยักหน้า
“สัญญาแล้วนะ” เอริโกะบ่นงึมงำ ก่อนจะยอมคุยดีกับชายหนุ่ม
หลังจากเกิดเรื่องของเรน่า ฮิเดกิก็สนิทกับเอริโกะเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญเขารู้สึกดีที่ได้แกล้งแหย่หญิงสาวเป็นประจำ
เซร่ากับเหมันต์เดินเคียงคู่กันเข้ามาภายในโรงอาหาร และพากันเดินตรงไปยังร้านค้าเพื่อสั่งอาหาร
ชายหนุ่มถือถาดใส่อาหารทั้งของตัวเอง และของหญิงสาวพากันเดินหาที่นั่ง
เซร่าเหลือบมองไปเห็นเอริโกะและฮิเดกิ จึงชวนชายหนุ่มให้ไปนั่งกับพวกเขา
“คนที่นายถามหา เดินมาโน่นแล้ว” เอริโกะเอ่ยลอยๆ
“หือ?”
ฮิเดกิเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เอริโกะจึงบุ้ยใบ้ไปด้านหลัง
เมื่อเขาหันไปมอง ก็เห็นเซร่ากำลังเดินตรงมา จึงฉีกยิ้มให้ แต่พอเห็นชายหนุ่มที่เดินตามหลัง สีหน้าก็เจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ขอโทษที ลืมบอกว่าเขาไม่ได้มาคนเดียว” เอริโกะกระซิบด้วยเสียงประชดประชัน
“ขอโทษที่มาช้า นั่งสิคะ คุณเหม” เซร่าขอโทษทั้งคู่
“ขอนั่งด้วยคนนะ”
“ด้วยความยินดีค่ะ คุณเหมันต์” เอริโกะส่งยิ้มให้กับเหมันต์อย่างพึงพอใจ เมื่อเห็นว่าเขามากับเซร่า
“ประธานฯ ไม่ต้องทานข้าวกับออยเฟ่ย์หรือครับ?”
“............”
“ออยเฟ่ย์มีคนทานด้วยแล้ว นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” เอริโกะพูดลอยๆ เพราเธอเห็นออยเฟ่ย์นั่งทานข้าวอยู่กับคิมหันต์
“ทำไมออยเฟ่ย์ถึงทานข้าวกับคิมหันต์ล่ะ?” ฮิเดกิโพล่งถามออกมาอย่างอดไม่ได้
เหมันต์และเซร่าชะงักมือที่จับช้อมส้อมเอาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตักอาหารทานอย่างเงียบๆ ต่อไปโดยไม่พูดจา
“เอ๊อ..แล้วนายจะไปยุ่งกับเขาทำไม รีบๆ กินเลย”
“แต่...”
“เอ๊ะ รีบกินเลย เดี๋ยวเข้าเรียนสายหรอก” เอริโกะพร้อมกับถลึงตาดุใส่ ชายหนุ่มจึงยอมสงบปากและทานข้าวต่อไป
เสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น บอกให้รู้ว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว
“มิยาเกะซัง ตอนเย็นเจอกันหน้าประตูนะ ฉันจะไปส่ง..”
“ไม่ต้องก็ได้ครับ ผมต้องไปส่งเซร่าอยู่แล้ว” ฮิเดกิขัดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
“อ้าว ไหนนายบอกจะพาฉันไปเลี้ยงเครปไง” เอริโกะขัดขึ้นทันที
“ฉันกลับกับคุณเหมได้ ฮิเดกิไปกับเอริโกะเถอะ” เซร่าตัดบท
“เจอกันตอนเย็นนะคะ” เซร่ายิ้มให้เหมันต์
“งั้นเจอกันตอนเย็นครับ” เหมันต์ยิ้มให้ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากโรงอาหารไป