บทที่ 2 ขอโทษผู้หญิงคนนั้น
คณินจากที่มีท่าทีรู้สึกผิดอยู่บ้างเล็กน้อย ก็เปลี่ยนเป็นมืดมนในทันที
เขามายืนบังดอกหญ้าเอาไว้โดยไม่รู้ตัว ดวงตาเย็นเยือกน่ากลัว“ใบบัว นี่คุณทำอะไร!”
ฉันมองดอกหญ้าด้วยความโกรธ“ช่วยระวังคำพูดด้วย”
แต่ดอกหญ้ากลับแสร้งราวกับเป็นผู้ถูกกระทำ“ฉันพูดผิดเหรอ?หากไม่ใช่เพราะแม่ของเธอแกล้งป่วย แล้วเธอก็มาบีบบังคับคณิน เขาจะแต่งงานกับเธอได้ยังไง ”
ฉันหันไปหาคณิน“คุณก็คิดแบบนี้เหมือนกันเหรอ?”
เขาไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาของเขาได้ให้คำตอบฉันแล้ว
เมื่อห้าเดือนก่อน แม่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย เธอรู้ว่าตัวเองมีเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว ความปรารถนาสูงสุดก็คือได้เห็นฉันแต่งงานกับคนที่รัก มีครอบครัวที่มีความสุข เพื่อทำตามความปรารถนาของแม่ ฉันอ้อนวอนขอร้องเขาอยู่นานถึงได้มีงานแต่งงานนี้ขึ้นมา
แต่เขากลับคิดว่าแม่กำลังแสดงละคร เพื่อบีบบังคับให้เขาต้องแต่งงานกับฉัน
หรือบางทีเขาอาจจะไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาตั้งแต่แรกแล้วก็เป็นได้
เขาเป็นที่รักของตระกูลกีรศักดา เป็นทายาทผู้สืบทอดของตระกูล ในตอนที่เรียนมหาลัย ฉันตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น ตามจีบเขานานสามปีอย่างไม่ย่อท้อ คณินชอบผู้หญิงที่เชื่อฟัง ดังนั้นฉันจึงว่านอนสอนง่าย ตามใจเขาทุกอย่าง
จนเมื่อได้เจอดอกหญ้า ฉันก็เพิ่งจะรู้ ว่าแท้จริงแล้วเขาก็มีมุมที่อ่อนโยนเช่นกัน ดอกหญ้าสามารถจะออดอ้อนเขาได้ทุกอย่าง จับมือถือแขนกับเขาหรือแม้กระทั่งกอดกัน ดังนั้นสิ่งที่ฉันอยากทำแต่ไม่กล้าทำ เธอทำมันได้ทุกอย่าง
มีครั้งหนึ่ง ฉันออดอ้อนเขาเหมือนที่ดอกหญ้าทำ แต่เขากลับผลักฉันออกอย่างเย็นชา“ใบบัว แบบนี้มันไม่เหมาะกับคุณ”ฉันมองเขาเดินจากไปด้วยความรู้สึกที่อับอาย
ตั้งแต่นั้น ฉันก็ไม่เคยออดอ้อนเขาอีก
เขาไม่เคยจะจับมือฉันเลยสักครั้ง อยู่กับเขา ฉันต้องคอยเดินไล่ตามหลังเขาอยู่ตลอด มีเพียงดอกหญ้าเท่านั้นที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาได้
คบหากับเขา นอกจากสถานะแฟนแล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรเลย ในสายตาคนอื่น เขากับดอกหญ้าเป็นเหมือนคู่รักกันมากกว่า เขาพาเธอไปออกงานด้วยทุกที่ และแนะนำเธอให้ทุกคนได้รู้จัก
หากไม่ใช่เพราะแม่ป่วยหนัก และฉันพูดขอร้อง คงไม่มีงานแต่งงานที่น่าขบขันนั้น
ฉันมองคณินอย่างผิดหวัง นี่เหรอผู้ชายที่ฉันรักมาเก้าปี ฉันเริ่มสงสัยสายตาของตัวเองในตอนเริ่มแรกขึ้นมาจริงๆ
ดอกหญ้าไม่ลดละ “คณิน คุณดูแก้มของฉันสิ มันบวมใช่ไหม ?เธอทำแบบนี้ได้ยังไง แก้มของฉันเจ็บจังเลย ”
ความสนใจของคณินกลับไปที่เธอในทันที การตบเมื่อครู่ของฉันไม่ได้เบาแรงเลย ใบหน้าของเธอมีรอยฝ่ามือของฉันปรากฏขึ้นมาจริงๆ
สีหน้าของคณินดูแย่มาก “ใบบัว ขอโทษซะ!”
“หากฉันไม่พูดล่ะ?”ฉันเงยหน้าขึ้น จ้องมองเขาอย่างดื้อรั้น
คณินกักเก็บความโกรธที่มี “ใบบัว อย่าทำให้ผมต้องโมโห ”
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันกลัวคณินมาก ทุกครั้งที่สีหน้าเขาบูดบึ้ง ฉันก็จะยอมรับผิดอย่างไม่รู้ตัว นั่นเป็นเพราะฉันรักเขา
แต่ตอนนี้ ฉันไม่สนใจอะไรแล้วทั้งนั้น
ดอกหญ้ากลับไม่พอใจ“คณิน ฉันไม่ต้องการคำขอโทษของเขา ฉันจะตบคืน ”
คณินมองมาที่ฉันแวบหนึ่ง อยากให้ฉันยินยอม
แต่ฉันยังคงไม่ยอมลดราวาศอก
ท่าทีของฉันทำให้เขาโกรธจัด คณินต้องการจะสั่งสอนฉัน เขาส่งสายตาไป บอดี้การ์ดสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นมา แล้วควบคุมตัวฉันไว้
ฉันถูกตรึงลงกับพื้น ไม่มีแรงที่จะต่อสู้
ดอกหญ้าเดินมาตรงหน้าของฉันอย่างสมใจ แล้วตบมาที่ใบหน้าของฉันอย่างแรงหลายครั้ง
“ป้าบ——ป้าบ——”
เลือดไหลออกจากมุมปาก ฉันไม่ส่งเสียงร้องเลยแต่อย่างใด หน้าคะมำคว่ำกับพื้นอย่างหมดสภาพ
คณินมองจากที่สูงลงมาหาฉัน“นี่เป็นสิ่งที่คุณติดค้างดอกหญ้า ตอนนี้คุณขอโทษเธอซะ ผมจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”