ตอนที่ 10 ไม่เห็นใจ
แน่นอนว่าเขาในสายตาเขาเต็มไปด้วยความอคติต่อเธอ
ไม่นานเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นสองถึงสามครั้ง วศินเอี้ยวตัวมองก่อนส่งเสียงอนุญาต ภรรยาสาวสอดตัวเข้ามาภายในห้อง ก่อนจะปิดมันลงอย่างเบามือ สีหน้าแสดงความประหม่าไม่น้อย
"พี่วศินทำอะไรอยู่คะ" ปาลินลอบมองเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ขณะยืนประจันหน้ากัน
"เธอมีอะไรก็ว่ามา"
ใจร้อนเสียจริง ปาลินแอบบ่นในใจ
"พี่วศินไม่ไปงานเลี้ยงเหรอคะ น่าสนุกนะ"
เขายืนมองล้วงถุงกางเกงวางท่ามาดขรึมยามตอบปัด "ไม่ไป น่าเบื่อ..."
หน้าที่ของปาลินคือการทำให้คุณพระเอกยอมไปงานเลี้ยงให้ไปเจอนางเอกของเรื่อง ฉะนั้นเธอจึงไม่หยุดเซ้าซี้
"พี่วศินควรไปนะคะ"
"ทำไม เธอมีอะไรกันแน่!" หัวคิ้วเข้มขมวดมุ่น เริ่มหวุดหวิดเพราะอีกคนพูดไม่รู้เรื่องยังจะซักไซ้กันอีก งานเลี้ยงของพวกผู้ดีไม่ได้น่าตื่นเต้น หรือสนุกแต่อย่างใด ออกจะน่าเบื่อด้วยซ้ำ เพราะเหล่าคุณชาย คุณนายที่ไปร่วมงานต่างต้องการไปโอ้อวดฐานะลาภยศเสียส่วนใหญ่
"พี่ไม่อยากไปเจอใครเหรอคะ" เธอถามเสียงอ้อมแอ้ม ตากลมกระพริบรอคำตอบ
"ใครที่ว่าหมายถึงอะไร จะหาเรื่องมาทะเลาะกันให้ได้เลยใช่ไหม!" วศินเอ็ดอุบ รู้ทันว่าภรรยาสาวหมายถึงใคร
'ทีเรื่องแบบนี้ฉลาดนัก' เธอคิดในใจคนเดียว แต่แก้ตัวออกไปอีกแบบ
"ใช่ค่ะ กชหมายถึงอัยรา คนรักของพี่ไงคะ เป็นยังไงบ้าง ความสัมพันธ์คืบหน้าหรือเปล่า"
เหมือนกำลังถูกเยาะเย้ย และเหยียบใจกันซึ่ง ๆ หน้าส่งผลให้วศินไม่พอใจ ปรี่ตรงเข้ามากระชากเรียวแขนเล็กอย่างแรง จนเธอหน้าเหยเก ร่างปลิวกระแทกเข้ากับแผงอกแกร่ง
"อย่ามาล้ำเส้นกัน ฉันจะทำอะไรยังไง หรือจะรักจะชอบใครก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยว"
หญิงสาวกัดปากตัวเองจนเลือดซิบ รู้สึกถึงความเจ็บจากแรงบีบที่ข้อมือ คนไม่ถูกรักมันเป็นแบบนี้นี่เองไม่ว่าจะพูดอะไรก็ดูจุ้นจ้านไปหมด คุณพระเอกคงรักอัยรามากถึงได้ออกตัวปกป้องทุกครั้งที่เธอพูดถึง
"กชแค่อยากให้ทั้งสองไปเจอกันเท่านั้นเอง"
"อย่าเสแสร้งทำตัวเป็นภรรยาที่ใจกว้างหน่อยเลย แท้จริงเธอมันร้ายยิ่งกว่านั้น พูดอย่างกับไม่ทุกข์ร้อนเวลาฉันไปยุ่งกับคนอื่น ทั้งที่เธอมักจะตามติดฉัน ไปราวีคนที่เข้าหาฉันมาตลอด!"
"อย่าเสแสร้งทำตัวเป็นภรรยาที่ใจกว้างหน่อยเลย แท้จริงเธอมันร้ายยิ่งกว่านั้น พูดอย่างกับไม่ทุกข์ร้อนเวลาฉันไปยุ่งกับคนอื่น ทั้งที่เธอมักจะตามติดฉัน ไปราวีคนที่เข้าหาฉันมาตลอด!"
บริภาษว่าร้ายจนพอใจ วศินจึงยอมสะบัดมือออกปล่อยแขนภรรยาสาว ปาลินบีบนวดข้อมือที่รู้สึกเจ็บปวดราวกับกระดูกจะแตกหักเสียให้ได้ ความประสงค์ของเธอไม่ใช่จะเข้ามาหาเรื่อง เพียงต้องการให้พระนางเจอกัน และถึงจุดจบนิยายเรื่องนี้สักที
"ไม่ใช่แบบนั้นเลยนะคะ"
"ไปให้พ้นหน้าฉันซะ" คนตัวโตยกมือชี้นิ้วไล่ประกอบคำพูดที่ตวาดดังลั่น ดวงตาคมคู่นั้นมืดดำจนปาลินขนลุก ไม่ทันแก้ต่างเธอก็ถูกดันหลังออกไปจากห้อง ก่อนประตูห้องทำงานจะปิดดังปึง
ค่ำคืนนี้สองสามีภรรยาเข้านอนโดยไร้บทสนทนาต่อกัน ต่างคนต่างนอนตะแคงข้างหันหน้าเข้ามุม ปาลินรู้สึกอึดอัดที่อีกฝ่ายทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน อีกทั้งคิดว่าเขายังโกรธเรื่องเมื่อครู่ในห้องทำงานนั่น
"กชขอโทษนะคะถ้าทำให้พี่วศินไม่พอใจ" การไม่สร้างศัตรูเพิ่มเป็นสิ่งที่ปาลินควรทำ
วศินกำลังข่มตาหลับก็หูผึ่งทันใดครั้นได้ยินคำขอโทษจากปากหญิงสาวซึ่งเหลือเชื่อจนเขาไม่คิดว่าจะได้ยิน กชมลเคยขอโทษใครเสียเมื่อไรหยิ่งยโสถือตนเหนือคนอื่นเสมอ
"ไม่ต้องพูด หุบปากแล้วนอนซะ"
พอโดนตัดบทเสียงหวานกำลังเอ่ยจึงค่อย ๆ กลืนหายเข้าลำคอ...ขอโทษไปคงไม่มีประโยชน์สินะ
วันต่อมาก่อนเวลาเที่ยงวันคุณแม่เชื้อเชิญเธอมาทำขนมด้วยกันที่ห้องครัว เพราะกลัวว่าอยู่บ้านไม่มีอะไรทำจะเบื่อ แถมอยากถ่ายทอดสูตรลับขนมไทยที่ท่านคิดค้นขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นขนมชั้นดอกอัญชัน นางกิมเล้งที่ยืนเกะกะขวางทางคอยแต่จะจับผิดสะใภ้ใหญ่ของบ้านก็ถูกไล่ให้ออกไป บัดนี้ภายในห้องครัวจึงหลงเหลือแค่คุณแม่กับเธอ
"คุณแม่คะ แบบนี้ได้ไหมคะ"
"รูปร่างอาจจะไม่ตรงแบบมากแต่ฝึกทำแรก ๆ ได้ขนาดนี้ถือว่าใช้ได้เลยนะ"
"กว่าจะทำออกมาสวยกชคงต้องฝึกฝีมืออักเยอะแน่เลยค่ะ แล้วแบบนี้ขนมที่ทำมาเยอะแยะจะทานยังไงให้หมดล่ะคะ"
"ไม่ต้องห่วงจ้ะ...แม่จะให้หนูกชเอาไปฝากตาวศินกับคุณคชาที่บริษัท อีกส่วนหนึ่งก็เอาไปแจกจ่ายให้สำนักงาน..."
"กะ กชเหรอคะต้องเอาไปให้"
"ใช่จ้ะ ถือว่าเป็นการไปเปิดตัวด้วยเลย" วรันธรอยากให้ลูกสะใภ้ไปแสดงตัวอย่างเป็นทางการว่าเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่บริษัท ไปทำความรู้จักกับผู้ใหญ่ที่นั่นเอาไว้เพราะภายภาคหน้าจะต้องร่วมงานกันบ่อยขึ้น