ตอนที่ 10 ไม่เห็นใจ
"อย่าโกรธกชเลยค่ะ ถ้าพี่วศินไม่กลั่นแกล้งก่อน กชคงไม่ต้องทำอะไรแบบนั้น" เธอแย้งพลางกอดอกเชิดหน้าอย่างถือดี
"เธอกำลังโทษว่าฉันเริ่มก่อนนะ!"
สามีหนุ่มได้แต่บดฟันแน่น กำหมัดเข้าหากันเพื่อระบายอารมณ์จนลำตัวสั่นเทา ภรรยาสาวเป็นสะใภ้คนโปรดของมารดา ตนยังมีความเคารพท่านจึงอดกลั้นฝืนทน แม้ไม่พอใจเพียงไร
"ใช่ค่ะ มันจริงนี่นา พี่วศินเป็นคนเริ่ม พอโดนทำคืนก็เป็นกระทิงเถื่อน ฟาดงวงฟาดงาใส่คนอื่น..."
พอหายเจ็บหายไข้ก็ปากเก่งขึ้นมาเชียวแม่คุณ
วศินไม่อยากสนทนากับพวกที่ตนเปรียบว่าเป็นบัวใต้โคลน ดึงเสื้อสูทในมือภรรยาไปถือเอง ก่อนจะสืบเท้าตรงไปยังรถยนต์ที่จอดรอ ทว่าขณะก้าวขาขึ้นรถ วศินเกิดอาการปวดแปลบบริเวณเอวทำให้เขาต้องหยุดเดิน เจ็บออด ๆ แอด ๆ ราวกับคนแก่
"ตั้งใจทำงานนะคะ"
หญิงสาวมองตามไม่ลืมเอ่ยท้ายหลังพร้อมรอยยิ้มอาบยาพิษที่ทำให้วศินแทบกระอัก อยากฉีกกระชากร่างเธอ ถ้าไม่ติดว่าคุณแม่กำลังซุ้มดูพวกเขา
สัปดาห์ถัดไป
"หนูกชแน่ใจนะว่าจะไม่ไปร่วมงานเลี้ยงกับพ่อกับแม่น่ะ" หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามลูกสะใภ้อีกครั้ง ด้วยกังวลว่าการอยู่บ้านเพียงลำพังโดยไม่มีนางคอยหนุนหลังจะทำให้ลูกชายของนางกลั่นแกล้งภรรยาสาว
"กชไม่ไปหรอกค่ะ กชไม่ชอบเข้าสังคมเท่าไหร่"
"งั้นเหรอ...แต่เมื่อก่อนหนูกชชอบออกงานมากเลยนะ ตามติดคุณพ่อของหนูเป็นประจำ แถมออกงานแต่ละรอบสวยโดดเด่นสุด ๆ" วรันธรชมจากใจจริง กชมลเป็นผู้หญิงหัวทันสมัย มีรสนิยมการแต่งตัวเป็นสาวเซ็กซี่ ชุดที่เจ้าหล่อนสวมใส่ไปออกงานส่วนมากล้วนแนบเนื้อ ชุดแหวกลึกเผยให้เห็นผิวขาวออร่าจับ
จนคนมองกันทั้งงาน บ้างซุบซิบนินทาตามประสาพวกขี้อิจฉา ทว่าช่วงนี้วรันธรสังเกตเห็นลูกสะใภ้ดีเด่นไม่ค่อยสวมใส่ชุดเสื้อผ้าสีฉูดฉาดบาดตาพวกนั้นอีกแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะวันธรชอบลุคสาวหวานเฉกเช่นตอนนี้ของหญิงสาว จริงอยู่ที่นางรับได้ทุกแบบในตัวกชมล หากให้ดูตามความเหมาะสมก็ต้องเลือกอีกแบบอยู่แล้ว
ด้วยกลัวว่าจะถูกสงสัย เธอจึงรีบแก้ต่าง "กชอยากลองแต่งตัวหลาย ๆ แนวดูบ้างน่ะค่ะ บวกกับเพิ่งหายป่วยกชไม่อยากออกไปไหนเลย"
ปาลินที่อยู่ในนร่างนางร้ายไม่เคยไปงานเลี้ยงสำหรับไฮโซอะไรเทือกนั้นสักครั้งในชีวิต ไม่ใช่งานถนัดเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งการไปงานเลี้ยงในครั้งนี้ปาลินรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเจอกับตัวละครใดในเรื่องบ้าง ซึ่งเธอไม่อยากเจอ จึงหลีกเลี่ยงที่จะไปสุดชีวิต อัยราก็คงไปกับคุณพ่อ พร้อมเมียน้อยของเขาที่ได้ขึ้นมาเป็นใหญ่ในบ้าน
"แม่พูดตามตรงเลยนะ แม่ไม่วางใจให้หนูกชอยู่กับตาวศินแค่สองคน เพราะรายนั้นจ้องจะหาเรื่องหนูตาลอด พอไม่มีแม่คงมีอะไรเล่นงานหนูกชแน่ ๆ"
"ทำไมไม่ลองชวนพี่วศินไปงานกับคุณแม่ดูล่ะคะ วันนี้พี่เขาไม่ได้ไปทำงาน เอาแต่อุดอู้อยู่ในห้องทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว" ปาลินฉลาดหลักแหลมคิดจะยืมมือแม่ของคุณสามี
เธอกำลังจงใจให้เขาตอบตกลงไปงานเลี้ยงกับครอบครัว เพราะงานนี้เขาต้องเจออัยรา คนรักของเขา พระนางได้เจอกันความสัมพันธ์คงสานต่ออย่างไม่สะดุด เธอก็จะได้กลับไปยังที่ที่จากมาเสียที
"รายนั้นเป็นมนุษย์ถ้ำไม่ชอบเข้าสังคมหรอกจ้ะ ยิ่งไปกว่านั้นนะพาควงไปงานเลี้ยงไปไหว้ผู้ใหญ่ก็เอาแต่หน้าบึ้งตึงไม่รับแขก เสียหน้าพ่อกับแม่หมด" นั่นคือเหตุผล ว่าทำไมวรันธรไม่คิดจะเอ่ยปากเชื้อเชิญบุตรชาย ไปกันสองคนกับสามียังดีกว่าถ้าจะลากวศินให้ไปด้วย
ปาลินได้ยินดังนั้นถึงกับถอนหายใจหนัก หากไม่ยอมจำนนต่ออะไรง่าย ๆ
"ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อคุณแม่ไปงานก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวกชจะไปถามพี่วศินดูเผื่อเขาจะอยากไปแล้วตามไปทีหลัง"
"โอเคจ้ะ" วรันธรขานรับ "มีอะไรโทร.มาบอกแม่เลยนะ คืนนี้ต้องนอนค้างที่โรงแรมด้วย กลัวตาวศินหาเรื่องหนูกชตอนแม่ไม่อยู่นี่สิ"
เพราะรายนั้นอยากหย่าเต็มที คงหาเรื่องมาต่อว่าไม่หยุดหย่อน
"กชรับมือได้ค่ะ ขอให้คุณแม่กับคุณพ่อเดินทางปลอดภัยนะคะ ขอให้สนุกกับงานเลี้ยงค่ะ"
"มาให้แม่กอดหน่อยเร็ว" หญิงสาวสวมกอดแม่สามีด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ความอบอุ่นที่ได้รับจากผู้ใหญ่ใจดีทำให้หัวใจปาลินอ่อนหยวบ เกิดมาทั้งชีวิตเธอไม่เคยมีพ่อ มีแม่ ความรู้สึกที่เคยขาดหายถูกเติมเต็มในที่สุด
รถลีมูซีนเคลื่อนออกไปจากตัวบ้านเมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองท่านขึ้นไปนั่ง เธอมองจนรถยนต์วิ่งไปไกลจนลับสายตา พลางพ่นลมหายใจออกมา รู้สึกใจหายแปลก ๆ
เธอต้องอยู่ในบ้านหลังใหญ่นี้โดยไม่มีใครคุยด้วย ทุกวันเคยมีคุณแม่วรันธรคอยคุยเป็นเพื่อน แต่คืนนี้ท่านเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงของนักการเมือง ซึ่งงานจัดขึ้นกลางกรุง ช่วงขากลับน่าจะเป็นเวลาดึกมาก ทำให้ท่านเลือกที่จะหาโรงแรมหรูละแวกนั้นนอนค้างสักคืน
วศินที่ยืนมองภาพมารดาสวมกอดภรรยาสาวจากชั้นสองของบ้านผ่านระเบียงหน้าต่างของห้องทำงานส่งนตัวด้วยแววตาราบเรียบ มุมปากหนาค่อย ๆ เหยียดยิ้มหยันอันน่าสะพรึงกลัว
"ประจบเก่งดีหนิ!"