ตอนที่ 2
ด้านหน้าของโรงเรียนเซนท์เฮเลน่า รถยนต์หรูสองคันจอดหน้าประตูโรงเรียนในเวลาไล่เลี่ยกัน
“สวัสดี มิยาเกะซัง มิยาฮาร่าซัง” เหมันต์เอ่ยปากทักชายหนุ่มและหญิงสาวที่ลงจากรถยนต์คันหน้าด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“สวัสดีครับประธานฯ” ฮิเดกิทักตอบ ส่วนเซร่าพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหลบสายตาของชายหนุ่มที่จ้องมองเธอ
“ก้มหน้าก้มตาอยู่ได้”
“อะไรยะ?” หญิงสาวหันขวับไปมองตามเสียง ก่อนจะขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่มอย่างลืมตัว
“ฉันเห็นเธอยืนก้มหน้า ทำตัวเหมือนเด็กที่โดนลงโทษน่ะ” คิมหันต์พูดขำๆ
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะยะ” เซร่าแว้ดใส่ทันที
“ฮึ ใครจะรู้ล่ะ” คิมหันต์พูดพร้อมกับยักคิ้วให้อย่างกวนๆ
“นายนี่....”
“เหม! คิม!”
เสียงเรียกที่ดังขึ้นดึงความสนใจของทั้ง 4 คนให้หันไปมอง
“โอย...แฮ่กๆ .. เหนื่อยแฮะ” ออยเฟ่ย์หอบหายใจเหนื่อยพร้อมกับเอาแขนท้าวไปที่ไหล่ของคิมหันต์
“แล้ววิ่งมาทำไม?”
“ก็..ฉัน..กลัว เดินมาไม่ทันอะ” ออยเฟ่ย์ผ่อนลมหายใจให้หายเหนื่อย
“อ้าว สวัสดีค่ะ มิยาเกะซัง” ออยเฟ่ย์เพิ่งเห็นเซร่า
“สวัสดีค่ะ ออยเฟ่ย์” เซร่ายิ้มเจื่อนๆ
“แล้วยืนทำอะไรกันเนี่ย เข้าห้องเรียนเถอะ” ออยเฟ่ย์ชวน พร้อมกับคล้องแขนเหมันต์และคิมหันต์ ลากเดินเข้าไปในโรงเรียนอย่างสนิทสนม
บรรดานักเรียนต่างจับตามอง และซุบซิบกันเมื่อเห็นทั้งห้าคนเดินเข้าไปภายในโรงเรียนพร้อมกัน
“แย่หน่อยนะ เลยไม่ได้แข่งกีฬาเลย” ออยเฟ่ย์เปรยขึ้น
“โดนสั่งให้เลื่อนออกไปต่างหาก” คิมหันต์แก้คำพูด
“นั่นล่ะ อดเห็นคิมเล่นบาสฯ เลย ฮิฮิ”
“เธอก็เห็นฉันซ้อมทุกวันอยู่แล้ว ยัยบ๊องส์” คิมหันต์ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ฮิเดกิ” เซร่ากระซิบถามชายหนุ่มข้างตัวเบาๆ
“อาจารย์ใหญ่สั่งให้เลื่อนงานแข่งกีฬาออกไปก่อนน่ะ”
“ทำไมอะ?”
“ก็...เรื่องของเรน่ายังไงล่ะ”
“อ้อ..” เซร่าถึงเข้าใจเหตุผล
“เซร่า~”
เอริโกะโบกมือเรียกหญิงสาวด้วยท่าทางร่าเริงอยู่ตรงด้านหน้าตึกเรียน
คิมหันต์ เอริโกะ และเซร่าจึงแยกกลุ่มเดินขึ้นตึกของปี 3 เหมันต์ ออยเฟ่ย์ และฮิเดกิต้องเดินต่อ เพื่อไปเรียนอีกอาคารหนึ่ง
“มิยาฮาร่า ฝากกระเป๋าหน่อย เดี๋ยวฉันมา”
เหมันต์วิ่งผละจากออยเฟ่ย์และฮิเดกิที่มองตามด้วยท่าทางงุนงง
เหมันต์วิ่งมาทันเซร่า ขณะที่เธอกำลังจะเดินขึ้นตึกพอดี เขารั้งแขนหญิงสาวเอาไว้ และดึงเข้าหาตัวโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
“หลังทานข้าวกลางวันเจอกันในสวน ที่เดิมนะ” ชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหูของเซร่าอย่างแผ่วเบา ลมหายใจอุ่นของเขารดที่หลังใบหูของหญิงสาว ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมากะทันหัน
เหมันต์ปล่อยแขนของเธอ และส่งยิ้มให้ ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป ทิ้งให้หญิงสาวยืนใจลอยมองตามแผ่นหลัง
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถเล็ดลอดสายตาของชายหนุ่มอีกคนไปได้
“เซร่า.. เซร่า”
“ฮะ?”
“เหม่ออะไรตั้งแต่เช้าแล้วอะ”
“ปละ..เปล่านี่” เซร่าสั่นศีรษะจนผมกระจาย
“โดนอาจารย์เรียกให้ยืนทั้งชั่วโมง ยังจะบอกว่าเปล่าอีกนะ” เอริโกะเอามือบีบจมูกเซร่าสั่นไปมา
“โอ๊ยยยย เจ็บน้า” เซร่าแกล้งร้องโอดครวญ
“ไม่ต้องแกล้งร้องเลย ไปกินข้าว ฮิเดกิมารอแล้ว”
“รู้แล้วน่า..” เซร่าพึมพำตามหลังพร้อมกับเดินตามออกไป
ภายในโรงอาหารจอแจเต็มไปด้วยนักเรียนที่พักกลางวันพร้อมกัน เซร่านั่งรอที่โต๊ะทานอาหาร ส่วนฮิเดกิกับเอริโกะไปซื้อข้าวมาให้
หญิงสาวเหม่อลอยมองไปยังโต๊ะของเหมันต์ที่อยู่เยื้องกันไม่ไกลนัก ก่อนจะหลบสายตาของชายหนุ่มที่มองกลับมา
“น่าเสียดายจริงๆ ที่งานกีฬาเลื่อนออกไป” เอริโกะบ่นกับฮิเดกิ
“นั่นสิ แล้วเธอลงแข่งกีฬาอะไรล่ะ?”
“วิ่งผลัดน่ะ แล้วนายล่ะ?”
“ฉันเป็นกรรมการจัดการแข่ง ลงไม่ได้หรอก”
“งั้น...”
ฮิเดกิกับเอริโกะพูดคุยกันถูกคอ เนื่องจากทั้งคู่เป็นคนที่ชอบเล่นกีฬาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เซร่านั่งเขี่ยข้าวที่อยู่ในจานไปมาอย่างล่องลอย ในใจคิดถึงแต่ชายหนุ่มที่นัดเธอไว้
เซร่าแอบเหล่มองไปยังโต๊ะของเหมันต์ ที่มีคิมหันต์และออยเฟ่ย์นั่งทานข้าวร่วมด้วย
หญิงสาวรู้สึกหมั่นไส้คิมหันต์ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เมื่อเห็นเขาพูดคุยหัวเราะหยอกล้อกับออยเฟ่ย์อย่างสนิทสนม
“ไม่กินละ” เซร่าพูดพลางกระแทกช้อนลงในจาน ใบหน้าสวยบ่งบอกถึงความหงุดหงิดอย่างชัดเจน
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“โมโหอะไรอีกล่ะ ยัยบ๊องส์” ฮิเดกิเย้าอย่างรู้นิสัยหญิงสาวดี
“ไม่มีอะไร” เซร่าตอบเสียงห้วน ก่อนจะกอดอกและสะบัดหน้าไปอีกทาง
“แน่ะ แบบนี้แปลว่ากำลังงอนอะไรอยู่ล่ะสิ”
“........” เซร่าทำตาดุใส่ฮิเดกิ
“ฉันไปก่อนล่ะ”
“อ้าว เฮ้ย! จะไปไหน เซร่า!”
ฮิเดกิร้องตะโกนตามหลัง เมื่อเห็นหญิงสาวลุกจากเก้าอี้และก้าวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
“อะไรของเขากันว้า..” ฮิเดกิเกาศีรษะด้วยความงุนงง
“สงสัยเป็นวันนั้นของเดือนมั้ง” เอริโกะพูดพลางหัวเราะคิกคัก เมื่อเห็นชายหนุ่มทำหน้าปุเลี่ยนบอกไม่ถูก
หญิงสาวเดินตรงลิ่วไปยังสถานที่เคยพูดคุยกับเหมันต์ครั้งแรก
เธอนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินอ่อนและเหม่อมองดอกไม้เบื้องหน้า สายลมอ่อนๆ ที่พัดโชยทำให้รู้สึกหนาวขึ้นมาเล็กน้อย
เซร่ากระชับเสื้อกันหนาวที่สวมอยู่เพื่อให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น ก่อนจะปล่อยความคิดล่องลอยไปกับสายลม
“ใจลอยคิดถึงใครอยู่หรือ?”
หญิงสาวสะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยทัก
“ปละ เปล่าค่ะ” เซร่าส่ายหน้า ก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างเก้อเขิน
“นึกว่าคิดถึงฉันซะอีก” เหมันต์ส่งยิ้มล้อเลียน
“เอ้อ...” ใบหน้าของหญิงสาวร้อนผ่าว ก่อนจะหลบตาเสมองไปทางอื่น
“ไม่ตอบ ฉันถือว่าจริงนะ” เหมันต์พูดพลางนั่งลงเคียงข้างเธอ
“ก็..”
“ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันคงดีใจไม่น้อย” ชายหนุ่มชิงพูดก่อน
“คะ?” เซร่าหันมามองชายหนุ่มด้วยความงุนงง
“เธอหลบหน้าฉันทำไม?” เหมันต์ถามพลางจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวนิ่ง
“เปล่า..นี่คะ”
สายตาครบกริบหลังแว่นกรอบเงินนั้น ทำให้เซร่าหลบตาราวกับเด็กน้อยที่โดนจับได้ว่าทำความผิด
“ตั้งแต่เกิดเรื่องของเรน่า เธอก็พยายามเลี่ยงฉันตลอด เพราะอะไร?”
“...............”
หญิงสาวกัดริมฝีปาก พร้อมกับบีบมือของตนแน่น ก่อนจะก้มหน้าลงมองพื้น
ฉันจะพูดได้อย่างไรคะ ว่าสัญญากับออยเฟ่ย์ไว้
“โกรธอะไรฉันรึเปล่า?”
“.........”
“หรือว่า เธอเกลียดฉัน?”
“ไม่ใช่นะคะ!”
หญิงสาวเงยหน้ามองเขาด้วยความตกใจ รีบปฏิเสธรวดเร็ว
“งั้นแปลว่าเธอชอบฉัน” เหมันต์ยิ้มกริ่มออกมา
“คุณเหมขี้โกงนี่คะ” เซร่าหน้าแดงเมื่อรู้ว่าตกหลุมพรางของชายหนุ่ม
“ถ้าเธอไม่อยากพูด ฉันก็จะไม่ถาม”
“แต่ฉันอยากให้เธอรู้ไว้ว่า ฉันรู้สึกทรมานใจ เวลาเธอหลบหน้าฉัน”
“ทั้งๆ ที่ฉันอยากอยู่ใกล้เธอ อยากพูดคุยกับเธอ แล้วก็อยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้”
“.......”
ชายหนุ่มลุกขึ้นพร้อมกับพูดไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดตรงหน้าหญิงสาวและคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น
เหมันต์จับมือของหญิงสาว และจ้องมองใบหน้าของเธอด้วยสายตาอ่อนโยน
“ฉันอยากรู้จักเธอมากกว่าคำว่า ‘เพื่อน’”
“เธอจะคบกับฉันได้มั้ย?”
“....!!!”
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของเซร่าเบิกโตอย่างตกตะลึงกับคำพูดของชายหนุ่ม