คว้าหัวใจ มาเฟียเถื่อน 18+

109.0K · จบแล้ว
พริ้มพราว
54
บท
15.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอปลอมตัวมาหลอก ฉกชิงหัวใจของเขาไป เหลือทิ้วเอาไว้เพียงความเจ็บปวดและความรักที่พังทลายลง เธอหักหลังเขาหนีกลับประเทศอย่างเลือดเย็น เพราะเหตุผลนี้.....เขาถึงต้องบินตามกลับมาหาตัวของเธอถึงเมืองไทย มาหลอกให้เขารักแล้วก็หนีหายไปแบบนั้น คิดว่าเขาจะยอมง่ายๆหรือไง!

นิยายรักโรแมนติกพลิกชีวิตสายลับดราม่ามาเฟียเศรษฐีโรแมนติกฟินๆ18+มีลูก

1.ชุลมุน

ตอนที่ 1.ชุลมุน

*คำเตือน: เนื้อหาดังกล่าวเป็นเพียงการจินตนาการของไรท์ทั้งหมด อาจมีถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ติดเรท โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*

@ออสเตรเลีย

“โชว์ต่อไปเตรียมตัว” เสียงสาวร่างท้วมดังขึ้นส่งผลให้เหล่าสาวสวยในห้องแต่งหน้าหันไปมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าตอบรับหัวหน้างานที่เดินมาเอ่ยบอกให้เตรียมพร้อม

“คืนนี้ระดับไหนเหรอ?” สาวผมทองใบหน้าถูกแต่งแต้มไปด้วยสีฉูดฉาดหันมาถามสาวเอเซียไซต์มินิที่กำลังนั่งมองหน้ากันสองคนด้วยแววตากระอักกระอ่วนใจ

“เปลือยหน้าอก” น้ำตาล ชนิสา ไวยกุล ตอบกลับเพื่อนร่วมงานเป็นภาษาอังกฤษด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

แตกต่างกับความรู้สึกขัดใจภายในของเธอเป็นอย่างยิ่ง

“วะว่าไงนะ เปลือยหน้าอกเลยเหรอน้ำตาล” ปัท ปัทมา ไวยกุล ลูกพี่ลูกน้องสาวถามคนตรงหน้าออกมาด้วยสีหน้าตกใจ

“หึ แค่เปลือยอกเนี้ยนะ คืนนี้ของฉันเปลือยทั้งตัว” สาวฝรั่งผมทองยกยิ้มบอกอย่างชอบใจ เพราะนี่คือหน้าที่ของพวกเธอในค่ำคืนนี้

แต่สำหรับน้ำตาล เธอไม่เคยชอบหรือรู้สึกชินเวลาที่จะต้องมาทำอะไรแบบนี้เลยสักนิด

ถ้าให้ท้าวความบอกเล่าเรื่องราวของเธอกับปัทมาคงต้องย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน พวกเธอบินมาที่นี่เพราะถูกเพื่อนของปัทมาหลอกลวง

เธอกับปัทมาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน โดยที่แม่ของน้ำตาลเป็นน้องสาวของแม่ปัทมา ทั้งสองดั้นด้นมาถึงที่ออสเตรเลีย เพราะถูกชักชวนจากเจ๊วันณา เพื่อนของปัทมาแนะนำมาว่าตอนนี้เอเจนซี่รายใหญ่กำลังเปิดรับสมัครคนงานมาทำงานที่ออสเตรเลีย โดยงานที่ต้องทำเป็นงานที่ต้องใช้แรงงานแต่ไม่ได้บอกเอาไว้ตั้งแต่แรกว่างานอะไร

ประจวบเหมาะกับที่เธอเพิ่งเรียนจบและปัทก็เพิ่งถูกไล่ออกจากงาน เพราะร้านกาแฟที่เชียงใหม่ขาดทุนยับจนต้องปิดตัวลง สองสาวจึงตัดสินใจตกปากรับคำมาทำงานที่นี่กับเจ๊วันณา แม้จะมีหลายจุดที่น้ำตาลคิดว่ามันแปลก แต่เธอก็เลือกที่จะมองโลกในแง่ดีเพราะอยากมาหาเงิน เก็บเงินส่งกลับไปให้แม่กับพ่อที่มีหนี้สินอยู่ที่เชียงใหม่มากมาย

แต่ใครจะไปคิดว่าการบินมาทำงานที่เมืองนอกของเธอกับลูกพี่ลูกน้องจะกลับกลายมาเป็นแบบนี้…..

งานที่เธอกับปัทต้องมาทำนั้นไม่ใช่งานเกษตรหรืองานนวดอะไรพวกนั้น มันเป็นงานที่แทบไม่ต้องใช้แรงงานอะไรมากมาย แต่มันต้องใช้แรงกายและร่างกายของพวกเธอเพื่อหาเงิน

อย่านะ….อย่าเพิ่งคิดแบบนั้น

พวกฉันไม่ได้มาขายตัว แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้ต่างจากนั้นมากนักหรอก

“อุ้ย~ คุณหลุยส์มา”

ตึก

ตึก

สิ้นเสียงกรีดร้องวีดว้าย ของสาวๆ เสียงเท้าหนาของร่างสูงหน้าตาสมบูรณ์แบบราวเทพบุตรก็เดินมาหยุดอยู่ในห้องแต่งตัวของเหล่าสาวๆนับสิบคนด้วยแววตาเรียบนิ่ง

‘หลุยส์ เบเนดีน’ มาเฟียหนุ่มตระกูลเบเนดีน เท้าเอวกวาดตามองไปรอบๆห้องนี้เพื่อสำรวจความเรียบร้อย ก่อนที่สายตาคมของเขาจะเลื่อนมาหยุดอยู่บริเวณสองสาวไทยที่เขาเพิ่งรับเข้ามาทำงานได้หมาดๆไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์

ใช่! งานที่น้ำตาลหมายถึง คือเธอต้องมาทำงานให้ไอ้มาเฟียหน้าหล่อคนนี้

โดยเธอจะต้องขึ้นไปแสดงโชว์บนเวทีให้เหล่าลูกค้าที่เข้ามาประมูลสินค้าของเขาได้ดู หากใครถูกใจก็สามารถให้ทิปหญิงสาวได้ตามที่ปรารถนา งานฟังดูเหมือนจะรายได้ดีใช่ไหม แต่มันไม่ได้ดีทั้งหมด

พวกเธอต้องแต่งตัวโป๊ ไม่ต่างอะไรจากการขายเลือนร่างให้กับพวกเศรษฐีมีเงินเชยชม หากท่านไหนสนใจในตัวพวกหล่อน พวกเขาก็สามารถเสนอให้ผู้หญิงกลับไปด้วยได้เช่นกัน ซึ่งไม่ต้องให้บรรยายก็คงเดาได้ไม่ยาก ว่าเหล่าคนมีเงินพวกนั้นซื้อผู้หญิงไปทำอะไร

เดิมทีน้ำตาลกับปัทมาคัดค้านอย่างสุดกำลัง เพราะเธอไม่โอเคกับงานแบบนี้เป็นอย่างมากและตั้งท่าจะฉีกสัญญาอย่างเดียว แต่ทว่าเธอกลับโดนมาเฟียจอมเจ้าเล่ห์ตลบหลัง เพราะสัญญาที่เซ็นเอาไว้ระบุไว้ว่าหากพวกเธอยกเลิกสัญญา พวกเธอจะต้องหาเงินมาจ่ายให้เขาคนละล้านบาทเป็นค่าผิดสัญญา ตามที่ระบุไว้ โดยที่พวกเธอไม่ได้อ่านมันให้ดีก่อน

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมน้ำตาลกับปัท ถึงต้องทนทำงานในสิ่งที่ไม่มีศักดิ์ศรีเช่นนี้ต่อไป…..

และคืนนี้ เป็นคืนที่สาวไทยกล้ำกลืนที่สุดเพราะโชว์ของน้ำตาล….เป็นโชว์ที่เธอต้องเปลือยหน้าอกให้ผู้ชายเหล่านั้นดู

“เธอคือโชว์หลักของเราในคืนนี้ใช่ไหม” หลุยส์มองหน้าถามสาวไทยหน้าคมตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นตามฉบับของเขา ในขณะที่น้ำตาลก็มองหน้าเจ้านายหนุ่มด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย

“อืม” หญิงสาวตอบแค่นั้น

เธอแสดงออกอย่างชัดเจน ว่าเกลียดขี้หน้าเขามากแค่ไหน

“หึ ตอบห้วนจังนะ ได้ข่าวว่าเธอยังเวอร์จิ้น?” มาเฟียหนุ่มถามคนตรงหน้าด้วยสีหน้ายิ้มร้ายกาจ ก่อนจะเหลือบตาไปมองปัทที่นั่งก้มหน้าหงุดเพราะกลัวเขา เหมือนทุกครั้งที่เจอกัน

“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับงาน” น้ำตาลตอบกลับด้วยน้ำเสียงเเข็งกระด้าง ซึ่งหลุยส์ก็พอจะชินชากับนิสัยห้าว เย็นชาของพนักงานใหม่อยู่เหมือนกัน นับตั้งแต่วันที่เธอพยศใส่เขาตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน

ผิดกับอีกคนที่มาด้วยกัน….รายนั้นไม่มีปากมีเสียงอะไร เอาแต่นั่งก้มหน้า เนื้อตัวสั่นเทาทุกครั้งที่พูดคุยกับเขา

“มีแขกเสนอให้เธอหนึ่งล้านบาท หากเธอขายเวอร์จิ้นให้เขา” หลุยส์เอ่ยถามคนตรงหน้าขึ้น แม้เขาจะเป็นเจ้านายแต่เขาก็ไม่ได้บังคับให้สาวๆพวกนี้ขายตัว

ถ้ามีแขกเสนอมา เขาจะเข้ามาถามก่อน ถ้าพวกหล่อนโอเคเขาถึงจะตกลงให้ แต่ถ้าไม่….เขาก็เลือกที่จะไม่บังคับขืนใจ

“ฉันไม่ขาย!” ปากบางตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง รู้สึกหัวร้อนขึ้นมาแทบอัตโนมัติเมื่อได้ยินแบบนั้น

เธอไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว!

“หึ ฉันคิดอยู่แล้วว่าเธอคงไม่ขาย”

หลุยส์แสยะยิ้มตอบกลับแบบอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก

“โชว์จะเริ่มในสามนาที ออกไปเตรียมตัวได้แล้ว” ว่าจบ มาเฟียใหญ่ก็หมุนตัวเดินออกไปจากบริเวณนี้ทันที

ปล่อยให้น้ำตาลยืนกำหมัดแน่นอย่างเจ็บใจ ที่ไม่สามารถทำอะไรอีกคนได้

“ตาล พี่ขอโทษนะ” ดวงตากลมเหลือบไปมองปัท ที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ตลอดเวลา เพราะรู้สึกผิดที่พาน้องมาเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้

มันเป็นความผิดของเธอเอง

“อย่าร้อง ตาลไม่ได้เป็นอะไร” หญิงสาวตอบกลับเสียงอ่อนลง ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้น สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พร้อมกับสาวเท้าออกไปสแตนบายด้านข้างเวที

-ข้างเวที-

พรึ่บ~

“ใช้ร่างกายของเธอพรีเซ้นต์เครื่องเพชรชุดนี้ให้น่าสนใจที่สุดเข้าใจไหม” ริชชี่หัวหน้างานร่างท้วม เดินถือเครื่องเพชรที่กำลังจะถูกประมูลในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเอาไว้บนร่างกายอันสมบูรณ์แบบของน้ำตาลอย่างเบามือ พร้อมกับเอ่ยน้ำถึงจุดประสงค์ของงานในวันนี้

น้ำตาลได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรมาก หญิงสาวพยักหน้า ก่อนที่ทุกคนจะส่งสัญญาณมาให้เธอเดินขึ้นเวทีไปพร้อมกับเสียงดนตรีบรรเลงขึ้นมา

เท้าบางในส้นสูงสีแดงสด ค่อยๆก้าวออกไป พร้อมกับเริ่มการโชว์ขึ้นดั่งเช่นทุกครั้ง ท่ามกลางเสียงฮือฮาของเหล่าชายมีเงินทั้งหลายที่ต่างปรบปรือให้กับความสวยงามตามแบบฉบับสาวไทยของเธอ

ตื๊อ ตึด ตื่ออ ตื๊ดด ~

เสียงดนตรีบรรเลงไปพร้อมกับร่างกายเย้ายวนที่ขยับกายไปมา ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ ในฉากสุดท้ายคือฉากที่น้ำตาลจะต้องดึงชุดผ้าซีทรูสีแดงด้านบนออกไปเพื่อเปลือยหน้าออกของเธอที่ถูกเครื่องประดับเกี่ยวเม็ดเชอร์รี่เอาไว้อย่างสวยงาม

หญิงสาวใจเต้นระทึกแต่ทว่าก็พยายามฝืนยิ้มเหม่อมองลงไปยังเหล่าแขกเหรื่อทั้งหลายที่แต่งชุดสูทดูดีนั่งชมดื่มไวน์และแชมเปญอยู่ด้านล่างด้วยแววตาหลากหลายความรู้สึกที่จับจ้องมายังเธอไม่วางตา

ในใจของน้ำตาล แทบอยากจะกรีดร้องออกมาตรงนี้ แต่เธอไม่มีทางเลือกใดๆเลยนอกจากทำตามหน้าที่ของตัวเองไป หากเธอทำตัวมีปัญหา…..มาเฟียอย่างหลุยส์คงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่

ในระหว่างที่ใกล้ถึงตอนจบของเพลง มือบางเอื้อมไปปลดแขนเสื้อของตัวเองด้วยสีหน้าเย้ายวนก่อนที่เสื้อสีแดงชิ้นน้อย จะค่อยๆไหลรูดลงไปด้าล่างเผยให้เห็นเนินอกขาวสวยปรากฎแก่สายตาของผู้ชม

แต่แล้ว…จู่ๆเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

ตู้มมมมม!!

“กรี๊ดดดด”

เสียงบางอย่างระเบิดดังลั่น ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของผู้หญิงและเสียงฮือฮาของแขกทั้งหลาย เหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำตาลที่ยังคงยืนแสดงอยู่บนเวทีก็ได้แต่แสดงสีหน้าตื่นตกใจออกมา พร้อมกับหัวใจที่เต้นระทึก โชคดีที่เธอดึงแขนเสื้อขึ้นมาได้ทัน การเปลือยหน้าอกในวันนี้จึงหยุดชะงักไปโดยปนิยาย

“เกิดอะไรขึ้น!?” หลุยส์ที่ยืนดูโชว์อยู่เช่นกัน เอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตกใจ ที่จู่ๆงานประมูลเพชรราคาหลายร้อยล้านของเขาก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

“กำลังตรวจสอบอยู่ครับนาย เชิญนายไปขึ้นรถก่อนเถอะครับ” ไลออนผายมือเชิญเจ้านายไปที่ทางออก ตอนนี้เหตุการณ์เป็นอย่างไรพวกเขากำลังลังตรวจสอบอยู่ ไลออนจำเป็นต้องพาหลุยส์ไปในที่ปลอดภัยให้เร็วที่สุด หากเกิดเหตุฉุกเฉินพวกเขาจะได้ตั้งรับอย่างทันท่วงที เพราะหน้าที่ของเขาคือการอารักษ์ขาเจ้านายให้ดีที่สุด