EP.1 Guy
EP.1
วันต่อมา
ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่ในสวนสาธารณะใกล้ๆกับคอนโดใหม่ที่สภาพเก่าราวกับใช้แสดงหนังสยองขวัญ
ไม่รู้ทำไมพ่อกับแม่ถึงได้ทำกับฉันขนาดนี้ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อพวกท่านก็คงไม่มีทางเลือก จะว่าทิ้งฉันมันก็ไม่ใช่ซะทีเดียว ก็แค่ปล่อยให้ฉันเผชิญหน้ากับชะตาชีวิตอันโหดร้ายเท่านั้นเอง
“ว่าไง มารอนานยัง” เสียงเข้มที่คุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าอันหล่อเหลาของผู้ชายคนหนึ่งที่ก้มลงมาหาฉันใกล้ๆจนจมูกเราแทบชิดกัน และฉันต้องเอามือเล็กๆดันหน้าของเขาออกห่าง
เขาคือเพื่อนสนิทของฉัน เราคบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม และก็เป็นเพื่อนคนเดียวของฉันแต่ฉันไม่ใช่เพื่อนคนเดียวของเขาหรอกนะ เพราะเขาค่อนข้างจะมีเพื่อนเยอะมาก
ตอนนี้เราเรียนอยู่คนละมหา'ลัย แต่ก็ยังติดต่อกันตลอด
”ก็ซักพัก”
หมอนี่ชื่อว่า กาย เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากๆ จนสาวๆหลายคนหลงรัก ยกเว้นฉันที่สนิทกับเขาในฐานะเพื่อนมาโดยตลอด มีเรื่องทุกข์เรื่องสุขก็มีแค่กายที่รับรู้
”แล้วมีอะไรห๊ะ ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นไอ้กวางน้อย” กายยกมือขึ้นมายีผมฉันจนยุ่งกว่าเดิม จากที่มันก็ยุ่งๆอยู่แล้วเพราะไม่มีอารมณ์จะมาทำสวยตอนนี่
"มีเรื่องจะให้ช่วย"
"ถ้าไม่เดือดร้อนก็ไม่คิดถึงฉันสินะ" กายพูดแล้วปรายตามองฉัน
"ก็คิดถึงตลอดแหละน่า" ฉันพูดแล้วกอดอกมองอย่างเครียดๆ
"แล้วอะไรล่ะที่จะให้ช่วย" กายถามแล้วนั่งลงข้างๆก่อนจะเลื่อนมือมาม้วนผมฉันเล่น ซึ่งเป็นปกติของเราที่จะเล่นแบบนี้
เมื่อก่อนก็มีคนคิดว่าเราคบกัน แต่หลังๆมากายก็มีคุยกับสาวคนนั้นคนนี้บ้าง คนเลยเลิกนินทา แต่เขาไม่เคยทิ้งฉันเลย ถึงมีสาวคุยด้วยก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีเสมอ จนบางครั้งฉันแอบรู้สึกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้สาวๆทุกคนเลิกกับกายหรือเปล่า เพราะคงไม่มีใครชอบให้คนที่ตัวเองคบมีเพื่อนสนิทเป็นผู้หญิง
แล้วฉันก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟัง พูดไปด้วยร้องไห้ไปด้วย ว่าจะไม่ร้องแล้วนะแต่พอมีคนมาให้ระบายมันเลยห้ามไม่ได้
ยิ่งเป็นคนที่เราสนิทและไว้ใจยิ่งทำให้เราอ่อนแอ
"ไม่เจอกันอาทิตย์กว่า ตกอับขนาดนี้เลยเหรอวะ ฮ่าๆ" เขาพูดขึ้นเหมือนที่ฉันเล่ามันเป็นเรื่องตลก แถมยังหัวเราะชอบใจ
"อย่ามาหัวเราะนะเว้ย! ฮือๆ ฉันจะทำยังไงดี ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมแล้วฉันจะทำยังไง กว่าจะสอบเข้ามาคณะที่อยากเรียนได้มันไม่ได้ง่ายเลยนะ" ฉันพูดแล้วดึงชายเสื้อกายมาเช็ดน้ำตา (กลัวเสื้อตัวเองเปื้อน)
"ห่วงเรื่องกินข้าวก่อนเถอะ จะตายวันไหนก็ไม่รู้" กายพูดขึ้นเหมือนไม่จริงจังก่อนจะทำหน้าครุ่นคิด
"ทำไงดีวะกาย คำว่าล้มละลายนึกว่าจะเจอแค่ในเกมเศรษฐี" นี่ฉันคงติดนิสัยชอบพูดเล่นมาจากกายใช่มั้ยเวลาแบบนี้ฉันยังพูดคำพวกนี้ออกมาได้
"ขอคิดก่อน แล้วทำไรได้บ้างล่ะเรา" หมอนั่นพูดแล้วหันมามองฉัน
"ทำอะไร" ฉันขมวดคิ้วถาม
"หมายถึงทำงานอะไรได้บ้าง จะได้หางานพิเศษให้ทำไงล่ะ"
"...ไม่มี" ฉันคิดอยู่นานก่อนจะตอบออกไปเบาๆ
"เธอควรตายไปซะ" แล้วกายก็ใช้นิ้วดันขมับฉันจนตัวเซ
"ก็ฉันเคยทำอะไรที่ไหนล่ะ! นี่มันวัยเรียนนะ เรียนเสร็จกลับบ้าน อยู่บ้านก็ช่วยแม่ทำกับข้าว ซักผ้า ล้างจาน ถูบ้าน ออกไปจ่ายตลาดแค่นั้นแหละงานที่ยิ่งใหญ่ของฉันทุกวันนี้" ฉันพูดออกไปแล้วเบะปากคว้ำลงอย่างเศร้าๆ เพราะระอาที่ตัวเองไร้ความสามารถจนน่าหัวเราะเยาะ
"..." กายเงียบลงเหมือนใช้ความคิด
"อย่าเงียบดิ ฉันรู้ว่าเพื่อนรักอย่างนายต้องช่วยฉันได้แน่"
"ให้ฉันส่งเสียเธอเรียนสิ แล้วเธอก็มาเป็นเมียฉัน" ฉันรู้ว่าหมอนี่รวยมาก พ่อแม่ทำธุรกิจส่งออกสินค้าพวกผลไม้แปรรูปไปต่างประเทศ แต่ไอ้เหตุผลที่ว่ามันตลกเกินไป
เพี๊ยะ!
"ไอ้บ้า!"
"แหม พูดเล่นแค่นี้ทำเป็นหน้าแดงนะ" กายเอียงหน้ามามองฉันจนฉันต้องหันไปมองทางอื่น
หน้าฉันแดงเหรอ บ้าน่า...ก็แค่อากาศร้อนๆในตอนเย็นๆเท่านั้นเอง
"จริงจังซักทีเถอะน่า"
"เอางี้มั้ย" แล้วกายก็ทำสีหน้าจริงจังขึ้น
"อะไรเหรอ"
"ไปเป็นคนทำความสะอาดแล้วก็ทำกับข้าวบ้านฉัน เพราะตอนนี้แม่บ้านคนเก่าป่วย เรากำลังหาคนมาแทน" กายพูดขึ้นแล้วมองฉันอย่างพิจารณา
"จะดีเหรอ แล้วให้เท่าไหร่อะ" ฉันไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้นน้า แต่ตอนนี้มันลำบากจริงๆ
"อยากได้เท่าไหร่ ฉันจะหารกับพวกมันจ่ายเธอเอง" อะไรของมันเนี่ย
"ก็นายจะจ้างฉันมาถามฉันทำไมเล่า!"
"ก็เอาที่เธอพอใช้แล้วจ่ายค่าเทอมไงล่ะยัยซื่อบื้อ" กายพูดแล้วผลักหัวฉันอีกรอบ
"ไม่เอานายบอกมาเลยกายว่าจะให้เท่าไหร่ ถ้ามันน้อยไปฉันก็จะหางานอื่นทำเพิ่ม" ฉันพูดแล้วมองเขานิ่งๆเพื่อเอาคำตอบ
"ทำอย่างกับตัวเองเก่งรอบด้าน เดือนสามหมื่นพอมั้ย?"
"ห๊ะ! สามหมื่นเหรอ!" นี่มันมากกว่าเงินในบัญชีฉันอีกนะ เรียนจบมาหางานทำยังไม่ได้เยอะขนาดนี้เลย นี่มันชีวิตจริงหรือการ์ตูนเล่มห้าบาทกันนะ
ถ้าทำงานหนึ่งเดือนจ่ายค่าเทอมในอีกสองเดือนข้างหน้ารวมกับเงินใบบัญชีที่แม่ให้มา ฉันก็จะมีเงินเหลือๆ อีกสองหมื่นกว่าบาทเพื่อประทังชีวิตสองเดือน
ข้าวก็แอบกินตอนไปทำงานบ้านกาย แล้วห่อกลับมากินที่คอนโดบ้าง
"หรือว่าไม่พอ"
"พอแล้วๆ ฉันเกรงใจ"
"อืม ฉันอยู่บ้านกับพี่ฉันอีกสองคน ฉันจะไปบอกพวกมันให้หารกันจ่ายเธอ เพราะเธอก็ต้องทำความสะอาดหรือดูแลเรื่องของพวกนั้นด้วย"
"พี่ชายเหรอ อ่อ ที่นายเคยบอกว่าไม่เหมือนคนนะเหรอ" ฉันจำได้ว่ากายเคยบ่นเรื่องของพี่ตัวเองให้ฟังตั้งแต่สมัยมัธยม แต่เขาไม่ค่อยพูดเรื่องครอบครัวบ่อยๆหรอก ฉันเลยไม่รู้จักพี่ของเขาเลย ถึงแม้ว่าเราจะสนิทกันมาหลายปี แต่ก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้น
"ฮ่าๆ เธอจำได้ด้วยเหรอ"
"จำได้รางๆ แต่ก็เกือบลืมไปแล้วว่านายมีพี่น้องด้วย แล้วพี่ๆนายจะโอเคมั้ยล่ะ พวกเขาดุมั้ย"
"คนนึงเป็นบ้า อีกคนเป็นไบ้" เขาพูดแล้วหัวเราะเบาๆในลำคอ
"จะว่านายดีอยู่คนเดียวงั้นสินะ แล้วพวกพี่นายจะยอมรับฉันใช่มั้ยล่ะ"
"อย่าไปสนใจเรื่องของพวกมันเลย เธอแค่ทำหน้าที่ตัวเองก็พอ" กายยิ้มแล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวฉันเหมือนฉันเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าเอ็นดูอย่างนั้นแหละ
"โอเค แล้วจะให้ฉันเริ่มงานวันไหน"
"แล้วแต่เธอสะดวก"
"ฉันต้องทำอะไรบ้าง" ฉันถามเพราะนี่มันเป็นการทำงานที่ยิ่งใหญ่ครั้งแรก
"ก็ทำเหมือนเธอมีลูกชายสามคน เธอคิดว่าจะทำอะไรได้บ้าง" ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยๆ ขนาดยังไม่ได้ทำแค่ฟังที่พูดก็จะบ้าแล้ว
"ฉันไม่เคยมีลูกนะ จะรู้มั้ย"
"งั้นลองมีกับฉันมั้ยล่ะ เธอจะได้รู้..." เขาพูดเสียงกระซิบแผ่วเบาจนน่าสยิว แล้วขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ จนริมฝีปากแทบจะแตะลงมาบนแก้มของฉัน
ให้ตายเถอะ
"นี่แหนะ!"
"โอ๊ย! เจ็บนะ" กายลูบแก้มตัวเองปอยๆเมื่อโดนฉันดีดไปหนึ่งที่
"สมน้ำหน้า!"
-----------------