ตอนที่ 3
ด้านหน้าของห้องเรียน อาจารย์กำลังอธิบายถึงโครงสร้างและขั้นตอนการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตสมัยดึกดำบรรพ์
แต่เนื้อหาเหล่านั้นไม่ได้เข้าหัวของเซร่าเลยแม้แต่น้อย
หญิงสาวนั่งใจลอยตลอดคาบเรียนช่วงบ่าย
ชายหนุ่มที่นั่งด้านข้างรู้สึกแปลกใจกับท่าทางของเธอ เพราะบางครั้งเธอก็ถอนใจออกมา
เสียงออดหมดคาบเรียนสุดท้ายดังขึ้น ชายหนุ่มเก็บเครื่องเขียนและของต่างๆ ลงในกระเป๋าเป้สะพาย
“วันนี้ เวรฉันไปเอาลูกบาส เจอกันที่สนามนะ”
ไมเคิล เพื่อนของเขาตะโกนบอก ก่อนจะรีบแจ้นออกจากห้องเรียนไปยังห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา
“เหม่ออะไรของเธอน่ะ”
“ฮะ?”
เซร่าสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ เมื่อชายหนุ่มลากเก้าอี้ของโต๊ะด้านหน้าออกมาและนั่งลงตรงข้าม พร้อมกับมองเธอด้วยแววตาสำรวจ
“เป็นอะไรรึเปล่า? สีหน้าไม่ค่อยดีเลย”
คิมหันต์ขมวดคิ้วพลางเอื้อมมือไปจับคางของหญิงสาวหันไปทางซ้าย และขวาสำรวจความผิดปกติ
“ฮึ้ย! ฉันไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” เซร่าเบี่ยงใบหน้าให้หลุดพ้นจากมือ ในใจรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“งั้นเรอะ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
คิมหันต์คว้ากระเป๋าเป้สะพายขึ้นบนบ่า และลุกขึ้นยืน
“คิม...”
“หือ?”
“นายยังชอบออยเฟ่ย์อยู่รึเปล่า?”
“ถามทำไม?” ชายหนุ่มชักสีหน้า น้ำเสียงขุ่นมัว
“ฉันอยากรู้น่ะ”
“มันไม่เกี่ยวกับเธอ” คิมหันต์ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ขอร้องล่ะ..ตอบหน่อยได้มั้ย?” เซร่าจ้องมองเขาด้วยแววตาอ้อนวอน
“ชอบ”
“งั้นหรือ...” เซร่าครางเสียงเบาหวิว รู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกด้านซ้ายเล็กน้อย
“.............”
“แล้วคุณเหม..?”
“ออยเฟ่ย์ชอบเหมันต์” คิมหันต์ตอบด้วยน้ำเสียงเจือความข่มขื่น
“ถ้าไม่มีคุณเหม ออยเฟ่ย์จะชอบนายมั้ย?” เซร่าถามพร้อมกับจ้องมองชายหนุ่มเพื่ออ่านความรู้สึก
“ก็...อาจจะชอบ..มั้ง” คิมหันต์ตอบด้วยน้ำเสียงแบ่งรับแบ่งสู้ แต่แท้จริงชายหนุ่มก็ไม่มั่นใจนักว่าจะเป็นเช่นนั้น
“งั้นหรือ...”
“นายต้องรีบไปซ้อมบาสไม่ใช่เหรอ?” เซร่าเอ่ยปากไล่ชายหนุ่มทางอ้อม
คิมหันต์จ้องมองเธออย่างค้นหา ก่อนจะพยักหน้ารับและหันหลังเดินออกจากห้องเรียนไป
หญิงสาวยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะเรียน เธอหยิบกระดาษขึ้นมาและเอาปากกาเขียนชื่อเหมันต์ คิมหันต์ ออยเฟ่ย์ และชื่อตัวเอง
ภาพเหตุการณ์เมื่อตอนพักกลางวันยังคงกระจ่างชัดในความทรงจำของเธอ
------------------------------------------------------------
“เธอคบกับฉันได้มั้ย?” เหมันต์ถามซ้ำเมื่อเห็นหญิงสาวนิ่งเงียบไป
“เอ่อ.คือ..”
“หรือเธอมีแฟนแล้ว?”
หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธจนผมกระจาย ใบหน้าเป็นสีเข้มขึ้น
“หรือเธอรังเกียจฉัน?”
“เปล่านะคะ” เซร่าปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
“แต่..คุณเป็นแฟนกับออยเฟ่ย์นี่คะ”
“ใครบอกเธอ?” เหมันต์ขมวดคิ้ว
“ก็..เอ่อ...” เซร่าก้มหน้าหลบสายตาอันคมกริบของชายหนุ่ม
“......”
“ช่างเถอะ เรื่องของฉันกับออยเฟ่ย์เป็นอดีตไปแล้ว”
“แต่คุณยังชอบออยเฟ่ย์อยู่ไม่ใช่รึคะ?” เซร่าเงยหน้ามองเขาด้วยสายตารู้ทัน
“คิมหันต์ คือคนที่เหมาะสมจะดูแลอออยเฟ่ย์น่ะ”
“นั่นไม่ใช่คำตอบนี่คะ” เซร่าแย้ง
- - ออด ออด - -
เสียงออดเข้าเรียนช่วงบ่ายดังขึ้นขัดจังหวะการพูดคุยของทั้งคู่
“อดีตเป็นยังไงไม่สำคัญ ตอนนี้คนที่ฉันอยากอยู่ด้วยก็คือ เธอ” เหมันต์จ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาที่จริงจัง
“ฉันรู้ว่าคงเร็วไป แต่ฉันอยากให้เธอลองเก็บไปคิดดู แล้วค่อยให้คำตอบก็ได้”
เหมันต์มองตาเซร่าหวานซึ้ง จนเธอรู้สึกขวยเขิน จึงแกล้งเสก้มมองบนพื้น
“ฉันหวังว่าเธอจะให้โอกาสฉันนะ”
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองเธอด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ก่อนจะยกมือของหญิงสาวขึ้นมา และจูบเบาๆ ไปที่หลังมือของเธอ
------------------------------------------------------------
“เฮ้อ..” เซร่าถอนใจออกมาเบาๆ พร้อมกับมองด้านหลังมือของเธอด้วยความรู้สึกสับสน
“เจ็บมือเหรอ?” เอริโกะที่เดินมายืนด้านหลังของเซร่า ถามด้วยความแปลกใจ
“ฮะ เอ้อ. เปล่าน่ะ” เซร่าสะดุ้งก่อนจะรีบปฏิเสธ
“ทำไมหน้าแดง ไม่สบายรึเปล่า?”
“ฮื้อ ฉันไม่เป็นอะไรน่ะ แล้วฮิเดกิล่ะ?” เซร่าถามหาเพื่อนชายของเธอเพื่อกลบเกลื่อน
“ฮิเดกิบอกว่า ให้ไปรอที่หน้าประตูโรงเรียนน่ะ เขาอาจจะไปช้าเล็กน้อย เพราะต้องจัดการกับเอกสารเร่งด่วนน่ะ”
เอริโกะบอกเซร่าด้วยสีหน้าระเรื่อ เมื่อนึกถึงชายหนุ่มคนที่ตนพูดถึง
“เหรอ งั้นรีบไปกันเถอะ”
เซร่ารีบเก็บของใส่กระเป๋านักเรียน โดยที่ไม่ทันสังเกตเห็นความผิดปกติของเอริโกะยามที่พูดถึงชายหนุ่มเพื่อนสนิทของเธอ
แสงแดดยามเย็นที่ส่องสะท้อนกระจกตามทางเดินของโรงเรียน เป็นประกายวิบวับสวยงามมากนัก
อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ทำให้สองสาวต้องกระชับเสื้อกันหนาวให้แนบแน่นมากขึ้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
ขณะที่เดินผ่านโรงยิม เซร่าอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเข้าไปภายใน
ภาพชายหนุ่มที่คุ้นตากำลังยืนพักเหนื่อย โดยมีหญิงสาวสวยคอยเอาผ้าซับเหงื่อตามแขนให้อย่างสนิทสนมทำให้เซร่าเม้มริมฝีปากแน่นอย่างลืมตัว
“มัวมองอะไรอยู่น่ะ ไปเร็ว”
เอริโกะที่เดินล่วงหน้าไปก่อน กลับมาดึงมือหญิงสาวให้ตามเธอต่อไป
หน้าประตูโรงเรียน เอริโกะเห็นฮิเดกิและชายหนุ่มอีกคนกำลังยืนรอคอยพวกเธออยู่
“เซร่า ใครกันน้า? มายืนรอพร้อมกับฮิเดกิน่ะ”
เอริโกะกระซิบด้วยน้ำเสียงล้อเลียนหญิงสาว ก่อนจะบุ้ยใบ้ให้เธอมองไปที่หน้าประตูโรงเรียน
เมื่อเซร่าหันไปมองก็สบสายตากับชายหนุ่มที่ยืนเคียงข้างฮิเดกิอย่างจัง ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น
“อ๊ะ ทำไมหน้าแดงล่ะ คิกคิก”
เพียะ!
“เดี๋ยวเถอะ เอริโกะ” เซร่าตีแขนของเพื่อนสาวแก้เขิน เมื่อเห็นว่าเพื่อนหัวเราะล้อเลียนเธอ
“ต้องฝากขอโทษคุณลุงของเธอด้วยนะ”
เหมันต์บอกเซร่าขณะที่เดินกลับบ้านพร้อมกัน
“เรื่องอะไรคะ?”
“พอดีช่วงนี้ฉันติดงานที่บริษัท เลยทำให้ไม่ว่างพอจะไปพบท่าน เพื่อขอคำแนะนำน่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ งานที่บ้านของคุณเหมสำคัญกว่านี่คะ” หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“อาทิตย์หน้า อาจารย์ใหญ่อนุญาตให้มีการจัดงานกีฬาสีได้แล้วนะ”
“จริงหรือคะ?”
“อื้ม ฉันลงแข่งบาสเกตบอลด้วยล่ะ” เหมันต์บอกยิ้มๆ
“ฉันขอให้คุณชนะนะคะ” เซร่ายิ้มตอบ
ชายหนุ่มและหญิงสาวพูดคุยกันถูกคอ แม้เซร่าจะมีอาการขัดเขินอยู่บ้าง
“ฮิเดกิ นายคิดว่าคุณเหมันต์กับเซร่ามีอะไรแปลกๆ มั้ยอะ?”
เอริโกะกระซิบกระซาบกับชายหนุ่ม หลังจากที่เดินตามหลังคู่ของเหมันต์และเซร่ามาตลอดทาง
“ก็..ไม่มีอะไรแปลกนี่”
“เหรอ แต่ฉันว่า..ทั้งคู่ต้องมีอะไรแน่ๆ เลยน่ะ”
“ยุ่งเรื่องคนอื่นมากไปรึเปล่า” ฮิเดกิต่อว่าอย่างไม่จริงจังนัก
“เอ๊ะ ก็มันน่าสงสัยนี่นา” เอริโกะทำจมูกย่นใส่ฮิเดกิก่อนจะสะบัดหน้าหนีอย่างงอนๆ
“ทำหน้ายู่มากระวังแก่เร็วล่ะ ฮ่ะๆ” ฮิเดกิแซวหญิงสาวก่อนจะหัวเราะออกมา
แม้ปากจะบอกว่าไม่สงสัย แต่ฮิเดกิก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเซร่าด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง