บทย่อ
เมื่อต้องเข้าไปเป็นแม่บ้านให้เพื่อนสนิท (คิดไม่ซื่อ) ที่มี 'พี่ชาย' นิสัยต่างกันสุดขั้วอีกสองคน แล้วยังต้องเอาตัวเองไปพัวพันกับผู้หญิงโรคจิตที่จ้องจะเอาชีวิต งานนี้มันไม่ง่ายเลย นะ 'เรนเดียร์'
Intro
Intro
กุกกัก
"..."
กุกกัก
ครืด~
"อื้อ~"
เสียงครางเล็กๆดังขึ้นเมื่อมีเสียงจากภายนอกกำลังรบกวนให้สะดุ้งตื่นขึ้นในขณะที่เธอกำลังนอนอยู่ในห้วงนิทรา
ก๊อกๆๆ
"เรนเดียร์ตื่นได้เร็วลูก ลุกมาก่อนแม่กับพ่อต้องไปแล้วนะ"
เธอขมวดคิ้วแน่นอย่างสงสัยทั้งที่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมา
เมื่อกี้แม่พูดว่า...ไปแล้ว...งั้นเหรอ ไปไหนกัน นี่มันวันหยุดไม่ใช่หรือไง
เธอค่อยๆลืมตาและลุกขึ้นจากที่นอน ก่อนจะเดินไปเปิดประตูและพบว่ามีผู้เป็นแม่ยืนยิ้มอยู่พร้อมกับพ่อของเธอ
ข้างกายมีกระเป๋าลากใบใหญ่เหมือนคนกำลังจะไปเที่ยวต่างประเทศ แต่คงไม่ใช่แบบนั้นแน่เพราะเธอเพิ่งได้ยินมาว่าบริษัทที่พ่อทำงานอยู่ประสบปัญหาทางการเงิน พ่อกับแม่ไม่ได้รับเงินเดือนมาถึงสองเดือนแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปเที่ยวกันล่ะ
"พ่อกับแม่จะไปไหน" เธอขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมมองหน้าพ่อและแม่สลับไปมา
"อย่างที่บอกนั่นแหละลูก ที่ทำงานของพ่อแม่กำลังล้มละลาย แต่หัวหน้ายังใจดีหาที่ทำงานใหม่ในเครือเดียวกันให้เราพ่อกับแม่เลยต้องย้ายไปอยู่ที่นั่น ถ้าเรามีเงินแล้วจะกลับมานะจ๊ะ"
"อ่อ ที่ไหนล่ะคะ จังหวัดไหน" เธอถามเมื่อคลายความสงสัยลงไป คิ้วที่ขมวดแน่นตอนนี้กลับมาเป็นปกติ
"ออสเตรเลียจ่ะ"
"ห๊ะ!"
ผู้เป็นแม่ยังคงยิ้มแป้นแล้วเอื้อมมือมาจับมือลูกสาวคล้ายต้องการปลอบใจ
"ไม่ต้องกลัวนะเรนเดียร์ แม่หาที่ปลอดภัยให้ลูกอยู่แล้ว เป็นคอนโดย่านใจกลางเมืองแม่ซื้อสดให้ลูกเลยนะ นี่เป็นที่อยู่ของคอนโดและรายละเอียดทั้งหมด ส่วนบ้านหลังนี้พ่อกับแม่ขายไปแล้วล่ะ เพราะบ้านเรามีหนี้ ต้องขายแล้วเอาเงินไปจ่ายให้ธนาคาร ส่วนเงินที่เหลือแม่ซื้อคอนโดนั่นให้ลูกอยู่" พอแม่พูดจบเธอแทบจะเข่าอ่อนทรุดลงตรงนั้น
ไม่จริง!
นี่มีใครมาถ่ายรายการอะไรหรือเปล่านะ ประเภทที่แกล้ง คนชอบเห็นคนแอบถ่ายตอนทำอะไรไม่ถูกออกสื่อเพื่อให้คนดูขำกันทั้งประเทศ
เธอคิดในใจและยังไม่เชื่อสิ่งที่พ่อกับแม่พูดจนกระทั่งมีรถกระบะคันหนึ่งมาจอดหน้าบ้านและบีบแตรเสียงดัง
"ใครมา" เรนเดียร์พูดขึ้น ตอนนี้ทุกอย่างกลายเป็นคำถามไปหมด
"รถที่จะมาขนของใช้ของลูกไง แกคือลุงโจวที่อยู่ใกล้ๆบ้านรีบเก็บนะลูกเพราะแม่จ้างเขามาแค่วันเดียว เงินที่ต้องใช้แม่โอนใส่ในบัญชีของลูกแล้ว แต่..."
"แต่อะไรคะ!" ในเวลานี้เธอไม่อยากให้มีเรื่องเลวร้ายอะไรไปมากกว่านี้อีกเลย แม่กำลังทำให้เธอหายใจติดขัด
"แต่เงินที่แม่ให้เรนเดียร์น่ะ น่าจะไม่พอ ลูกต้องหางานพิเศษทำด้วย"
"..." เธอพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่ง
นี่มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยซักนิด เมื่อวานยังใช้ชีวิตปกติอยู่เลยแต่ทำไมวันนี้มันกลับพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลยล่ะ
“แม่ต้องไปแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก แล้วแม่จะโทรหาบ่อยๆ”
น้ำเสียงของผู้เป็นแม่สั่นเครือเช่นเดียวกับพ่อที่สายตามองมาที่ลูกสาวเศร้าๆ แต่ท่านทั้งสองก็ทำใจแข็งเดินออกจากบ้านโดยไม่หันกลับมามองเธออีก และเธอก็ได้แต่ยื่นมองอย่างสับสน
"แม่อย่ามาล้อเล่นนะ!" เธอวิ่งตามออกไปแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว พ่อกับแม่ขึ้นไปบนแท็กซี่คันหนึ่งที่จอดรออยู่ และตอนนี้ก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
เธอเดินกลับเข้ามาในห้อง นั่งทบทวนกับตัวเองว่านี่มันไม่ใช่ความฝันทั้งๆที่อยากให้มันเป็นแค่ความฝันแต่ตอนนี้เหมือนมียมทูตกำลังมารอรับเธออยู่หน่าบ้าน
ก็ไอ้รถกระบะที่จอดอยู่หน้าบ้านยังไงล่ะ ถ้าจำไม่ผิดก็ลุงคนที่เธอมักจะเห็นบ่อยๆเพราะรับจ้างขนของทั่วราชอาจักรนั่นแหละ
พ่อกับแม่ไปแล้ว ทิ้งให้เธอต้องเผชิญหน้ากับทุกอย่างเพียงลำพังอีกต่างหาก
เธอจะทำอะไรได้บ้างในตอนนี้ล่ะ เรียนก็เรียนไม่จบเพิ่งอยู่ปีสองนะ ค่าเทอมก็ต้องหา ค่ากิน ค่าของใช้จำเป็นอีกล่ะ
หลายชั่วโมงต่อมา
เธอหยุดอยู่หน้าตึกสูงหกชั้น สภาพราวกับมันถูกปล่อยให้รกร้างมามากกว่าสามปี เรนเดียร์ก้มมองดูชื่อคอนโดอีกครั้งแล้วหันหน้าไปมองลุงโจวเจ้าของรถกระบะสี่ประตูที่ขนของมาส่งให้
”ลุงว่ามันจะเป็นที่นี่จริงๆเหรอคะ” ทั้งที่อยากร้องไห้แต่ก็ต้องทำตัวให้เข้มแข็งเอาไว้
”ที่นี่แหละเรนเดียร์ พ่อแม่เอ็งก็บอกลุงว่าคือที่นี่”
“ค่ะ” เธอตอบรับสั้นๆแล้วเข้าไปติดต่อพนักงานที่อยู่เคาน์เตอร์ที่เป็นคนแก่อายุราวๆหกสิบกว่า ทุกอย่างในคอนโดแห่งนี้ดูเก่าแก่ไม่เว้นแม้แต่พนักงาน
เธอคิดในใจแล้วเดินคอตกกลับมาที่รถ ก่อนจะขนของตัวเองไปรวมไว้ในล็อบบี้และกล่าวขอบคุณลุงที่มาส่งเธออย่างมีมารยาท
ห้องที่พ่อกับแม่ซื้อไว้อยู่ชั้นสาม ของใช้ต่างๆนานาก็เยอะมากพอสมควร ก็คงต้องใช้ลิฟท์สินะ
เรนเดียร์มองลิฟท์ด้วยความสยองแต่ก็ต้องสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วขนของบางส่วนเข้าไปในลิฟท์และกดลิฟท์ไปยังชั้นสาม
”นี่มันหนังผีชัดๆ” เธอพูดขึ้นกับตัวเองแล้วลากกระเป๋าและของใช้ต่างๆ ไปตามทางเดินก่อนจะหยุดลงที่ห้องหมายเลย สามหนึ่งหนึ่ง
อย่างน้อยก็ไม่ใช่เลขสามหนึ่งสาม ถือว่าเป็นโชคดีของเธอ เพราะเห็นในหนังผี เลขนี้มันต้องมีอะไรน่ากลัว
เรนเดียร์คิดในใจแล้วเปิดเข้าไปในห้องด้วยกุญแจที่แม่มอบให้พร้อมกับเอกสารต่างๆ
ภายในห้องมีห้องนอนแยกไปอีกห้อง มีเตียงขนาดหกฟุตสภาพยังใหม่ มีตู้เสื้อผ้าสีขาว ถึงแม้สภาพตึกจะไม่ดีนักแต่ของทุกอย่างในห้องดูเหมือนพ่อและแม่จะจัดการให้เธอไว้แล้ว มีมุมทำกับข้าวอยู่ด้านนอก ไม่มีโทรทัศน์คงเพราะท่านรู้ว่าเธอไม่ชอบดูเท่าไหร่ หรือไม่ก็เงินไม่พอที่จะซื้อให้
ไม่มีโต๊ะกินข้าวมีเพียงชุดโซฟาราคาถูก โต๊ะกระจกเล็กๆหน้าโซฟา และโต๊ะสำหรับนั่งทำงาน ห้องน้ำขนาดพอดีอุปกรณ์ทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพพร้อมใช้
เธอขนของขึ้นมาบนห้องจนหมดและได้รับสายจากพ่อและแม่ในตอนค่ำๆ
ทั้งที่อยากร้องไห้แต่มันก็ร้องไม่ออก สมองได้แต่สั่งการให้เข้มแข็ง ทั้งที่ตอนนี้มันแทบจะทำอะไรไม่ไหวคิดอะไรไม่ออก
แล้วพรุ่งนี้เธอต้องทำยังไง
------------------