บท
ตั้งค่า

บทที่ 7

ภายหลังจากที่ร่างเค้าโครงของทิวทัศน์ลงบนผืนผ้าใบเมื่อวันก่อน อลิกซ์ก็ได้ตระหนักว่าเธอมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลากับความคิดริเริ่มที่จะสร้างงานของตนเองอยู่อย่างมากซึ่งถ้าเธอไม่สามารถจะหาคนมาช่วยดูแลบ้านให้ได้ในทันทีแล้ว เธอย่อมไม่สามารถทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือกลางเดือนกรกฎาคมได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นความหวังที่จะยึดงานวาดรูปเป็นอาชีพก็คงจะเป็นไปได้ และเธอก็จพเป็นจะต้องเก็บข้าวของกลับไปอยู่ดัสลัสเช่นเดิม และต่อจากนั้นอะไรเล่าที่จะตามมา

ไม่ได้ เธอจะยอมแพ้ง่ายๆ เช่นนั้นไม่ได้แน่ โดยเฉพาะเมื่อเธอมีปัญหาเรื่องอนาคตรออยู่ และโดยความเป็นจริงแล้วเธอก็ยังไม่อยากจะเห็นผู้ชายคนนี้ไปจากที่นี่เสียด้วย

“เอาละ โจ ฉันจะยอมรับในข้อเสนอของคุณ อย่างน้อยก็จนกว่าฉันจะหาคนมาได้ แต่ฉันสามารถจะจ่ายให้คุณได้เพียงอาทิตย์ละร้อยเหรียญเท่านั้นนะ บวกกับการกินอยู่ที่นี่ด้วย”

“ตกลงเลยครับ”

โจเอื้อมมือออกมา และจับมือเรียวบางของเธอไว้ในอุ้งมือทั้งสองของเขา อลิกซ์สามารถจะตัดสินใจได้ในทันทีว่าการที่จะเสแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจว่ามีเขามาอยู่ร่วมบ้านด้วยไม่ใช่เรื่องยากเย็นเหมือนเช่นที่เธอเคยคิดไว้ในครั้งแรกเลย

อลิกซ์ก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือ ขยับตัวให้นั่งในท่าที่สบายขึ้น จับตามองดูโจกับลูกๆ ที่กำลังเล่นกันอยู่ในสระ ว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน

ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขนาดไหน เธอก็ยังรู้สึกชิงชังต่อการที่จะต้องรับความเอื้อเฟื้อจากผู้อื่นอยู่นั่นเอง อลิกซ์กล้ำกลืนความขมขื่นลงไว้ เมื่อนึกถึงว่าบัดนี้ชีวิตของเธอได้แปรเปลี่ยนไปในอีกรูปแบบหนึ่งแล้ว

ในฐานะที่เป็นลูกสาวคนกลางของครอบครัวที่ประกอบกิจการด้านการค้าน้ำมันอยู่ในตัลลัส แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ลูกสาวคนที่สวยที่สุด ฉลาดที่สุดเท่าที่เงินจะหาซื้อได้ ได้เข้าสังคมหรูหราตามความประสงค์ของผู้เป็นแม่ โดยมีพ่อที่พร้อมจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับลูกสาวทั้งสาม

อลิกซ์ต้องการจะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในออสตินแทนที่จะเป็นอัสสาร์ เช่นที่โรเบอร์ต้าพี่สาวคนโตได้กระทำมาแล้ว และภายหลังจากที่เธอต้องเสียน้ำตาไปอย่างมากกมายพ่อกับแม่ก็ยินยอมให้เธอเรียนศิลป์จากโรงเรียนที่เธอเลือกเองซึ่งเมื่อมาถึงตอนนี้ อลิกซ์ก็ได้ตระหนักว่าการต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระของตนเองนั้น มันไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าการแสดงละครตลกฉาหหนึ่งเท่านั้น

และแล้ว เมื่อเธอได้พบกับ วิลตัน สมิท ในงานปาร์ตี้ซึ่งจัดขึ้นที่ทริเด้ลท์ ระหว่างที่เธอกำลังศึกษาอยู่ในปีสุดท้ายอลิกซ์ก็ตกหลุมรักเขาในทันที

ในฤดูร้อนปีนั้นเองที่เขาและเธอได้แต่งงานกัน อลิกซ์รู้สึกผิดหวังยิ่งนักที่สามีของเธอกลายเป็นคนชาเย็น และจิตใจแข็งกระด้างอย่างมาก เขามักจะเตือนให้เธอสำนึกในความอ่อนแอ ความไร้คุณสมบัติของเธอเองอยู่เสมอ และกี่ครั้งกี่ทนนะที่เขาย้ำกับเธอว่า เธอเป็นผู้หญิงที่ไร้เสน่ห์อย่างที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมาในชีวิตนี้

อลิกซ์ได้ใช้ความพยายามอย่างที่สุดที่จะเป็นภรรยาที่ดีพยายามที่จะสร้างสายสัมพันธ์แห่งความรักขึ้นมาร้อยรัดเธอกับเขาไว้ แต่ทว่าดูเหมือนเขาจะปฏิเสธในความพยายามทุกประการของเธอโดยสิ้นเชิง และกลายเป็นสามีที่คอยแต่จะสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้เกิดขึ้นกับเธอตลอดเวลา

เป็นเวลากว่า 7 ปีมาแล้ว ที่เธอได้ใช้ความพยายามที่จะได้ความตั้งใจของตนเองเป็นผลสำเร็จขึ้นมาให้ได้ แต่แล้วก็มาถึงวันหนึ่ง...เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ที่เขาเป็นฝ่ายขอแยกทางไป

มันไม่มีประโยชน์ที่เธอจะครวญคร่ำอยู่กับเรื่องราวในอดีต และการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตัวเอง เธอไม่มีความสามารถที่จะยกฐานะของตนเองขึ้นมาเป็นภรรยาที่สมบูรณ์แบบได้ แต่เมื่อมาถึงวันนี้ มันก็ไม่มีอะไรสำคัญอีกต่อไปแล้วนับแต่บัดนี้ วิธีทางในชีวิตของเธอจะต้องแปรเปลี่ยนไป และอลิกซ์ก็ดั้งใจไว้อย่างแน่นอนว่า เธอจะพยายามหาความสุขให้กับตนเองมากที่สุด ขณะที่มองดูโจกับลูกๆ นั้นเธอก็คิดอยู่ในใจเพียงว่า

“วันนี้คือวันแรกของชีวิตทียังเหลือยู่” มันอาจจะฟังโง่เขลาแต่ก็ไม่มีคำใดที่จะเปรียบเทียบได้ดีกว่านี้

เธอหยิบแก้วชาดำเย็นขึ้นมาจิบ นึกไปถึงว่าโจมีท่าทางเหมือนเขาพร้อมจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ทันที เขาไม่ต้องใช้เวลานานเท่าไรเลย สำหรับการที่จะเอาเสื้อผ้าซึ่งไม่มากขึ้นนักออกมาจัดเข้าตู้ แต่ถ้าเขาเตรียมพร้อมสำหรับการที่จะมาทำงานในไร่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และเขาก็บอกแล้วว่าเขาอยู่ในระหว่างหางานทำ

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญแน่ ความสำคัญมันอยู่ตรงที่เขาสร้างความสัมพันธ์ขึ้นระหว่างตัวเองกับลูกทั้งสอง ของเธอซึ่งดูเหมือนทั้งคิมเบอร์ลี่ย์กับมิชเชลสนิทสนมกับเขาในเวลาอันรวดเร็วมาก ซึ่งถ้าแม่ได้มาเห็นภาพนี้เข้าจะต้องคิดว่าเขาเป็นบุคคลที่ไม่เหมาะสมอย่างที่สุด มีชีวิตที่ต่ำต้อยกว่าอลิกซ์มาก แต่เพื่อนๆ ของเธอก็อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไปเช่นกันโจเป็นผู้ชายที่มีคุณลักษณะเช่นที่ผู้หญิงทั้งหลายใฝ่ฝันหาท่าทางของเขาองอาจ มีความเข้มแข็งอยู่ในตัว แต่ไม่ถึงกับจะแข็งกระด้างไปเสียทีเดียว เขาเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงคนใดก็ตามได้เห็นจะบอกได้ทันทีว่านี่คือ “คนที่มีความเป็นผู้ชายเต็มตัว” แต่สำหรับอลิกซ์นั้น เธอได้รับบทเรียนราคาแพงจากการที่ได้ตั้งความหวังไว้สูงมากเกินไป และเชื่อใจคนง่ายๆ มาแล้ว

ขณะนี้เรากำลังดึงตัวเองขึ้นมาจากสระ สายตาของเธอก็จับจ้องมองดูร่างที่มีหยดน้ำเกาะพราวอยู่ทั้งตัวอย่างชื่นชมและแล้วหัวใจของเธอก็เต้นรัวแรงขึ้น เมื่อมองเห็นภาพความเป็นชายชาตรีของเขาที่ผุดพลุ่งขึ้นในสมอง บังเกิดความปรารถนาที่จะได้โลมไล้ปลายนิ้วลงบนต้นแขนและช่วงไหล่กว้างฯ นั้นขณะเดียวกันก็ให้คิดไปถึงผู้หญิงทั้งหลายที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของเขาว่าจะมีบ้างไหมหนอ...

แน่นอน เขาจะต้องมีใครอีกคนหนึ่งอยู่ในหัวใจแล้วแต่กระนั้น เธอก็อดคิดไม่ได้ว่ามันจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ถ้าเธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเขา

“เป็นไงครับ” เขาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกๆ เมื่อเดินเข้ามาหยุตอยู่ใกล้ ซึ่งทำให้อลิกซ์ต้องรีบเบือนหน้าไปเสียทางหนึ่งทันที

มันเป็นความบ้าอย่างชัดๆ เธอรู้สึกว่าตัวเองได้กระทำในสิ่งที่โง่เขลาลงไป ที่จ้องมองดูเรือนร่างของเขาอยู่เช่นนั้นมันอาจจะทำให้เขาคิดดูหมิ่นได้ ว่าเธอเป็นผู้หญิงหม้ายสามีผู้กระหายในตัวผู้ชายขึ้นมาได้ อลิกซ์บอกตัวเองว่าเธอจะต้องปฏิบัติต่อเขาเช่นลูกจ้างธรรมดาคนหนึ่ง เธอจะต้องอำพรางความรู้สึกทุกประการไว้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

“คุณไม่คิดหรือคะว่าเด็กๆ ควรจะขึ้นจากน้ำได้แล้วมันจะเย็นแล้วนะ”

“ครับเจ้านาย”

เขาตอบสั้นๆ ก่อนที่จะหันไปกวักมือเรียกลูกทั้งสองของเธอ ซึ่งทั้งคิมเบอร์ลีย์และมิชเชลก็ยอมทำตามคำสั่งของเขาแต่โดยดี ไม่ได้โต้แย้งเช่นที่ทำกับเธอเลยแม้แต่น้อย และโจเองก็ดูเหมือนจะไม่ได้แปลกใจอะไรเลยที่ลูกของเธอเชื่อฟังเขา

สายตาของเขายามที่จับจ้องมองหน้าเธออยู่นั้น สร้างความหวั่นไหวให้เกิดขึ้นกับอลิกซ์อยู่ไม่น้อย เธอพยายามบังคับน้ำเสียงให้มั่นคงไว้ เมื่อกล่าวกับเขาว่า

“ฉันคิดว่าคุณควรจะขับรถเข้าไปหาซื้ออาหารในเมืองได้แล้วนะ ซื้อสเต๊กมาสำหรับทําอาหารค่ำก็ดี เอาละฉันจะไม่หยิบเงินมาให้” เธอผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ พยายามหลีกเลี่ยงจะสบตากับเขาอยู่

“ได้สิครับ เจ้านาย” น้ำเสียงนั้นแฝงความขับขันอยู่อย่างเห็นได้ชัด

โจอดที่จะคิดอย่างเคร่งขรึมมิได้ว่า การที่จะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของอลิกซ์นั้น มันเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของเขาอยู่ ดูเหมือนเธอจะระมัดระวังตัวเองอยู่ในทุกฝีก้าวสายตาของเขามองตามร่างของเธอ ขณะที่ออกเดินตามเธอเข้าไปในครัว อยากจะได้เห็นเธอในชุดอาบน้ำมากกว่าการแต่งตัวในชุดกลางวันที่เรียบร้อยเช่นนี้... แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ใช่สาวสมัยใหม่เสียทีเดียว

“เดี๋ยวนะ...” เธอเคาะปลายนิ้วอยู่กับปลายคาง และแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบกระดาษกับดินสอออกมาจากในลิ้นชัก “รู้สึกว่าเราขาดไปเสียหมดทุกอย่างเลย”

ขณะที่เธอก้มหน้าเขียนรายการต่างๆ ที่ต้องการจะซื้อลงในกระดาษแผ่นนั้น โจออกจะแปลกใจอยู่มาก ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดเธอจึงมีท่าทางเร่งรีบคล้ายกับต้องการจะหาทางกำจัดเขาออกไปให้พ้นๆ เช่นนั้น

“อันที่จริง รายการทั้งหมดนี้ยังไม่ครบกับที่เราต้องการจะใช้หรอกนะ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณเห็นว่าอะไรยังขาดอยู่คุณก็ซื้อเพิ่มเติมมาแล้วกัน อย่าลืมซื้อ พีนัท บัตเตอร์ กับฮ็อทด็อก มาสำหรับเด็กๆ ก็แล้วกัน มันของชอบของเขา แต่อย่าซื้อพวกตับ ผักขม หรือเกรฟฟรุ้ทมานะ ไม่มีใครกินหรอก”

จากนั้นเธอก็เปิดกระเป๋า หยิบใบละ 20 เหรียญออกมาส่งให้เขาปึกหนึ่ง

“อ้อ แล้วก็ช่วยซื้อพวกแชมพู...ยี่ห้ออะไรก็ได้ ให้กลิ่นมันหอมๆ หน่อยก็แล้วกัน...แล้วก็...น้ำยาล้างเล็บมาให้ฉันด้วยนะ” เมื่อส่งรายการของที่จะต้องซื้อยาวเหยียดให้เขาแล้วอลิกซ์ก็พูดต่อว่า “แล้วก็กลับมาเร็วๆ หน่อยละเด็กๆ จะเข้านอนประมาณ 2 ทุ่ม... เพราะฉะนั้นจะต้องกินอาหารค่ำกันเร็วหน่อย”

“ครับ เจ้านาย” พูดจบเขาก็เดินออกจากครัว เพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องส่วนตัวเสียก่อน

อันที่จริง เขามีเหตุผลทุกประการที่จะปฏิเสธการทำหน้าที่นี้ จริงอยู่ เธออาจจะเป็นคนสวย และเขาก็คิดว่าเธอสามารถจะให้ความสุขแก่ผู้ชายที่นอนอยู่ในเตียงด้วยกันได้ แต่เธอก็สามารถจะใช้ผู้ชายอย่างทาสได้เหมือนกัน

ทำไม...ชีวิตของเขาจะต้องคอยรับคำสั่งจากใครต่อใครแม้กระทั่งจากผู้หญิงคนนี้นะ...โจคิดอย่างชัดเคือง

ตนเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel