EP. 4 ความเงียบ
EP. 4
"จะกินได้เหรอ"
ให้ทายว่าเสียงใคร
เหอะ! จริงๆมันไม่ต้องทายหรอก คงไม่มีใครที่อยากหาเรื่องฉันเท่ากับไอ้บ้าที่ชื่อว่าเกียร์!
น้ำเสียงและรอยยิ้มมุมปากของคนที่นั่งตรงข้ามทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ
ทำไมเขาต้องแสดงท่าทีเหมือนไม่ค่อยชอบฉันนะ ไม่สิ มันก็ไม่ขนาดนั้นแต่ดูเหมือนเขามีความสุขที่ได้ต่อว่าฉัน
"กินไม่ได้นายก็อย่ากินดิ" ฉันพูดแล้วจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
"หึ..." นี่ไม่ใช่เสียงหัวเราะของคนตรงหน้า แต่เป็นเสียงของอีกคนที่กำลังนั่งเงียบและหน้าทำนิ่งๆ เหมือนไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
"ปากดี" เขายกมือขึ้นมากอดอกมองฉันอย่างหาเรื่อง
"เกียร์ แกก็เลิกแกล้งยัยนี่ได้ละ หาเรื่องแม้กระทั่งผู้หญิง" กายพูดขึ้นแล้วส่ายหน้าเบาๆ ส่วนผู้ชายอีกคนก็ได้แต่มองฉันเงียบๆ
"ฉันไม่ชอบผู้หญิงขี้อ่อย"
"ฉันไปอ่อยนายตอนไหน!" ฉันเริ่มเสียงดังแล้ววางช้อนลงกับจานข้าวอย่างหงุดหงิด
ไม่เคยมีใครกวนประสาทฉันได้เท่าเขามาก่อนเลย ไม่เคยหงุดหงิดกับใครแบบนี้มาก่อนด้วย!!
"เมื่อเช้าไง ต้องให้ฉันเล่ามั้ย ว่าเธอ...เป็น ยัง ไง บ้าง" เขาพูดแล้วเลื่อนสายตามองไปที่หน้าอกของฉันอย่างกวนๆ
"..." ฉันกัดปากตัวเองแน่นมองเขาอย่างไม่พอใจ มือกำหมัดเล็กๆไว้
นี่อาจจะเป็นวันแรกและวันเดียวที่ฉันมาทำงานที่นี่...หลังจากที่ฉันเอาจานข้าวตรงหน้าฟาดหน้าหล่อๆของเขา
แต่เดี๋ยวนะ...
ถ้าฉันทำแบบนั้น เท่ากับว่าฉันจะเสียรายได้เดือนละสามหมื่นบาทไป
ฉันจะไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม
และอาจจะโดนไล่ออกจากมหา'ลัยด้วย
ไม่ได้เด็ดขาด ฉันจะให้อารมณ์อยู่เหนือสติไม่ได้ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น
"กินข้าวเถอะ" แล้วพี่ไกด์ก็เป็นคนยุติสงครามประสาทของเราทั้งคู่ลง
เราสี่คนก็นั่งกินข้าวไปเงียบๆ เกียร์น่าจะกินไปไม่กี่คำมั้ง ทำท่าทางเหมือนฉันยัดไส้เดือนใส่ปากให้อย่างนั้นแหละ เขาลุกออกไปด้วยไปหน้าดุๆไม่มีรอยยิ้มใดๆออกมา ไม่มองหน้าฉันเลยด้วย
กินเสร็จฉันก็ล้างจานทำความสะอาดในครัว กว่าจะเสร็จก็เกือบสามทุ่ม กายขับรถออกมาส่งที่คอนโด
"จริงๆนายไม่ต้องมาส่งฉันก็ได้นะ เกรงใจอะ เพราะฉันก็มารับจ้างนาย มาเอาเงินจากนายอีก"
"เลิกพูดว่าเกรงใจได้ละ เราคบกันมากี่ปีเธอต้องเกรงใจอีกเหรอ"
"ก็ฉันเกรงใจนี่" ฉันยิ้มแล้วมองเขา
"แล้วที่ไอ้เกียร์มันพูดเมื่อกี้ เรื่องอะไร" กายถามขึ้นทั้งๆที่ฉันไม่อยากจะพูดถึง
"ไม่มีอะไรหรอก เมื่อเช้าฉันแค่เข้าห้องผิดแล้วพี่นายก็หาว่าฉันอ่อย เพราะการแต่งตัวของฉันด้วย แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นมั้ยล่ะ ฉันก็แต่งปกติไม่ได้อ่อยใคร พ่อแม่ยังไม่เคยว่าอะไรฉันเลย พี่นายคงไม่ชอบขี้หน้าฉันมาก ฉันดูออก"
"อย่าคิดมากดิ มันก็เป็นแบบนั้นแหละ ชีวิตนี้ยังไม่เห็นมันเข้าใกล้ผู้หญิงเลย ชอบมีเรื่องต่อยตีกับคนอื่น บางทีอาจจะไม่พอใจที่เธอไปอยู่ในห้องมัน "
อา~ ทำไมฉันลืมคิดข้อนี้ไปนะ
ฉันเป็นคนผิดที่เข้าไปห้องเขา บางคนหวงห้องตัวเองเพราะห้องนอนเป็นเหมือนความลับและที่ปลอดภัยของเรา
"ขอโทษด้วยนะฉันลืมคิดไป"
"อย่าไปถือสามัน มันก็แบบนี้แหละ ชอบหาเรื่อง การมีเรื่องกับคนอื่นคือเรื่องปกติ"
"แต่ขอไม่ใช่กับฉันได้มั้ย ฉันยังอยากทำงานหาเงินที่บ้านนายนะ" ฉันพูดแล้วทำหน้าเศร้าเรียกความสงสารจากคนข้างๆ
"อย่าเข้าใกล้มันก็พอ ฮ่าๆ เธอจะได้ไม่โดนมันต่อยเอา" กายหัวเราะชอบใจแต่ฉันกลับรู้สึกผวา
"เขาจะต่อยฉันเหรอ"
"ไม่รู้สิ ปกติมีใครมาหาเรื่องมันก่อนมันก็ต่อยหมดอะ"
"ฉันรับปากว่าจะไม่หาเรื่องเขาก่อน" ฉันพูดเบาๆอย่างเจียมตัว
ต่อไปนี้ฉันควรจะทำดีๆกับเกียร์ซะเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
"อยู่นี่จริงเหรอ" กายจอดรถหน้าคอนโดสุดหรูหราของฉันแล้วมองมันด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
"อื้ม สมฐานะฉันมั้ยล่ะ ฮ่าๆ" ฉันหัวเราออกมากับท่าทีของเขา
หมอนี่น่ะ...กลัวผีเป็นชีวิตจิตใจ
"ให้ไปส่งมั้ย" เขาพูดแต่สีหน้าของเขากลัวยิ่งกว่าอะไร
"ฮ่าๆ อย่าเลย มันไม่มีอะไรหรอก อาจจะดูเก่าแต่ความปลอดภัยยอดเยี่ยม นายดูยามคนนั้นสิ ทำงานที่นี่มายี่สิบกว่าปีแล้วนะ เขาบอกไม่เคยมีโจรหรือมีคดีหน้ากลัวเลย"
"แน่ล่ะ ถ้าฉันเป็นโจรฉันก็ไม่มา" พูดจบเขาก็หันหน้ามามองฉันอย่างขำๆ
"ฮ่าๆ ไปได้แล้ว ขอบคุณที่มาส่งนะ"
"แค่ขอบคุณเหรอ" เขาพูดแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม
"อะไร"
"หอมด้วยสิ"
เขาพูดแล้วทำแก้มป่องๆเอียงเข้ามา
"อยากตายมั้ย!เล่นแบบนี้อะหา!!!" ฉันพูดแล้วผลักหัวเขาเบาๆ มาเล่นแบบนี้ได้ไงกันฉันก็คนมีชีวิตจิตใจนะ
ถ้าเกิดหวั่นไหวขึ้นมาจริงๆจะทำไง
"ฮ่าๆ เธอมันน่าแกล้ง ไอ้เกียร์มันถึงแกล้งไง อย่าทำตัวน่ารักเข้าใจมั้ยเจ้ากวางน้อย" พูดจบกายก็ยื่นมือโยกศีรษะของฉันไปมา
"ลงละ ไปได้แล้ว" ฉันพูดแล้วเปิดประตูรถ
"เค บาย อ่อ ส่งเวลาทำงานของเธอทุกๆวันมาด้วยนะ"
"ได้ เดี๋ยวส่งให้"
"บาย"
"บาย"
"ฝันดีนะ"
"อ้อ อืม ฝันดี"
ฉันปิดประตูลงแล้วเดินเข้ามาในคอนโด กายรอให้ฉันเข้ามาจนถึงด้านในเขาถึงขับรถออกไป
ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆนะ รู้สึกเหมือนเขาเปลี่ยนไปยังไงก็ไม่รู้
ฉันคงคิดมากไปล่ะมั้ง เราไม่ได้คลุกคลีกันเหมือนตอนมัธยมแล้วนี่มันถึงได้แปลกๆไปเพราะเริ่มที่จะไม่ชินเวลามาอยู่ใกล้กันอีกครั้ง
*************
วันต่อมา
วันนี้ฉันมีเรียนตอนเช้าเลยเข้ามาทำงานช่วงเย็น ส่วนกายมีงานกลุ่มที่คณะฉันเลยต้องนั่งรถเมย์มาเหมือนเดิม
ประตูบ้านไม่ได้ล็อคไว้นั่นแสดงว่ามีคนอยู่ในบ้านอย่างแน่นอน ฉันขอภาวนาให้เป็นพี่ไกด์คนเดียวก็แล้วกัน เพราะเขาดูไม่มีพิษภัยอะไร
ฉันซื้อของสดเข้ามาด้วยเพื่อทำกับข้าวตอนเย็นให้เหล่าคุณชาย วันนี้ถ้าทำงานเสร็จเร็วก็คงจะได้กลับเร็ว
วันนี้ก็เหมือนเดิม ทำความสะอาดบ้านเหมือนเมื่อวาน แต่ทำแค่บางพื้นที่เท่านั้นเพราะมันไม่ได้มีอะไรแย่ พอเสร็จจากชั้นล่างก็ขึ้นไปชั้นสอง
วันนี้ต้องเข้าไปทำความสะอาดห้องนอนแล้วมั้ง เพราะรู้สึกกายจะบ่นว่าแม่บ้านคนเก่าออกไปได้หลายอาทิตย์แล้ว
ก๊อกๆ
ฉันเคาะห้องของพี่ไกด์ ไม่แน่ใจว่าเขาอยู่หรือเปล่าถ้าไม่อยู่ก็สบายไปเพราะจะได้ไม่ต้องทำ
"..."
แต่โชคไม่เข้าข้างคนขี้เกียจอย่างฉันหรอก เพราะพี่ไกด์เปิดประตูออกมาแล้วมองหน้าฉันอย่างสงสัยแต่ไม่ได้พูดอะไร
เป็นไบ้เหมือนที่กายบอกจริงๆ ถ้าไม่มองตาคือไม่รู้ว่าคิดอะไร
ไม่สิ ขนาดมองตายังไม่รู้เลยว่าคิดอะไรอยู่
"คือ...พี่จะให้ทำความสะอาดห้องมั้ยคะ"
"...อืม"
เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกมาสั้นๆ แล้วเปิดประตูให้ฉันเข้าไป แล้วเขาก็เดินเข้ามานั่งบนโต๊ะทำงาน และทำงานของเขาต่ออย่างไม่สนใจ
ความเงียบจึงเข้ามาปกคลุมภายในห้องจนฉันแทบจะไม่กล้าทำอะไรให้เสียงดังรบกวนเขา
"เธอชื่ออะไร..."
-----------------