บทที่ 1 เราเลิกกันเถอะ
ญาติและเพื่อนสนิทคอยปลอบใจฉัน
ฉันเช็ดน้ำตาออกแล้วคอมเมนต์ในอินสตาแกรมว่า“พวกคุณสองคนช่างเลวได้ใจทั้งคู่”
ฉันจัดการงานศพของแม่อย่างเงียบๆ แบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว
อันที่จริงที่คณินทิ้งฉันไว้เพียงลำพังเพราะดอกหญ้า ฉันไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด
เราคบหากันมาหกปี แค่โทรศัพท์สายเดียวของดอกหญ้าก็สามารถจะตามตัวเขาได้ ต่อให้จะเป็นวันแต่งงานก็ตาม
ครั้งนี้จะเป็นเพราะอะไร ฉันเองก็ขี้เกียจจะไปคิดถึงมันแล้ว
หลังจากงานศพเสร็จสิ้น ฉันก็กลับไปที่บ้าน
คณินไม่อยู่ ก็พอดีกับที่ฉันก็ไม่อยากจะเจอเขาเหมือนกัน
เก็บข้าวของเรียบร้อยกำลังจะออกจากบ้าน ทันทีที่เปิดประตู ก็เห็นดอกหญ้าเดินคล้องแขนเข้ามาพร้อมคณิน
ดอกหญ้าราวกับคุณผู้หญิงของบ้าน เมื่อเห็นฉันก็ประหลาดใจเล็กน้อย“กลับมาแล้วเหรอ ใบบัว?”
คณินสังเกตเห็นกระเป๋าเดินทางในมือของฉัน คิ้วก็ขมวดขึ้นโดยไม่รู้ตัว“ใบบัว คุณจะทำอะไรอีก?”
น้ำเสียงของเขา เหมือนฉันคอยสร้างปัญหาอยู่ตลอด
ดอกหญ้ามองมาที่ฉันอย่างเศร้าเสียใจ ขณะเดียวกันก็กอดแขนคณินเอาไว้แน่น ราวกับกำลังแสดงตัวเป็นเจ้าของ“พี่บัว ต้องขอโทษจริงๆ วันนั้นมือของฉันได้รับบาดเจ็บ คณินก็เลยมาดูแลฉัน ฉันไม่รู้ว่าวันนั้นเป็นวันแต่งงานของพวกพี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ”
“พี่อย่าไปเลยนะ”
เธอพูดอ้อนวอนฉัน แต่สายตากลับมีความภาคภูมิใจอย่างมาก
ฉันมองเธอไปแวบหนึ่ง ที่นิ้วชี้ขวาของเธอมีปลาสเตอร์เล็กๆแปะอยู่
ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่คณินทิ้งฉัน และไม่แม้แต่จะมาปรากฏตัวในงานแต่งงานอย่างนั้นเหรอ ?
จู่ๆฉันก็รู้สึกตัวเองเป็นเหมือนตัวตลก
ฉันกับแม่สำหรับเขาแล้ว เทียบไม่ได้เลยกับนิ้วมือของดอกหญ้าอย่างนั้นเหรอ
“คณิน เราเลิกกันเถอะ!”
นับตั้งแต่วินาทีที่แม่ของฉันสิ้นใจในอ้อมแขนของฉัน ความรู้สึกของฉันทั้งหมดที่มีต่อเขาก็ได้มลายหายไปหมดแล้ว
แต่คณินกลับคิดว่าฉันกำลังอิจฉาและไม่พอใจ“ใบบัว คุณอย่าทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ได้ไหม?งานแต่งงานจะจัดเมื่อไรก็ได้ แต่ดอกหญ้าไม่มีใคร เธอได้รับบาดเจ็บ ผมจะทำเมินเฉยไม่ได้หรอกนะ”
อย่าทำตัวเป็นเด็ก?
นี่คือคำพูดที่คณินพูดกับฉันบ่อยที่สุด
แต่ว่า แล้วอะไรถึงเรียกว่าเป็นผู้ใหญ่ล่ะ ?
เพราะคณินบอกว่าเขาเห็นดอกหญ้าเป็นน้องสาว และเธอก็ไม่มีพ่อแม่ต้องการคนดูแล ดังนั้นฉันจึงยอมให้ความรักของเรามีบุคคลที่สามเข้ามา
ฉันยอมให้เขาดูแลดอกหญ้าในทุกเวลา ยอมให้เขาไปหาผู้หญิงอีกคนโดยไม่ลังเลในขณะที่ฉันต้องการเขามากที่สุด ยอมให้เธอมาครอบครองหัวใจครึ่งดวงของคณิน
สุดท้ายผลของการยอมก็คือการทำร้ายฉันให้เจ็บปวดมากยิ่งขึ้นไปอีก ชีวิตแบบนี้ฉันทนมันต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
ฉันมองคณินอย่างเฉยชา“ต่อไปคุณอยากจะทำอะไรก็เชิญตามสบาย ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันอีก”
พูดจบ ฉันก็ลากกระเป๋าแล้วเดินผ่านเขาไป
ที่สุดแล้วคณินก็สังเกตเห็นความผิดปกติของฉัน คว้าตัวฉันไว้“เป็นเพราะแม่คุณไม่พอใจที่ผมไม่ไปงานแต่งงานใช่ไหม ผมไปอธิบายให้ท่านฟังได้”
จู่ๆฉันก็รู้สึกขำ
“อธิบายอะไร?อธิบายว่าเพราะแผลเล็กๆบนนิ้วของดอกหญ้าจึงทำให้คุณมางานแต่งงานไม่ได้อย่างนั้นเหรอ ?”
ฉันรู้สึกตลกมากจริงๆ
หลายวันมานี้ หากเขาสนใจและคิดจะถามไถ่ฉันสักหน่อย ก็คงไม่พูดอะไรที่มันโง่เขลาแบบนี้
ฉันแกะมือของเขาออก“ไม่จำเป็น!”
เมื่อก่อน ต่อหน้าคณิน ฉันมักจะคอยระมัดระวัง อ่อนโยนและเอาอกเอาใจ ไม่เคยเย็นชาแบบนี้มาก่อน
คณินมองฉันที่เดินจากไป แววตามีความสับสนฉายขึ้นเป็นครั้งแรก
จนเมื่อเขาได้สติ อยากจะไล่ตามไป ก็ถูกดอกหญ้ารั้งเอาไว้
“คณิน นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ หากไม่ใช่เพราะแม่ของเธอแกล้งป่วย คุณจะถูกบังคับให้ต้องแต่งงานกับเธอได้ยังไง ”
หัวสมองของฉันดังวิ้งขึ้นมา
จนเมื่อฉันได้สติ ฉันก็ได้ตบไปที่ใบหน้าของดอกหญ้าฉาดหนึ่ง