บท
ตั้งค่า

Ep : 4.เต้นแรงทุกครั้งที่เจอ

ผมตื่นแต่เช้าเพื่อจะได้ทันพี่เขาไปกรุงเทพฯ ผมยืนก้มหน้าทางเชิงบันไดหน้าบ้าน ผมมาดักรอพี่เขา และก็ได้เจอ แต่ผมก็ไม่กล้าจะทักพี่เขาก่อน เพราะเรื่องเมื่อคืนผมยังไม่กล้าพอจะเงยหน้ามองพี่เขาเต็มตา ทำได้แค่แอบมองและชำเลืองตามองเท่านั้น

ด้านแสงโสมเมื่อลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กของตนเองมาถึงควอนตั้งใจจะไม่สนใจ แต่หัวใจเจ้ากรรมกลับเต้นเร่ารุนแรงหนักหน่วงผิดจังหวะจนหงุดหงิดแล้วเอ่ยถามอีกฝ่ายออกไปอย่างห้ามปากตัวเองไม่ได้

“มายืนโง่ทำไมตรงนี้” แสงโสมก็คือแสงโสม อย่าหวังจะได้ยินคำพูดอ่อนโยนนุ่มนวลจากปากแข็งกระด้างของเขา

“คะ...คือผมมารอส่งพี่บิ๊กครับ”

“ฉันขอให้นายมาส่งเหรอถึงต้องมารอส่ง” ตอนนี้เวลาหกโมงเช้า และตอนนี้ป้าทิพย์ นิ้งกำลังเตรียมมื้อเช้าให้คนหน้าหวานตรงหน้าอยู่ ส่วนลุงเอกก็รดน้ำต้นไม้ที่สวนหลังบ้าน

“ไม่ครับ ควอนอยากมาส่งเองฮะ”

“น่ารำคาญ” พูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินลงบันไดไปยังรถยนต์คันหรูที่จอดอยู่โรงจอดรถไม่ไกลจากตรงนี้เพียงแค่สิบก้าวเดิน

“อะ...เออพี่บิ๊กครับ พี่บิ๊กครับ” ผมร้องเรียกพี่เขาพร้อมกับวิ่งตามพี่เขาไปติดๆ และมือของพี่เขาที่กำลังจะเปิดประตูรถก็หยุดพร้อมกับพี่เขาหันมามองผมด้วยสายตาไม่พอใจ

“อะไรอีกวะ”

“พี่จะไปกี่วันครับ”

“แล้วจะอยากรู้ไปทำไม”

“คะ...คือพอดีว่า...”

“ติดอ่าง ติดอ่างอยู่นั่นแหละ เวลาพูดกับฉันหัดมองหน้าหน่อยไม่ใช่ก้มมองตีนตัวเอง ถ้ากลัวฉันก็ไม่ต้องเสนอหน้ามาใกล้ฉันแบบนี้ ฉันรำคาญ” พูดพร้อมกับใช้มือข้างที่วางมาเชยคางเล็กบีบให้แหงนเงยขึ้นด้วยความหงุดหงิดตัวเอง และเขาก็เผลอบีบแรงจนทำให้คนตัวเล็กกว่าเจ็บจากแรงบีบ

“อ๊ะ...พี่บิ๊กผมเจ็บ” มือเล็กยกขึ้นมาจับมือหนาที่บีบคางตัวเองให้ปล่อย

“สำออย! แค่นี้ก็เจ็บ ผู้ชายที่ไหนเขาสำออยแบบนี้ แมนๆ หน่อยดิเว้ย!” แล้วก็สะบัดมือที่บีบคางเล็กออกแล้วกระชากเปิดประตูรถแล้วเอากระเป๋ายัดไปในรถไว้เบาะข้างคนขับก่อนจะนำพาตัวเองไปนั่งประจำที่คนขับ

“ผมเจ็บจริงนิครับ พี่บิ๊กบีบคางผมแรง” ควอนยังคงยืนย้ำแล้วก็รีบเอ่ยต่อพร้อมกับดึงประตูที่เขากำลังจะปิดรั้งไว้

“ดะ...เดี๋ยวก่อนครับพี่บิ๊ก” แม้จะกลัวคนที่จ้องมาทางตนด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

“อะไรของมึงอีกวะ!” คำหยาบเริ่มหลุดออกมาจากปากของแสงโสมอย่างห้ามปากไม่ได้

“คือพี่บิ๊กจะไปกี่วันครับ เผื่อพี่ไปหลายวันแล้วกลับมาไม่เจอผมพอดีผมกับเพื่อนๆ จะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหลังทำรายงานเสร็จครับ” ควอนรีบบอกเรื่องของตนเองให้จบ เพราะตอนนี้สายตาของพี่เขาบอกว่าตายแน่ถ้ายังไม่พูดให้จบ

“หนึ่งอาทิตย์ จะไปไหนก็ไปสิไม่ต้องมาบอกกู แล้วปล่อยมือจากประตูรถกูได้แล้ว เดี๋ยวกูตกเครื่อง” แล้วก็กระชากปิดประตูรถเต็มแรงของตนเองโดยไม่สนว่าควอนจะชักมือกลับทันหรือไม่ทัน และเมื่อปิดประตูรถแล้วก็ติดเครื่องยนต์แล้วกระชากตัวออกไปจากโรงจอดรถทันที ส่วนควอนก็ได้แต่มองตาม

“คนอะไรยิ่งเกรี้ยวกราดยิ่งหล่อ” พึมพำมองตามหลังรถที่แล่นออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้ายืนขาสั่นด้วยความหวาดกลัวแต่พอเขาไปแล้วก็ยิ้มออก

ควอนกับเพื่อนๆ คุยกันแล้วว่าจะไปเที่ยวหลังทำรายงานเสร็จ และทั้งสี่คนก็ลงความเห็นกันว่าจะไปเที่ยวภูเก็ตกัน ไปใกล้ๆ ก่อนปิดเทอมค่อยไปเชียงใหม่บ้านของชานมกับชาเขียว แต่ครั้งนี้ไปภูเก็ตไปบ้านของทัพฟ้าดีกว่า และการมาค้างบ้านของแสงโสมโดยที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ทำให้ทุกคนสนุกสนานได้แบบไม่ต้องเกรงใจเจ้าของบ้าน แต่ใครจะ

“เด็กๆ อยากได้ผลไม้บอกป้าเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวป้าเอาขึ้นมาให้จ้ะ” ป้าทิพย์ที่เอาขนมของว่างและน้ำดื่มขึ้นมาให้ควอนกับเพื่อนควอนบนห้องนอนชั้นสองบอกทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไป

“ไม่เป็นไรหรอกครับป้าทิพย์ ควอนกับเพื่อนจัดการเองได้ครับ ป้าทิพย์กับพี่นิ้งพักเถอะครับ” ควอนเอ่ยอย่างเกรงใจทั้งสอง

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ป้ากับนิ้งอยากทำ อีกอย่างก็ไม่ได้หนักหนาอะไรด้วยคุณควอน”

“ขอบคุณนะครับป้า / ขอบคุณค่ะป้า” แล้วทั้งสี่คนก็ประสานเสียงกันขอบคุณป้าทิพย์กับนิ้งที่เอาเสบียงมาส่งให้พวกตน

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่กับป้าทิพย์ดีใจมากที่เห็นน้องๆ ทุกคนมาที่นี่ บ้านของเราจะได้ไม่เงียบเหงาค่ะ มาบ่อยๆ ก็ดีนะคะ” นิ้งเอ่ย

“มีอะไรบอกป้ากับพี่นิ้งเลยนะคะคุณควอน เดี่ยวป้ากับพี่นิ้งจัดการให้จ้ะ”

“ครับผม ขอบคุณนะครับ” ควอนขอบคุณอีกครั้งก่อนจะมองป้าทิพย์กับพี่นิ้งเดินออกไปจากห้องของตนเองแล้วหันมาสนใจเพื่อนๆ ที่กำลังช่วยกันห้าข้อมูลทำรายงานส่งอาจารย์

“ควอนพี่บิ๊กของนายเมื่อไหร่พวกกูจะได้เจอเนี่ย เห็นมึงพูดถึงพี่เขาบ่อยมาก” น้ำเสียงห้าวของทัพฟ้าเอ่ยถามเพื่อนที่ทิ้งตัวนั่งข้างๆ ตน เพราะคิดว่าการมาบ้านของควอนจะได้เจอแสงโสม

“เดี๋ยวคงได้เจอแหละ พี่เขาไปธุระที่กรุงเทพฯ น่ะ” ควอนบอกยิ้มๆ

“พี่เขาขยันเนาะ เท่าที่ฟังควอนเล่าทำงานตลอดเลย” ชานมเอ่ยขึ้นบ้าง

“ขยันมากเลยแหละ และหล่อด้วย” ควอนเอ่ยชมชายหนุ่มพร้อมกับใบหน้าขาวใสของควอนซับเลือดฝาด

“หล่อน่ะแค่ไหนกันเชียว อยากเห็นเหมือนกันได้ยินแต่นายพูดว่าหล่อมาก ก็อยากเห็นเหมือนกันหล่อสู้ไอ้ทัพฟ้าของพวกเราได้รึเปล่า” ชาเขียวเอ่ยขึ้นบ้างพร้อมตบไหล่ของทัพฟ้าแรงๆ

“แล้วทำไมควอนหน้าแดง” ชานมถามอย่างสงสัย

“ก็อากาศร้อน ลดอุณหภูมิแอร์ก่อนนะ ร้อนมากขนาดเปิดยี่สิบห้าองศาแล้วนะเนี่ย” พูดพร้อมกับเอื้อมไปคว้ารีโมทแอร์มากดปรับอุณหภูมิให้ต่ำลง

“ร้อน....ร้อนก็ร้อน” ชาเขียวเอ่ยเบาๆ แล้วก็หันมาสนใจรายงานตรงหน้าตัวเองต่อ

“คืนนี้เราจะทำอะไรกินดีพวกมึง กูว่าเราไปตลาดกันไหม ซื้อมาทำกินเองดีกว่า ไม่อยากรบกวนพี่นิ้งกับป้าทิพย์ว่ะ” ทัพฟ้าเอ่ยเสนอเมื่อตอนนี้เห็นว่าหาข้อมูลทำรายงานใกล้จะเสร็จแล้ว

“ใช่ๆ ฉันเห็นด้วยกับทัพฟ้า” ชานมเอ่ยดัน

“เอางั้นก็ได้ งั้นพอแค่นี้ก่อนคืนนี้ค่อยมาทำต่อก็ได้ เหลือไม่เยอะแล้วเนาะ” ผมบอกเพื่อนๆ พร้อมกับก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง

“อือ เอางั้นก็ได้ตอนนี้สี่โมงเย็นแล้ว” ชาเขียวปิดโน้ตบุ๊กพร้อมกับปิดหนังสือตรงหน้าตัวเองลงทันที

แล้วควอน ทัพฟ้า และชานมก็พากันเก็บข้าวของของตนเองพร้อมปิดโน้ตบุ๊กของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะพากันออกจากห้องไปตลาดสดที่อยู่ห่างจากบ้านเพียงแค่ห้าสิบเมตร คืนนี้ทั้งสี่จะค้างด้วยกัน ตอนแรกชานมป้าทิพย์จัดห้องพักให้ไว้ให้เพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม แต่เธอยืนยันจะนอนกับเพื่อนๆ และเพื่อนๆ ก็ตกลงเพราะชานมก็ไม่เหมือนผู้หญิงอยู่แล้ว

เที่ยงคืนกว่าแสงโสมมาถึงบ้านและขณะจะเข้าห้องนอนของตัวเองก็เห็นไฟในห้องของควอนที่ลอดออกมาจากช่องประตูข้างล่างอยู่เลยเดินไปดูว่าทำอะไรอยู่ มือที่ยกค้างกำลังจะเคาะประตูห้องก็ยกค้างไว้เมื่อนึกได้ว่าคนหน้าหวานนัดเพื่อนมาค้างที่บ้าน และตอนนี้อาจจะทำรายงานกันอยู่ก็ได้ มือใหญ่จึงค่อยๆ เปิดแง้มผลักประตูเพื่อแอบดู ให้ตายสิ เขาไปมีนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ปากบอกว่าไม่ชอบควอนรำคาญควอน แต่การไม่เจอหน้าหลายวันทำให้เขาหงุดหงิดมากกว่าสิ่งใดตอนนี้

พอประตูที่เปิดแง้มออก แสงโสมก็โผล่หน้าไปชะโงกมองดูคนข้างในห้อง และก็ได้เห็นว่าทุกคนนอนหลับหมดแล้วเพียงแต่ลืมปิดไฟไว้เท่านั้นเอง และสายตาดุดันของแสงโสมก็มองจ้องไปยังร่างเล็กทั้งสองที่นอนกอดกันกลมบนเตียงนุ่ม ส่วนอีกสองคนนอนที่พื้นห้อง

และนั่นแหละภาพนั้นมันทิ่มตำตาของเขาอย่างจัง คนที่กอดกันกลมกับผู้หญิงนั้นคือควอน ควอนนอนกอดกันผู้หญิง ‘หรือว่าจะเป็นแฟนมันวะ’ ถามตัวเองในใจ แต่จะเป็นใครก็ช่าง ตอนนี้เขาโกรธจนแทบบ้า โกรธจนอยากเดินไปกระชากร่างที่กอดกันกลมออกจากกัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ที่ทำได้แค่ปิดประตูแล้วเดินกัดกรามความคุมอารมณ์ตัวเองกลับไปห้องของตนเอง ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปัง!

พอเข้ามาในห้องก็กระแทกปิดประตูด้วยความกรุ่นโกรธแล้วก็รีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าโยนทิ้งไปยังตะกร้าโดยไม่สนใจว่าจะเสื้อผ้าของตัวเองจะลงตะกร้าไหม เพราะตอนนี้ภาพของควอนกับผู้หญิงบนเตียงมันกำลังตามมาหลอกหลอนเขาจนทำให้เขาเป็นบ้า

“โธ่เว้ย!” มือใหญ่ตบเปิดฝักบัวด้วยความโกรธโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเดือดดาดขนาดนี้ด้วย แค่เห็นควอนกอดกับผู้หญิงบนเตียงเอง

“แม่งเชี้ย! มึงเป็นอะไรของมึงไอ้บิ๊ก” ด่าว่าตัวเองแล้วแหงนเงยหน้าขึ้นรับน้ำจากฝักบัวที่กำลังไหลอาบร่างตัวเขา

“อ่า...แม่ง.....กูเป็นอะไรไปวะ ก็แค่ไอ้เด็กนั่นมีแฟน แล้วกูเป็นอะไร” เขายังคงหงุดหงิดไม่หายและที่ทำให้เขาต้องเดือดดาลอยู่ตอนนี้เพราะตัวเขาเองนั่นแหละที่ไม่รู้เป็นอะไร ไปกรุงเทพฯ ไปประชุมที่สาขาใหญ่ก็เอาแต่นั่งเหม่อและนึกถึงแต่หน้าหวานๆ ของเด็กหนุ่มหน้าหวานอย่างควอน

“ไอ้เด็กเวร!” ปิดฝักบัวแล้วก็เดินไปเปิดน้ำอุ่นให้เต็มอ่าง ตอนนี้เขาเครียดปวดหัวนอนไม่หลับแล้ว ทั้งๆ ที่ง่วงตาแทบปิดตอนขับรถกลับมาบ้าน เขาเลือกเดินทางมาไฟลท์ดึกเพราะว่าเวลาดึกถนนจะโล่งทำให้เขาขับรถจากสนามบินมาบ้านได้สะดวกรถไม่ติด และตอนนี้คนที่ทำให้เขาปวดหัวก็คือควอน

“ถ้าขืนเป็นแบบนี้กูอกแตกตายแน่ กูต้องหาคำตอบกับเรื่องนี้ให้ได้” แล้วขยับตัวเองลงไปนอนแช่น้ำในอ่างอาบน้ำที่ตอนนี้น้ำเต็มเรียบร้อยแล้ว พอได้นอนแช่ในน้ำเขาก็พิงหัวกับขอบอ่างอาบน้ำแล้วหลับตาเพื่อไล่ความเครียดความเดือดดาลของตัวเองออกไปจากสมอง

“ไอ้ควอนไอ้เด็กบ้า” แล้วก็ต้องลืมตาขึ้นมาเมื่อลืมภาพก่อนหน้าไม่ได้แล้วก็ดำลงไปในน้ำเพื่อลบภาพที่เจอก่อนหน้าออก และไม่รู้ด้วยว่าคืนนี้จะได้นอนและออกจากห้องน้ำได้ตอนไหน เพราะในหัวใจของเขามันร้อนรุ่มไปด้วยไฟโกรธ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel