2.คิดหนี
ตอนที่ 2.คิดหนี
กริ๊งงงงง~
เสียงกริ่งเตือนสัญญาณไฟดังขึ้น ทำให้ผู้คนรีบวิ่งหนีตายไปคนละทิศทาง เช่นเดียวกับน้ำตาลที่รีบวิ่งลงจากเวทีกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวที่ทุกคนกำลังแตกตื่น พลุกพล่านไม่ต่างจากด้านนอก
ยกเวันปัทมา….ที่กำลังนั่งตัวสั่นอยู่ด้วยความตกใจ
“พี่ปัท!” น้ำตาลไม่รอช้าที่จะวิ่งไปคว้าแขนเล็กของพี่สาวเอาไว้
“ตะตาล! กะเกิดอะไรขึ้น ทะทำไมคนถึงแตกตื่นกันหมดเลย” ปัทเอ่ยถามน้องสาวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เธอเป็นโรคค่อนข้างแพนิคง่าย พอมีเหตุการ์ณอะไรที่ทำให้ตกใจ ปัทมามักจะทำอะไรไม่ถูกเสมอ
แตกต่างกับน้ำตาลอย่างสิ้นเชิง เธอเป็นสายลุยตัวจริง ไม่เคยยอมใคร แถมยังฉลาดเป็นกรด….จังหวะนี้แหละที่เหมาะแก่การหนีมากที่สุด?
“อย่าเพิ่งถามเลย เราต้องหนีตอนนี้แหละ”
ว่าจบ มือเล็กก็ฉุดร่างนุ่มนิ่มของพี่สาวให้ลุกขึ้นก่อนจะพาวิ่งไปหาทางออกเท่าที่ตัวเองพอจะจำได้ ถ้าเธอเข้าใจถูกที่นี่คือโรงแรมของหลุยส์ที่สร้างเอาไว้เพื่อจัดงานและรองรับแขกของเขาโดยเฉพาะ
“แฮ่ก~ ได้เรื่องแล้วครับ!” เสียงการ์ดคนนึงดังขึ้นมากระทบหู
น้ำตาลจึงดึงปัทเข้ามาหลบมุมก่อน หากพวกนั้นเห็นเธอทั้งสองคน คงยากที่จะหนีไปได้
“มีอะไรเหรอ อุบ!!” น้ำตาลรีบเอื้อมมือไปปิดปากพี่สาวเอาไว้ ก่อนจะยกนิ้วมาห้ามเธอ อย่าเพิ่งพูดอะไรออกมาในตอนนี้
“ได้เรื่องว่าไงบ้าง”
“ไฟฟ้าลัดวงจรครับ แผงไฟก็เลยระเบิด โชคดีที่แผงไฟสำรองใช้งานได้ ไฟก็เลยไม่ดับ”
“ช่วยจัดการให้ที เรียกช่างมาซ่อม แล้วก็จัดการความเรียบร้อยทั้งหมด รวมถึงที่พักของแขก คืนเงินเต็มจำนวน ถ้าใครที่ไม่สะดวกคืนเงิน หาโรงแรมแถวนี้ให้พวกเขาพักไปก่อน” ไลออนสั่งงานลูกน้องอย่างมือโปร เพราะเขาคือคนสนิทของหลุยส์ สามารถสั่งการทุกอย่างแทนได้อยู่แล้ว
“ครับคุณไลออน” การ์ดก้มหัวลงรับคำสั่งก่อนจะเดินออกไปทำตามหน้าที่
จังหวะที่น้ำตาลรอไลออนเดินออกไปจากบริเวณนั้น สองสาวไม่รู้เลยว่า มีการ์ดอีกคนกำลังเดินสาวเท้ามาหาพวกเธอจากทางด้านหลัง
“เฮ้! พวกเธอมาทำอะไรตรงนี้!?”
สองสาวเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ที่ถูกจับได้แบบไม่ทันตั้งตัวว่ากำลังจะคิดหนี
เร็วกว่าความคิด….น้ำตาลยกเท้าบางของตัวเองขึ้นมาถีบใส่อกการ์ดหนุ่มตาน้ำข้าว ที่กำลังเดินย่างสามขุมเข้ามาหาพวกเธออย่างรวดเร็ว
พลั่ก!
“อัก!”
“ไปเร็ว!!”
หมับ!
ทันทีที่การ์ดคนนั้นล้มลงบนพื้น น้ำตาลก็รีบคว้าแขนของปัทเอาไว้อย่างรวดเร็ว หญิงสาวดึงร่างเงอะงะของพี่สาวให้วิ่งตามไปกับตัวเองเพื่อไปตายเอาดาบหน้า
ถ้าวันนี้เธอสามารถหนีจากขุมนรกพวกนี้ไปได้ละก็ เธอจะหนีไปบวชชีสักสามเดือนเลยล่ะ
ตึก
ตึก
“โอ้ย! ยัยบ้าเอ่ย!”
“มีผู้หญิงสองคนกำลังหนีไปทางบันไดหนีไฟ!”
“ช่วยจับที!” บอร์ดี้การ์ดหนุ่มรีบกดสปีกโฟนบอกการ์ดคนอื่นๆทันที เพราะเขาจำได้ดีว่าสองสาวนั่นคือพนักงานที่เคยมีปัญหากับเจ้านายของเขามาก่อน
หนำซ้ำท่าทางของพวกเธอยังชัดเจนขนาดนั้นว่ากำลังคิดหนี
-อีกด้าน-
“มีอะไร?” หลุยส์เอ่ยถามคนขับรถขึ้นมาหลังจากเห็นว่าลูกน้องกำลังคุยกับใครสักคนอยู่
“เอ่อ ฟิลิปแจ้งมาว่ามีผู้หญิงจากเมืองไทยพยายามหนีครับ”
“จากเมืองไทยงั้นเหรอ….” หลุยส์ทวนคำตอบ ถ้าบอกว่ามาจากเมืองไทย เขาจำได้ดีเลยล่ะว่าเป็นใคร แล้วก็ไม่คิดแปลกใจด้วยหากยัยผู้หญิงห้าวคนนั้นจะทำแบบนั้น
มาเฟียหนุ่มแสยะยิ้มออกมาอย่างถูกใจกับสถานการณ์ตรงหน้า…..ถ้าเหตุการณ์มันเป็นมาในลักษณะแบบนี้ เขาก็พอจะคิดออกแล้วล่ะ ว่าจะจัดการกับสองคนนั้นยังไงดี
“ครับนาย เธอกำลังหนีไปทางบันไดหนีไฟ”
“หึ แสบใช้ได้ บอกพวกนั้น จับตัวได้แล้วเอามาให้ฉัน ฉันจะรอที่เพ้นท์เฮาส์ การ์ดมีเป็นสิบคนหวังว่าจะไม่โดนยัยหญิงไทยตัวแค่นั้นตลบหลังหรอกนะ” มาเฟียหนุ่มสั่งงาน แต่ถึงอย่างไรเขาก็มั่นใจว่าสองคนนั้นไม่มีทางหนีออกจากโรงแรมเบเนดีนออกไปได้ง่ายๆแน่ เพราะลูกน้องของเขาอยู่ที่นั่นมากพอสมควร
“ครับนาย”
หนึ่งชั่วโมงต่อมา….
@เพ้นท์เฮ้าส์หรู
ตุบ!
“อะโอ้ย”
“อ๊ะ! ผลักมาได้ไอ้พวกเลว!” น้ำตาลหันไปมองหน้าการ์ดร่างใหญ่ที่ผลักตัวเธอลงไปบนพื้นปูนด้วยเเววตาเกลียดชังอย่างไม่คิดปกปิด
ภายในใจของเธอยังรู้สึกโมโหไม่หาย ที่ถูกลูกน้องของหลุยส์จับได้ในตอนที่เธอเกือบจะหนีออกไปจากโรงแรมได้สำเร็จ
หลุยส์นั่งไขว่ห้างพ่นควันบุหรี่อยู่ในห้องโถงใหญ่อย่างอารมณ์ดี มาเฟียหนุ่มลูกครึ่งออสเตรเลียสเปน แสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจกับอาการพยศของคนตรงหน้า
“หึ แค่นั้นมันยังน้อยไปนะสำหรับคนดื้อด้านอย่างเธอ” หลุยส์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดวงตาคมเข้มสีฟ้าจ้องเขม่งไปยังสองร่างที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของเขา
ในขณะที่น้ำตาลจ้องตาเขาอย่างไม่ลดละ ด้วยสายตาอาฆาตแค้น แต่ปัทมากลับนั่งก้มหน้าตัวสั่นราวกับลูกนก….
ช่างต่างกันเสียจริง!!
“มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่ทนอยู่กับคนอย่างนายได้! นายมันวิปริต!!” ปากเล็กตะโกนด่าคนตรงหน้าไปอย่างเหลืออด คนดีๆที่ไหนจะใช้เลือนร่างของผู้หญิงในการหาเงินให้กับตัวเอง!
“ปากดีนักนะ! เธอคิดว่าเธอเป็นใคร ถึงกล้ามาด่าฉัน!” มาเฟียหนุ่มตอบกลับเสียงเหี้ยม รู้สึกหัวเสียอยู่ไม่น้อยที่โดนผู้หญิงตัวเล็กๆตวาดใส่หน้า
ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าด่าเขามาก่อนในชีวิต….
“แล้วนายสูงส่งมาจากไหนกันล่ะ คนที่เอาร่างกายผู้หญิงมาทำงานแบบไร้ศักดิ์ศรีแบบนาย มันไม่ต่างอะไรจากคนโรคจิตเลยสักนิด!!” ปากสวยขยับด่าด้วยความคับแค้นใจ กับการที่เธอต้องใช้ร่างกายหาเงินในแบบที่เธอไม่ได้สมยอมตั้งแต่แรก
ปัทมายื่นมือสั่นๆของตัวเองมาจับแขนน้องสาวไว้ เธอไม่อยากให้น้ำตาลพูดอะไรออกไปมากกว่านี้เลย….เธอกลัวน้องสาวจะไม่ปลอดภัย
“ตะตาล….จะใจเย็นๆก่อนนะ”
“จะใจเย็นๆได้ไงล่ะพี่ปัท! พี่ไม่เห็นธุรกิจที่หมอนี่ทำรึไง น่าทุเรศชะมัด!”
สิ้นเสียงคำด่าทอสุดท้าย หลุยส์ก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ราคาแพงอย่างรวดเร็ว กายสูงใหญ่พุ่งมาหยุดอยู่บริเวณด้านหน้าของสองสาวก่อนที่มือหนาของเขาจะเคลื่อนเข้าไปจับคางมนของน้ำตาลอย่างแรง พร้อมกับออกแรงบีบให้อีกคนรู้สึกเจ็บ….และหวังสั่งสอนให้เธออย่ามาลองดีกับเขา
หมับ!
“อ๊ะ อ่อย!!”
“โรคจิต? ทุเรศ? ดูเหมือนเธอจะลืมอะไรไปอย่างนะ ผู้หญิงพวกนั้นเต็มใจที่จะมาทำงานนี้เองต่างหาก แค่เห็นเงิน คนพวกนั้นก็ฉีกยิ้มกว้าง เต็มใจทำทุกอย่าง แม้มันจะไร้ศักดิ์ศรี ได้ยินแบบนี้แล้วเธอจะมาด่าฉันฝ่ายเดียวไม่ได้นะยัยสาวไทย!”
พรึ่บ!
หนุ่มตาน้ำข้าวกัดฟันตอบกลับ ก่อนจะสะบัดมือของตัวเองออกจากใบหน้าสวยที่จ้องเขากลับอย่างไม่มีความเกรงกลัวใดๆอย่างแรง หากยัยนี่เป็นผู้ชาย เขาคงได้คว้าปืนมายิงให้ตายไปตรงนี้เสียแล้ว!
“แต่ฉันไม่ได้เต็มใจทำงานให้นาย!!” น้ำตาลยังไม่หยุด ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอเต็มใจทำงานพวกนั้น!
“หึ อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อเธอไม่ยอมอ่านข้อตกลงให้ดีเอง” หลุยส์ยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ เพราะนี่มันไม่ใช่ความผิดเขา ในเมื่อเธอเซ็นสัญญามาแล้วก็ต้องทำงานตามหน้าที่ไป
ใบหน้าสวยได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งโกรธจัดจนตัวสั่น เพราะเธอไม่สามารถทำอะไรได้ เธอถูกหลอกโดยเจ๊วัณนาให้มาทำงานบ้าๆนี่!
ในระหว่างที่มือเล็กกำลังกำเข้าหากันแน่นด้วยความโมโห หลุยส์ที่ยืนอยู่ก็ได้หักเหความสนใจไปยังปัทมาที่นั่งมองพื้นด้วยสายตาราบเรียบ
“ฉันควรทำยังไงกับเธอดีนะ โทษฐานที่คิดจะหนีฉันไปในวันนี้” เสือร้ายจ้องมองเหยื่อด้วยสายตาอันโอชะ น้ำตาลเห็นแบบนั้นก็รู้ได้ในทันทีว่าชายตรงหน้ากำลังคิดจะทำอะไร
“นายมองพี่สาวฉันทำไม!?” หญิงสาวตั้งท่าจะขยับไปเอาเรื่อง แต่ความเร็วของเธอมีหรือจะทันคนที่ว่องไวกว่า
หมับ!
“อ๊ะ! ฮึก! ยะอย่าทำอะไรปัทเลยนะคะ ฮือ ปัทขอโทษ” ร่างเล็กของปัทมาถูกมือหนาของมาเฟียหนุ่มกระชากให้ยืนขึ้นเคียงคู่กับเขาอย่างง่ายดาย
ก่อนที่เธอจะปล่อยโฮออกมาด้วยความตื่นกลัวสุดขีด เพราะแรงบีบที่ข้อแขนของเธอทำให้กายสีขาวซีดเป็นรอยแดงแทบทั้งแถบ
น้ำตาลเห็นแบบนั้นก็ได้แต่พยายามสงบสติอารมณ์ หากหมอนี่เล่นงานเธอ เธอไม่กลัวอยู่แล้ว แต่เธอไม่ได้ตัวคนเดียว แถมปัทมาพี่สาวของเธอ ก็ดูอ่อนแอมากกว่าจะไปต่อสู้กับใครได้ โดยเฉพาะมาเฟียร้ายอย่างหมอนี่!
“นายจะทำอะไร!!”
“เธอ….คิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ?” หลุยส์หันมาเลิ่กคิ้วถามน้ำตาล
“น่าเสียดายนะที่ดื้อๆแบบเธอไม่ใช่สเปคฉัน เพราะสเปคของฉันคือผู้หญิงที่น่าทะนุถนอม หึ” ว่าจบเสือร้ายก็แสยะยิ้มออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปโอบเอวบางของปัทเอาไว้ โดยที่อีกคนที่ไม่มีปากเสียงก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เอาแต่ยืนตัวแข็งอยู่ในอ้อมกอดของมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลอยู่แบบนั้น
“อย่ายุ่งกับพี่สาวฉัน ถ้านายโกรธฉันก็มาลงที่ฉันแทน” น้ำตาลเริ่มใช้สมองมากกว่าอารมณ์ เธอตอบกลับคนตรงหน้าไปด้วยน้ำเสียงที่เบาลง
แม้จะเป็นคนที่กล้าได้กล้าเสียมากแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่หญิงสาวปฎิเสธไม่ได้คือ….เธอเป็นห่วงปัทมามากที่สุดในตอนนี้
“ถ้าอยากให้ฉันเลิกยุ่ง….เธอก็ทำตามในสิ่งที่ฉันต้องการสิ”