บทที่ 6
โจอ่านจดหมายนั้นช้าๆ พยายามถ่วงเวลาไว้เพื่อที่ตนเองจะได้ใช้ความคิดให้รอบคอบว่าจะทำอย่างไรต่อไป จึงจะสามารถขจัดความหวาดกลัวออกไปจากจิตใจของเธอได้
“เอาล่ะ ฉันคิดว่าคราวนี้ก็ถึงคราวที่คุณจะต้องอธิบายให้ฉันฟังบ้างแล้ว” เธอยืดไหล่ขึ้น “คุณบอกฉันมาสิว่าคุณเป็นใคร และคุณมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อะไร”
“ผมชื่อ โจ ซินแคลร์”
“แค่นั้นยังไม่พอ...ฉันต้องการรู้ว่าคุณมาที่นี่ทำไม” เธอถามด้วยน้ำเสียงแสดงอำนาจ
“ใจเย็นๆ สิครับ ” คุณอลิกซ์ ผมพร้อมอยู่แล้วที่จะอธิบายให้คุณฟัง ให้โอกาสผมบ้างสิ” เขาเห็นได้ชัดว่าจริงๆ แล้ว เธอมิได้รู้จักสามีภรรยาเฟอร์เรลล์ดีนัก ไม่เช่นนั้น เธอจะต้องแสดงความตื่นเต้นออกมาแล้วเมื่อเขาแนะนำตนเอง โจตกอยู่ในสภาพกึ่งโล่งใจถึงพิศวง “โดยความเป็นจริงแล้วผมไม่ได้คิดที่จะมาสวมรอยใครทั้งสิ้น การที่ผมตอบรับกับชื่อโจก็เพราะว่านั่นมันเป็นชื่อจริงๆ และที่ผมมาที่นี่ก็เพราะผมจะมาหาแบรดกับวิเวียน เฟอร์เรลล์”
“เอาละ คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าเขาไม่อยู่”
การที่เขาเอ่ยชื่อบุคคลทั้งสองออกมา มันช่วยแก้สถานการณ์ให้ดีขึ้นได้อย่างมาก อาการตื่นกลัวของอลิกซ์ค่อยสงบลง “แล้วคุณพอจะทราบไหมล่ะครับว่า ผมจะติดต่อกับเขาได้ที่ไหน”
“เห็นจะไม่ได้หรอก...” หางเสียงของเธอยังสั่นๆ อยู่ “ตอนนี้เขากำลังล่องเรือยอร์ทส่วนตัวทองเมดิเตอร์เรเนียนกันอยู่ มันเป็นแผนการพักผ่อนตอนช่วงฤดูร้อนปีนี้ของเขา”
“และเขาก็เลยปล่อยให้คุณมาดูแลที่นี่”
“คือสามีภรรยาคู่ที่เคยทำงานอยู่กับเขาปลคชราไปแล้วคุณเฟอร์เรลล์ต้องการจะว่าจ้างคนใหม่ให้มาดูแลที่นี่จนกว่าเขากับภรรยาจะเดินทางกลับมาจากการท่องเที่ยว ฉันรู้เรื่องแผนการท่องเที่ยวปีนี้ของเขาจากคุณพ่อ และทั้งคู่ก็มีน้ำใจดี อนุญาตให้ฉันมาพักที่นี่ได้ เพียงแต่ขอให้ฉันช่วยดูแลทรัพย์สินให้ในขณะที่เขาไม่อยู่กันเท่านั้น” เธอเมินหน้าไปเสียทางหนึ่งก่อนที่จะพูดด้วยเสียงที่บ่งบอกความไม่สบายใจว่า “ฉันคิดว่า คุณควรจะไปจากที่นี่ได้แล้วนะ คุณซินแคลร์”
แบรด เฟอร์เรลล์ จะต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ยอมอนุญาตให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาพำนักอยู่ที่บ้านไร่แห่งนี้ขณะที่ตนเองกับภรรยาเดินทางท่องเที่ยวได้ นอกเหนือจากความรู้สึกส่วนตัวของตนเองแล้ว มันก็มิใช่เรื่องเสียหายอะไรถ้าเขาจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของแบรดไว้บ้าง
ถึงอย่างไรโจก็ยังมีความเคารพกับถือในตัวอดีตพอตาของเขาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าแบรดจะตามใจแทมมี่ อดีตภรรยาของเขาจนเสียผู้เสียคนก็ตาม เขารู้ว่าในยามนี้เขาควรจะได้ช่วยผู้หญิงคนนี้ดูแลไร่ปศุสัตว์มากกว่าจะไปอยู่ที่อื่น”
ทำไมคุณถึงไม่ยอมรับฟังในเหตุผลของผมบ้างนะคุณนายสมิท”
เธอยืนนิ่งเงียบอยู่เป็นครู่... ทาบฝ่ามือยันตัวอยู่กับเคาน์เตอร์ ปอยผมสีน้ำผึ้งเคลียอยู่กับนวลแก้ม
“ก็ได้...ฉันจะฟังคุณ แต่เมื่อคุณพูดเสร็จแล้ว คุณก็ควรจะไปเสียจากที่นี่”
โจรู้ดีว่าขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาบอกเล่าเรื่องชีวิตในอดีตให้เธอฟัง หรือแม้แต่เรื่องที่ว่าครั้งหนึ่งแบรดกับวิเวียนเฟอร์เรลล์ เคยเป็นพ่อตาแม่ยายของเขามาก่อน เรารู้ว่าตัวเองกำลังจะกระทำในสิ่งที่ออกจะเป็นการเห็นแก่ตัวอยู่...ประการที่สำคัญยิ่งกว่าอื่นใดก็คือ เขามีความตั้งใจที่จะทำความรู้จักกับเธอให้ดียิ่งขึ้น และก็ยังเห็นได้ชัดอยู่ว่าผู้หญิงคนนั้นจำเป็นจะต้องได้รับการคุ้มครองป้องกัน โดยยังไม่ต้องพูดถึงลูกทั้งสองซึ่งก็เป็นภาระหนักสำหรับเธออยู่แล้ว เธอควรจะได้รับความช่วยเหลืออย่างแท้จริง
มันก็เป็นความจริงอยู่ ว่าเขาควรจะมุ่งหน้าเดินทางต่อไปเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งใจไว้ แต่เขาก็ยังต้องการเวลาที่จะปรับตัวให้เข้ากับโลกภายนอกใหม่อีกครั้งหนึ่ง และนี่คือโอกาสอันดีที่จะทำเช่นนั้นได้ จากนั้นเขาก็จะตามหาตัวชาร์ลีเพื่อที่จะได้ลงหลักปักฐานให้กับชีวิตใหม่ๆ เสียที
“คุณอลิกซ์” โจเอ่ยขึ้น “เท่าที่ผมรวบรวมจากคำพูดของคุณ...คุณได้ว่าจ้างผู้ชายคนหนึ่งให้เข้ามาช่วยคงทำงานที่บาร์เอฟ.นี่ แต่บังเอิญมันมีเหตุขัดข้องเกิดขึ้นเสียก่อน ซึ่งนั้นก็หมายความว่าคุณจำเป็นจะต้องหาผู้ช่วยคนใหม่ต่อไป…” ใจหยุดกระแอมเบาๆ อยู่ในลำคอ ขณะเดียวกันก็หาว่าเธอจะหันหน้ามามองเราบ้าง “ในเมื่อขณะนี้ผมเองก็ยังไม่ได้คิดจะทำอะไร ทำไมคุณจึงไม่ยอมอนุญาตให้ผมอยู่ช่วยคุณที่นี่ล่ะ”
“ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นความคิดที่ดีหรอกนะ” อลิกซ์ ถูต้นแขนของตัวเองอยู่ไปมา “แต่ถึงยังไงฉันก็ต้องขอบใจคุณอยู่ดี
“ก็แล้วถ้าคุณไม่สามารถจะหาใครมาช่วยงานให้ทันทีเล่า คุณก็เห็นว่าเวลานี้ผมยังว่างอยู่ และผมก็ยินดีจะอยู่ที่นี่ด้วย อย่างน้อยก็จนกว่าคุณจะหาใครมาช่วยทำงานได้”
เธอใช้สายตาพิจารณาเขาอยู่เป็นครู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างหวาดระแวง
“เพราะอะไรคุณถึงอยากจะทำงานนี้นักนะ ฉันมองไม่เห็นเลย แล้วก็ไม่อยากจะเชื่อด้วยว่าคุณจะหาอะไรที่ดีกว่าการมาเป็นพ่อบ้านให้ฉันทำไม่ได้”
อันที่จริงเขามีความคิดในเรื่องอื่นที่ดีกว่านั้น เพียงแต่ไม่อยากพูดออกมาเท่านั้น
“มันก็จริงอยู่หรอกครับ แต่ผมชอบอากาศบริสุทธิ์ของที่นี้และผมก็ชอบเด็กด้วย...บังเอิญผมต้องไปอยู่อื่นมาพักหนึ่ง”
“อยู่ที่ไหนคะ”
“ก็...ทางตะวันออก” เขาตอบอย่างคลุมเครือ เรือนจำของรัฐมิได้อยู่ไกลมากนัก แต่มันก็มีอยู่ทางซีกตะวันออกของแบรนเดร่าจริงๆ”
“แล้วคุณไม่มีงานการทำ หรือไม่มีหน้าที่ทางครอบครัวที่จะรับผิดชอบหรอกหรือ”
“ไม่มีหรอกครับ ผมยังไม่ได้แต่งงาน แล้วก็กำลังอยู่ในระหว่างรองาน... เพราะฉะนั้นถ้าคุณรับผมไว้มันก็จะเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายนะครับ”
ท่าทางของอลิกซ์เท่าที่โจสังเกตเห็น คล้ายกับเธอจะมีเหตุการณ์อะไรสักอย่าง หรือใครสักคนทำให้เธอหมดความไว้เนื้อเชื่อใจในมนุษย์มาก่อน เขารู้ว่าเขาจะต้องใช้วาจาหว่านล้อมให้มากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นแล้วเธออาจจะไม่ยอมทำตามความปรารถนาของเขาก็ได้
“ผมยังพอมีเงินติดตัวอยู่ เพราะฉะนั้นผมคงจะไม่รบกวนอะไรคุณหรอก”
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะว่า คุณไม่ใช่อดีตฆาตกรฆ่าคนตาย หรือเป็นนักโทษที่หนีมาจากเรือนจําไหน” อลิกซ์มิได้รู้เลยว่า ทันทีที่คำพูดประโยคนั้นหลุดจากปากออกไปโจก็มีสีหน้าซีดเผือดลงทันที
“คุณคงรู้ไม่ได้หรอก...แต่ผมก็ไม่ได้เป็นอะไรพรรค์อย่างที่คุณพูดมาเลย”
เมื่อมองใบหน้าสดสวยอ่อนเยาว์กว่าวัยของเธอ เขารู้ว่าเราไม่สามารจะเล่าถึงการถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายที่ตนเองได้รับมา ด้วยความหวังว่าเธอจะเข้าใจและเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของเขา และยังยอมอนุญาตให้เขาอยู่ที่นี่ต่อไปได้...ยังก่อน...เขาจะยังเล่าอะไรให้เธอฟังไม่ได้...มันจะต้องไม่ใช่เวลานี้
“ข้อเสนอของผมมันก็มีอยู่แค่ว่า ผมจะอยู่ช่วยคุณ
ขณะที่คุณมองหาคนอื่นอยู่ ผมขอรับรองเลยนะครับว่า ผมมีคุณสมบัติตามที่คุณต้องการทุกประการเลย ผมมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการทำไร่ปศุสัตว์ และผมก็เลี้ยงน้องชายมาด้วยมือของผมเองหลังจากที่พ่อแม่ของเราตายจากไป”
“แล้วทำไมคุณถึงมารู้จักคุณเฟอร์เรลล์กับภรรยาได้ล่ะ”
“ผมเคยดูแลเกี่ยวกับเรื่องม้าให้เขา” ซึ่งนั่นก็เป็นความจริง เพียงแต่เขามีเจตนาจะปิดบังความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในบางส่วน โดยเฉพาะตอนที่เขาได้พบกับแทมมี่ เฟอร์เรลล์ตอนที่ม้าของเธอซึ่งได้รับรางวัลที่หนึ่งในการเข้าแข่งขันเกิดเจ็บป่วยลง เขาต้องบินมาเพื่อทำการรักษาพยาบาลมันเป็นพิเศษ และหลังจากนั้น เขาก็ตกหลุมรักแทมมี่อย่างหนัก ซึ่งเรื่องราวต่อจากนั้นคือประวัติที่อดีตเป็นผู้จารึกลงไว้
“ฟังนะ คุณอลิกซ์” โจรีบพูดต่ออย่างรวดเร็ว ดวงตาจับอยู่ที่ใบหน้าของเธอ “นอกจากนั้นผมยังมีความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารและดูแลบ้านเหมือนที่ผู้หญิงเขาทำเป็นกัน เพราะฉะนั้น ผมว่าคุณไม่น่าจะปล่อยให้โอกาสอย่างนี้ผ่านไปเลยนะครับ”
อลิกซ์กำลังต่อสู้กับความคิดต่างๆ ที่สับสนอยู่ในสมองพยายามที่จะให้เหตุผลกับตนเอง เธอยังรู้สึกกลัวต่อเหตุการณ์ที่เขาทำให้ตกใจไว้อยู่ แต่มันก็มีเหตุผลแปลกๆ ที่อธิบายไม่ได้บังเกิดอยู่ คือเธอมีความรู้สึกว่า ในทุกครั้งที่เธอมองลึกลงไป ในดวงตาคู่สีฟ้าเข้มที่บอกแววจริงจังคู่นั้น เธอสามารถมองเห็นความมีพลังในตัวเขาได้อย่างชัดเจน ขณะนี้เขาก็ได้สร้างสัมพันธไมตรีอันดีให้เกิดขึ้นระหว่างคิมเบอร์ลีย์กับมิชเชลแล้ว และถึงแม้เขาจะคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับคุณสมบัติต่างๆ ที่เขามีอยู่ เธอก็ยังเชื่อมั่นได้ว่า เขาย่อมสามารถจะจัดการและดูแลทุกสิ่งทุกอย่างได้ดีกว่าเธอแน่