๗ เขาเป็นของฉัน (๒)
“พี่ก็แค่ต้องทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับนีร พี่บอกว่าถ้านีรกลับมาเราจะแต่งงานกัน” ตอบโต้เขาทันทีพร้อมเอ่ยทวงสัญญาเมื่อหลายปีก่อนที่ชายหนุ่มอาจลืมไปแล้ว
เขาก็แค่พูดเพื่อให้หล่อนไปเรียนต่างประเทศไม่ได้หมายความตามที่พูดจริง สัญญามันก็เป็นเพียงลมปากไม่มีน้ำหนักสักนิดเมื่อออกมาจากปารัช ดวงตากลมโตจ้องเขานิ่งอย่างไม่ยอมแพ้จนทนายหนุ่มยอมจำนน
“อย่าเอาเรื่องในอดีตมาพูดดีกว่า เพราะเมื่อก่อนเธอไม่ได้ร้ายกาจเหมือนตอนนี้”
“แล้วนีรร้ายตรงไหน คนที่เปลี่ยนไปมันคือพี่ต่างหาก” โต้เสียงเขียวพร้อมมองเขาอย่างกล่าวโทษที่ชายหนุ่มโยนบทร้ายให้หล่อน
แต่อันที่จริงจะโทษเขาทั้งหมดก็ไม่ได้ในเมื่อนีรนาราทำให้เรื่องมันเป็นแบบนั้นเอง เธอเข้าไปจัดการผู้หญิงทุกคนที่เข้ามายุ่งกับปารัชโดยใช้เงินเป็นตัวช่วยให้อะไรมันง่ายขึ้น ทว่าไม่ได้เคยมีรายไหนที่ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย อย่างมากก็แค่ขู่และใช้เงินเพื่อปิดปาก
แต่ดูเหมือนพวกโลภมากจะไม่พอใจถึงได้นำเรื่องไปใส่สีตีไข่ให้ทนายที่ฟังความข้างเดียวได้รู้ หลังจากนั้นแววตาที่มองหล่อนก็เปลี่ยนไป
กลายเป็นนางร้ายผู้ทำลายความรักของเขา
“ถ้าคนที่เปลี่ยนคือพี่ เธอก็ควรเลิกรักพี่ได้แล้วเพราะสำหรับพี่..เธอก็เป็นได้แค่คนน่ารำคาญเท่านั้น” พูดจบก็ปล่อยให้ร่างเล็กยืนนิ่งเหมือนถูกแช่แข็งเอาไว้ก่อนจะเดินออกมาจากบ้านหลังใหญ่ตรงไปขึ้นรถยนต์ที่จอดตรงโรงรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว
นีรนาราทำได้เพียงมองตามหลังทั้งกำมือแน่นข่มความเจ็บที่มีจนล้นอก ริมฝีปากขบเข้าหากันจนได้กลิ่นเลือดคลุ้งปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาช้าๆ ประจานความโง่เง่าของตัวเองที่ภักดีต่อผู้ชายคนเดียวมาตลอด
ถ้าเลือกได้ก็อยากจะลบความทรงจำที่มีปารัชออกจากใจให้หมด เหลือเพียงความว่างเปล่าก็ยิ่งดี การโดนตอกกลับว่าไม่รักซ้ำๆ แบบนี้มันทรมานเหมือนตายทั้งเป็น
“คิดว่านีรอยากรักพี่มากหรือไง” พยายามแล้วที่จะไม่สนใจแต่เพราะมีเขาคนเดียวมาตลอดถึงไม่สามารถหาใครมาแทนที่ทนายหนุ่มได้เลย
จะปล่อยวางก็ไม่อาจทำได้ในเมื่อหัวใจมันมีแต่ไฟสุมทรวง เห็นเขาเดินกับคนอื่นก็ร้อนรนจนต้องยื่นมือเข้าไปขัดกระทั่งเกิดปัญหาต่างๆ ตามมา
ทำไมชีวิตเธอต้องมาเจอเรื่องอย่างนี้ด้วย
ทำไมไม่เลิกรักเขาสักที ทำไม...
“พี่ปราน” และคนที่เขามาหาคงไม่พ้นปรางกัญญาผู้เป็นคนรักที่ยังไม่ทราบเรื่องสำคัญ และชายหนุ่มก็ปากหนักเกินกว่าจะกล้าพูดออกไป ร่างสูงเดินเข้าไปกอดหล่อนเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกผิดที่ต้องทำร้ายผู้หญิงที่ไม่มีความผิดอย่างหล่อน
“คิดถึงจังเลย” ทั้งสองคนอยู่ห้องนั่งเล่นของบ้านโดยมีของฝากจากเมืองเหนือวางไว้เต็มไปหมด คนในอ้อมกอดยิ้มเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นโอบรอบเอวสอบ
“คิดถึงเหมือนกันค่ะ ได้สตรอว์เบอร์รี่มาฝากปรางไหม” พยักหน้าแล้วปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระก่อนจับจูงมือเธอมานั่งที่โซฟา เลือกของในถุงออกมาวางไว้สร้างความตื่นเต้นแก่คนรับจนต้องกอดและหอมเขาเป็นการให้รางวัล
“พี่มีเรื่องจะบอก” ไม่อยากทำลายรอยยิ้มแสนหวานของหล่อนแต่ก็ไม่อาจปิดยังได้อีก ยิ่งเห็นว่าเธอมีความสุขมากเพียงใดก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้นที่ต้องเป็นคนทำลายมัน
“คะ” กำลังจัดแจงผลไม้จากเมืองหนาวก็เงยหน้าขึ้นมาสบดวงตาคมที่มีแววเคร่งเครียดกว่าปกติ ทำเอาหล่อนเริ่มใจคอไม่ดีวางของทั้งหมดเอาไว้
“มีอะไรเหรอคะ” ถามย้ำอีกครั้งก่อนที่ชายหนุ่มจะจับมือหล่อนมาบีบเบาๆ
“พี่กำลังจะแต่งงาน” ลมหายใจสะดุดไปชั่วครู่เมื่อตั้งใจฟังสิ่งที่ปารัชเอ่ย ริมฝีปากบางสั่นเล็กน้อยก่อนจะพยายามเอ่ยถามด้วยใบหน้าฝืนยิ้ม
“มะ หมายความว่ายังไงคะ เราจะแต่งงานกันเหรอ” ถึงจะแน่ใจว่าคงไม่ใช่เขาขอแต่งงานทว่าปรางกัญญาก็ถามกลับเหมือนพยายามสร้างบรรยากาศโดยรอบให้กลับมาดีดังเดิมทั้งที่มันกำลังดิ่งลงเหว ยิ่งมองดวงหน้าคมที่ฉายความเศร้า ใจหล่อนก็เต้นเร็วขึ้น
“พี่ต้องแต่งงานกับนีร”
ผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว! ทำไมชีวิตเธอจะต้องมาเจอแต่เรื่องเลวร้ายโดยมีนีรนาราเป็นคนอยู่เบื้องหลังทั้งหมด หล่อนส่ายหน้าช้าๆ พลันน้ำตาก็ไหลเป็นสายจนทนายหนุ่มต้องดึงเข้าไปกอด หัวใจแตกสลายเมื่อรู้ว่าชายคนรักกำลังจะแต่งงานกับหญิงอื่น
และคนคนนั้นก็คือศัตรูตัวฉกาจของหล่อนเสียด้วย
“ไม่เอา ปรางไม่ให้แต่ง ไม่แต่งนะคะพี่ปราน” กอดเขาแน่นพลางอ้อนวอนเสียงเครือโดยที่ปารัชเองก็เจ็บใจเช่นเดียวกัน
“พี่ก็ไม่อยากแต่ง แต่ว่า..” ไม่อาจบอกถึงสุขภาพของคุณเอกพงศ์ที่น่าเป็นห่วงทั้งยังอาการแปลกๆ ที่เกิดขึ้นยามเห็นคนอื่นอยู่ใกล้ชิดนีรนารา
เขาไม่อยากยอมรับความจริงที่พยายามปกปิดเอาไว้ จึงรีบสะบัดศีรษะไล่ความคิดนั้นออกไปทันที
ไม่มีวันที่จะรักนีรนาราได้หรอก
“พี่ขัดคุณลุงไม่ได้” คนฟังใจสลายไม่นึกว่าคนรักจะต้องไปเป็นของคนอื่น หล่อนร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของปารัชจนกระทั่งเริ่มกลับมาเป็นปกติจึงผละออกก่อนจะมองใบหน้าคมอย่างหลงใหล ยกมือขึ้นประคองใบหน้าเขาเอาไว้
“ต้องแต่งจริงๆ เหรอคะ” ถามเสียงสั่นเครือและชายหนุ่มก็ค่อยพยักหน้าขึ้นลงช้าๆ
“พี่ขอโทษ” เมื่อเห็นว่าดวงตากลมโตมีน้ำใสคลอก็รู้สึกผิดมากกว่าเดิม ไม่น่าให้เธอมาเจอกับเรื่องแบบนี้เลย หากวันนั้นเขาไม่เข้ามาขอพัฒนาความสัมพันธ์ปรางกัญญาคงไม่ต้องเจ็บอย่างนี้
“เราต้องเลิกกัน..ใช่ไหมคะ” ยิ่งถามน้ำตาก็ไหลจนเขาเอื้อมมือไปซับให้
สำหรับปารัชแล้วยังรู้สึกรักหล่อนทว่าไม่อาจใจร้ายให้ปรางกัญญารอตัวเอง เขาไม่อยากจะทำร้ายเธอไปมากกว่านี้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการเลิกราจะได้ไม่ต้องยื้อให้ทรมานกันทั้งสองฝ่าย อย่างน้อยเจ็บและจบเสียตั้งแต่ตอนนี้ยังดีกว่าปล่อยเรื่องคาราคาซัง
“พี่ขอโทษจริงๆ” ไม่มีคำอื่นจะพูดนอกจากขอโทษ ถึงรู้ว่ามันไม่ช่วยอะไรมากนักทั้งยังสร้างความเจ็บช้ำให้หญิงสาวมากกว่าเดิมก็ตาม
“ปรางขอเวลาทำใจหน่อยนะคะ ปราง..” ก้อนสะอื้นจุกคอจนพูดอะไรไม่ออก เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปบนห้องทันทีปล่อยให้ปารัชนั่งถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม
หากจะโทษใครในเรื่องนี้ก็คงเป็นตัวเองที่ตอบตกลงอย่างง่ายดายทั้งที่คิดจะปฏิเสธมาตลอดแท้ๆ ชีวิตคู่ที่คนทั้งสองรู้สึกต่างกันมันจะไปรอดหรือ..
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่นีรนาราที่เป็นตัวร้าย เพราะคนร้ายคือเขาต่างหาก
นีรนาราต้องไปส่งบิดาที่สนามบินหลังจากได้ฤกษ์งานแต่งคืออีกสี่เดือนข้างหน้า ร่างบางค่อนข้างมีความสุขจึงส่งคุณเอกพงศ์ขึ้นเครื่องด้วยรอยยิ้มต่างจากทุกครั้งที่มักรั้งให้อยู่ต่ออีกสักหน่อย และเมื่อบุพการีหายเข้าไปในเกทก็เดินกลับไปขึ้นรถยนต์ที่จอดรอนานแล้ว
รอยยิ้มกลายเป็นราบเรียบก่อนพาหนะจะเคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว จุดหมายคือบ้านหลังเล็กที่เคยไปเหยียบเพียงครั้งเดียวและไม่คิดอยากจะไปอีกด้วยซ้ำถ้าไม่มีธุระกับเจ้าของบ้านที่ดูท่าจะไม่ยอมเลิกราเสียที
รถสัญชาติยุโรปจอดลงหน้าบ้านขนาดกลางก่อนคุณหนูร่างเล็กจะก้าวลงมาพร้อมถอดแว่นตาสีชาออกมองลอดเข้าไปภายใน วันหยุดเช่นนี้แน่นอนว่าเจ้าของบ้านจะต้องอยู่แต่ทำไมถึงดูเงียบเชียบจนน่าวังเวง
“คุณปารัชอยู่ไหน” หันไปถามผู้ติดตามทันที
“คุยกับลูกความที่บ้านครับ” พยักหน้ารับพลางอมยิ้มเมื่อเห็นว่าทางสะดวก เธอไม่ได้ให้คนไปติดตามเขาเพราะยังให้เวลาส่วนตัวแก่ว่าที่สามี ที่ทำก็เพียงแค่ให้ไปดูว่าเขาอยู่ที่ใดจะได้ไม่มาขัดขวางเวลาที่หล่อนทำเรื่องสำคัญ
อย่างกำจัดผู้หญิงที่คิดจะเป็นมือที่สามออกไป
โดยลืมเสียสนิทว่าแท้จริงแล้วตนเองนั้นคือมือที่สามทำให้ปารัชต้องเลิกกับแฟนที่เพิ่งคบกัน
“นึกว่าจะไม่อยู่บ้านซะอีก” เปิดประตูรั้วเข้ามาก็เห็นปรางกัญญากำลังทำความสะอาดบ้านด้วยท่าทีอิดโรย
“ฉันไม่ต้อนรับเธอ ออกไป” ไล่เสียงเข้มพร้อมทั้งมองด้วยแววตาวาวโรจน์เหมือนอดีตไม่มีผิด ยามที่หล่อนกลั้นแกล้งอีกฝ่ายก็เอาแต่เม้มปากแน่นทั้งที่ดวงตาแดงก่ำพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา และตอนนั้นนีรนาราก็ยังเห็นเป็นเรื่องสนุก ไม่ได้รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำแม้แต่น้อย
“คิดว่าฉันอยากจะมาเหยียบบ้านเท่าหนูดิ้นตายของเธอหรือไง แค่ใช้อากาศร่วมกันก็อึดอัดจะแย่” ไม่ได้อยากมาด้วยซ้ำแต่ก็ต้องจัดการบางอย่างให้จบสิ้น
“เธอต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะออกไปจากชีวิตพี่ปราน” เดินเข้ามาภายในบ้านก่อนจะนั่งไขว้ห้างที่โซฟาลายลูกดอกไม้แสนเฉยในสายตานีรนารา
คนฟังกำหมัดแน่นแทบจะถลาเข้าไปจัดการผู้หญิงที่วางอำนาจบาตรใหญ่ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนคุณหนูของบ้านพานิชสุทธิกุลก็ยังคงเป็นนางปีศาจสำหรับปรางกัญญาอยู่วันยังค่ำ
“สิบล้าน ให้ฉันได้ไหมล่ะ”
“เธอคิดว่าตัวเองมีค่าพอจนฉันต้องให้เงินเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ” ยกยิ้มมุมปากอย่างสมเพชก่อนจะจ้องใบหน้าที่ผ่านการศัลยกรรมมานับครั้งไม่ถ้วนจนกระทั่งสวยเหมือนทุกวันนี้
“ฉันหมายถึงค่าของพี่ปรานต่างหาก เธอจะยอมจ่ายสิบล้านเพื่อซื้อตัวเขาไปจากฉันหรือเปล่า” สองสาวจ้องตากันนิ่งก่อนที่นีรนาราจะหยิบสมุดเช็คขึ้นมาพร้อมเขียนจำนวนเงินแล้วยื่นให้ผู้หญิงที่แทบไม่อยู่ในสายตาหล่อน
“อย่าเสนอหน้ามาให้เขาเห็นอีก” ว่าจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากบ้านหลังเล็กทันที ปรางกัญญาสูดลมหายใจเข้าพลางกำหมัดแน่นไม่เคยคิดว่าตัวเองจะอยู่ในสถานการณ์ที่ตกเป็นรองอีกครั้ง ก้มดูเช็คเงินสดก็ยิ้มเยาะเมื่อตัวเลขไม่ได้ตามที่ขอ
1,000,000 บาท
นั่นคือราคาที่ผู้หญิงคนนี้ต้องเดินออกจากชีวิตของปารัช
แต่คิดว่าหล่อนจะยอมหรือ..ปรางกัญญาไม่ใช่คนเดียวกับเด็กหญิงที่ยอมให้นีรนารารังแกแล้ว
หล่อนจะสู้ยิบตา แล้วมาดูกันว่าใครจะชนะ