บท
ตั้งค่า

Ep : 3.ยิ่งเห็นยิ่งรำคาญตา

กับข้าวมื้อเย็นวันนี้มีผัดพริกแกงไก่ ผัดผักรวม ผัดผักบุ้ง แกงเขียวหวานเนื้อ และไข่เจียวหมูสับ ทุกอย่างล้วนเป็นเมนูอาหารที่แสงโสมชอบทั้งนั้น ป้าทิพย์บอกมา และตอนนี้ผมก็นั่งรอพี่เขาลงมาทานมื้อเย็นพร้อมกับผม ผมยอมรับตอนนี้ผมยิ้มแทบปากจะฉีก ก็ผมดีใจที่จะได้นั่งทานมื้อเย็นกับพี่เขา และเวลาที่รอคอยก็มาถึงเมื่อพี่เขาเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหารด้วยชุดลำรอง กางเกงขาสั้นเสื้อยืดคอวี ตอนนี้พี่เขานั่งลงหัวโต๊ะแล้ว ผมจึงพยักหน้าให้พี่นิ้งตักข้าว

แสงโสมมองอาหารตรงหน้า และก็อดยิ้มในใจไม่ได้เพราะบนโต๊ะมีแต่เมนูที่เขาชอบทั้งนั้น ก่อนจะเริ่มลงเมื่อทานเมื่อนิ้งตักข้าวให้โดยไม่ปริปากพูดอะไรออกมาและถามเพื่อนร่วมโต๊ะวันนี้เลยสักคำ เขาไม่ชอบหน้าหวานๆ ใสซื่อของควอน ยิ่งเห็นยิ่งรำคาญ มองยังไงเขาก็หงุดหงิด ซึ่งแสงโสมเองก็ไม่รู้และหาสาเหตุให้ความรำคาญตาให้ตัวเองให้กับเรื่องนี้ไม่ได้เลย จนทุกวันนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจความหงุดหงิดรำคาญที่มีต่อควอนจนตอนนี้

“อร่อยไหมครับพี่บิ๊ก” ผมรวบรวมความกล้าถามพี่เขาเมื่อพี่เขาตักข้าวคำแรกเข้าปาก

“อือ ก็ใช้ได้” ไม่ใช่แค่ใช้ได้แต่มันอร่อยมากต่างหากล่ะ แต่เขาเลือกที่จะบอกแบบนี้

คำตอบของแสงโสมทำให้ควอนถึงกับหน้าจ๋อย แต่ก็ฝืนยิ้มดีกว่าเขาไม่ทาน

“ครับ ผมทำไม่ถูกปากพี่สินะครับ”

“ไม่หรอก แกงเขียวหวานเนื้อก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ นายก็ทานสิจะชวนคุยทำไม แต่ก็กินได้แหละ ว่าแต่นายทำเองหมดเหรอ” เนี่ยอีกอย่างเขาไม่ชอบที่คนหน้าหวานคนนี้เข้าครัว ทำตัวเหมือนเป็นผู้หญิงเข้าไปทุกวัน แม้จะไม่ค่อยได้เจอแต่ก็รู้ว่าแต่ละวันควอนทำอะไรบ้างหลังจากกลับมาจากมหาลัย ส่วนมากจะอยู่ในครัวช่วยป้าทิพย์กับนิ้งทำอาหาร

“ไม่ครับ ผมทำแค่แกงเขียวหวานกับไข่เจียวหมูสับครับ นอกนั้นและอย่างอื่นผมเป็นลูกมือช่วยป้าทิพย์กับพี่นิ้งครับ”

แสงโสมทำเพียงแค่พยักหน้ารับรู้แล้วทานข้าวต่อโดยไม่ปริปากพูดอะไรต่ออีก ส่วนควอนก็ก้มหน้าก้มตาทานมื้อเย็นเงียบๆ และแอบมองคนตัวโตไปด้วยสายตาหลงใหล จนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้แสงโสมเติมข้าวสามรอบ บอกไม่อร่อยแต่เหมือนจะอร่อยต่างหากเพราะเติมข้าวตั้งสามรอบ และก็ทำให้ป้าทิพย์กับนิ้งที่อยู่ในห้องรับประทานอาหารด้วยพากันส่งยิ้มให้กันเมื่อเริ่มเห็นสัญญาณดีๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว ส่วนควอนก็ได้แต่ยิ้มไม่หุบกับสิ่งที่เห็น

“ฉันแค่หิว กับข้าวก็งั้นๆ” แสงโสมเห็นทุกคนยิ้มและเขาก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองทานเยอะเติมข้าวตั้งสามครั้ง

“ครับ” ควอนเอ่ยตอบสั้นๆ แล้วมองคนหน้าตึงเดินออกจากห้องรับประทานอาหารไป แต่แล้วเขาก็หยุดแล้วเอ่ยสั่งงานกับป้าทิพย์

“ป้าครับพรุ่งนี้ผมจะเข้ากรุงเทพฯ รบกวนป้าขึ้นไปจัดกระเป๋าให้ผมด้วยนะครับ”

“ค่ะคุณบิ๊ก”

แล้วเขาก็เดินจากไป ผมก็ได้แต่นั่งมองพี่เขาเดินหายลับไปจากสายตาก่อนจะหันมามองอาหารตรงหน้าและจานข้าวของเขาที่ทานจนเกลี้ยงไม่มีข้าวติดจานสักเม็ด แล้วมุมปากของผมก็หยักยิ้ม แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนแอบรักอย่างผม

“คุณบิ๊กก็แบบนี้แหละค่ะ คุณบิ๊กเป็นคนใจดีค่ะ เดี๋ยวป้าขอไปเก็บกระเป๋าให้คุณบิ๊กก่อนนะจ๊ะ นิ้งเธออยู่รอจนคุณควอนทานอิ่มนะ” ป้าทิพย์เอ่ยพร้อมสั่งงานหลานสาวตัวเอง

“อะ...เออ....ให้ผมทำได้ไหมครับป้าทิพย์” ควอนตัดสินใจขอออกไป เพราะอยากไปเห็นห้องนอนของชายหนุ่มสักครั้ง

“คะ....คือว่า....”

“นะครับป้าทิพย์ครับ”

“จะดีเหรอคะ ป้าว่า...”

“นะครับ ผมอยากทำ อีกอย่างผมมีเรื่องจะคุยกับพี่บิ๊กด้วยครับ”

“งั้นก็ได้ค่ะ ป้าฝากคุณควอนด้วยนะคะ กระเป๋าอยู่หลังตู้เสื้อผ้าของคุณบิ๊กน่ะค่ะ ใช้กระเป๋าใบเล็กนะคะ คุณบิ๊กไม่ชอบเอาเสื้อผ้าไปเยอะ จัดไปแค่สามชุดก็พอค่ะ” ป้าทิพย์ลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยอมให้ควอนทำ ก็ใครจะขัดใจคนหน้าหวานน่ารักได้ล่ะ

“ครับป้า งั้นผมฝากเก็บด้วยนะคะ”

“อิ่มแล้วเหรอคะคุณควอน” นิ้งเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดื่มน้ำ

“ครับ ผมจะไปเก็บเสื้อผ้าให้พี่บิ๊กครับ ผมไปนะครับ”

“ค่ะ”

แล้วป้าทิพย์กับนิ้งได้แต่มองตามหลังของควอนที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปจากห้องรับประทานอาหารด้วยความตื่นเต้น

พอทานมื้อเย็นอิ่มขึ้นมาบนห้องนอนก็รีบเปลี่ยนชุดออกทันที เพราะตอนนี้เขาอึดอัดมาก วันนี้เขากินข้าวเยอะกว่าทุกวัน พอเปลี่ยนเป็นชุดสบายแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ส่วนเสื้อก็ถอดโยนทิ้งในตะกร้าตามกางเกงไป จะเหลือก็แต่บ๊อกเซอร์แล้วเปลือยท่อนบน เมื่อจัดการเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อนล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะออกมาทำงานแล้วค่อยนอน

ควอนเคาะประตูห้องนอนของแสงโสมเบาๆ แต่ก็เงียบจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้ามาโดยที่เจ้าของห้องไม่ได้อนุญาต และพอเข้ามาก็เดินไปยังตู้เสื้อผ้า และก็ได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำดังก็ได้แต่ยิ้มเพราะรู้แล้วว่าเจ้าของห้องอยู่ไหน ควอนมองกระเป๋าเดินทางใบเล็กบนหลังตู้เสื้อผ้าที่ตัวเขาเอื้อมไม่ถึง พยายามเขย่งและกระโดดเอากระเป๋าโดยไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าของห้องเสร็จธุระในห้องน้ำออกมายืนพิงประตูห้องน้ำจ้องมองตนอยู่

“ทำไมอยู่สูงแบบนี้นะ ฮึบ!”

พึมพำพร้อมกระโดดเอากระเป๋าอีกครั้ง แล้วจังหวะที่กระโดดขึ้นแล้วตกลงมายังพื้นควอนเสียหลักจะล้มลงกับพื้น แล้วจังหวะนั้นเองคนที่ยืนพิงประตูห้องน้ำที่จ้องมองอยู่เห็นจึงกระโจนเข้าไปรับอีกคนที่กำลังจะล้มกระแทกพื้นอย่างไม่รู้ตัว แล้วนั่นเองอะไรก็เกิดขึ้นได้ยิ่งกว่าฉากในละคร เมื่อร่างเล็กกว่าตกอยู่ในอ้อมกอด โดยมีวงแขนของคนตัวโตกว่าตระกองกอดรัดไว้และร่างใหญ่ก็ทาบทับคร่อมอยู่เหนือร่างส่วนปากหนาได้รูปก็ประกบกับริมฝีปากอมชมพูของควอนราวกับจงใจ

ดวงตาของควอนเบิกกว้างเมื่อรับรู้ถึงความนุ่มของริมฝีปากหนา มือเล็กของเขาก็เท้ายันไหล่กว้างของคนเหนือร่างไว้ ส่วนแสงโสมเองก็ได้แต่จ้องดวงตาของคนใต้ร่างนิ่งอยู่แบบนั้น สัมผัสอุ่นนุ่มแบบนี้ทำให้เขาใจเต้นแรงผิดจังหวะ ทั้งๆ ที่ไม่ควรจะเป็นแบบนี้ และแสงโสมก็รับรู้ได้ถึงแรงเต้นแรงของหัวใจคนใต้ร่างเช่นกัน

แสงโสมดึงสติตัวเองกลับมาอยู่กับปัจจุบัน แม้จะรู้สึกตื่นเต้นกับสัมผัสอุ่นนุ่มนิ่มของริมฝีปากอีกคน แล้วรีบดันตัวเองลุกขึ้นไปยืนก่อนจะตีหน้านิ่งขรึมตำหนิคนตัวเล็กกว่าที่ตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งพับเพียบกับพื้นห้องของตัวเอง

“ใครให้นายเข้ามาในห้องฉัน?” น้ำเสียงกระด้างถามอย่างไม่พอใจ

“คะ....คือผมจะมาเก็บกระเป๋าให้พี่บิ๊กครับ” ควอนก้มหน้ามองมือที่สอดประสานอยู่หน้าตักของตัวเองตอบออกไปเสียงสั่น

“ฉันใช้นายเหรอถึงต้องมา”

“ไม่ครับ”

“แล้วเสนอหน้ามาเพื่อ?”

“ผมขอป้าทิพย์มาเองครับ”

“ยุ่ง ไสหัวไปไหนก็ไป ฉันจะเก็บกระเป๋าเอง อ้อ อย่าเข้ามาในห้องคนอื่นโดยที่เจ้าของเขาไม่อนุญาตอีก ฉันไม่ชอบ”

“ขอโทษครับ”

“ขอโทษเสร็จก็ออกไปรำคาญ”

น้ำตาของควอนปริ่มล้นสองดวงตาทันทีเมื่อสิ้นคำของแสงโสม ร่างเล็กลุกขึ้นโดยไม่เงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยกลัวว่าเขาจะเห็นว่าตัวเองร้องไห้ หนุ่มหน้าหวานเดินก้มหน้าออกจากห้องไปและก็ไม่วายได้ยินเสียงบ่นพึมพำของเจ้าของห้องที่ไล่หลังมา

“น่ารำคาญจริงๆ เลยเว้ย! ”

พึมพำแล้วมองประตูห้องของตัวเอง และพอเห็นว่าร่างเล็กแทรกตัวออกไปแล้วและประตูห้องปิดสนิทแสงโสมก็ยกมือขึ้นกุมอกของตัวเอง ส่วนมืออีกข้างก็แตะริมฝีปากหนาของตัวเอง สัมผัสเมื่อกี้เขาจำได้ว่ามันช่างอ่อนนุ่มแค่ไหน และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขาควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้ บังคับไม่ให้มันเต้นแรงไม่ได้

“อา...เป็นอะไรของมึงไอ้บิ๊ก แค่อุบัติเหตุ แค่อุบัติเหตุ”

แตะริมฝีปากและกุมหน้าอกตัวเองเดินไปทิ้งตัวนั่งที่เตียงกว้างของตัวเองราวกับคนละเมอ ตอนนี้ลืมไปเลยว่าจะอ่านเอกสารทำงานแล้วค่อยนอน เพราะตอนนี้แสงโสมได้ล้มตัวลงนอนบนเตียง มืออีกข้างกุมหัวใจที่เต้นแรงผิดจังหวะไม่ยอมหยุด อีกมือก็ลูบไล้ริมฝีปากหนาตัวเองไปมา และในหัวก็มีแต่ภาพเหตุการณ์เมื่อกี้เล่นซ้ำวนไปวนมา

ด้านควอนเมื่ออกมาจากห้องของแสงโสมก็ตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง พอเข้าไปในห้องก็ทิ้งตัวซุกหน้าลงกับหมอนหนุนแล้วปล่อยเสียงร้องไห้สะอื้นออกมา ผมร้องไห้ราวกับเด็กและเหมือนผู้หญิงที่เวลาโดนคนที่เรารักแล้วเขาไม่รักตอบ แถมยังผลักไสเราอีก ผมเจ็บ ผมเจ็บที่อกซ้ายของผม แต่ในความเจ็บก็มีความสุขแฝงอยู่ เพราะเมื่อกี้ผมได้รับสัมผัสจากริมฝีปากหนาของพี่เขา แม้ว่าจะเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่นั่นก็คือจูบแรกของเรา ผมไม่ได้หวังมากไปใช่ไหมว่าในอนาคตพี่เขาจะรักผู้ชายแบบผม แต่คงเป็นได้แค่ความคิดเพ้อฝันเท่านั้น เพราะพี่เขาเกลียดผม ไม่ชอบหน้าผม แถมยังมีแฟนแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเธอสวย ส่วนผมไม่สวยแถมเป็นผู้ชายอีก ผมไม่มีนม ไม่มีอะไรเหมือนผู้หญิงเลยนอกจากหน้าตาที่เหมือนผู้หญิง

ฮือๆๆๆ

“พี่บิ๊กเขาชอบผู้หญิงไอ้ควอน อึก ฮือๆๆ” ร้องไห้มือทุบตีหมอนไปและบอกย้ำตัวเองไปด้วย

ไลน์!

ไลน์!

ไลน์!

คนที่กำลังร้องไห้เสียใจดีดตัวลุกขึ้นทันทีเมื่อเสียงแจ้งเตือนของไลน์ดังขึ้นติดต่อกันหลายๆ ครั้ง มือเล็กเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้มออกแล้วก็เลื่อนมาแตะริมฝีปากของตัวเองก่อนจะยิ้มน้อยๆ แม้พี่เขาจะเกลียดแต่อย่างน้อยเมื่อกี้ก็ทำให้ผมละลายได้ แม้มันเป็นแค่อุบัติเหตุก็ตาม

“ควรดีใจกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ สิควอน ถึงพี่เขาจะพูดให้เราเจ็บก็ตาม”

บอกตัวเองแล้วเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ที่มีเสียงแจ้งเตือนไลน์ดังไม่หยุดอยู่โต๊ะข้างหัวเตียงมาเปิดดูว่าใครกันกระหน่ำส่งมารัวๆ แบบนี้ พอเปิดดูเห็นว่าเป็นเพื่อนของตนเองก็ยิ้มออกมาโดยลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังทุกข์เศร้าใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อยู่ ดวงตาที่ชื้นไปด้วยน้ำตาไล่อ่านข้อความจากทัพฟ้าที่ส่งมา แล้วก็มีไลน์จากชานมและชาเขียวสองแฝดส่งมาด้วย ไลน์นี้เป็นไลน์กลุ่ม และสร้างขึ้นโดยทัพฟ้าเมื่อกี้

‘ไปเที่ยวกันไหม” ทัพฟ้าส่งข้อความถามเพื่อนๆ เมื่อตอนนี้ทุกคนเข้าร่วมในไลน์กลุ่มกันครบแล้ว

‘เที่ยวไหวะ’ ชาเขียวพิมพ์ถามส่งเข้ามาในกลุ่มพร้อมกับส่งสติ๊กเกอร์เท้าค้างรอคำตอบ

‘นั่นดิ เที่ยวไหนพวกมึง’ ควอนส่งถามไปอีกคน

‘แล้วไปแบบวันเดียวกับหรือค้างอ่ะ’ ชานมที่เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มส่งถามกลับมา

‘แล้วพวกมึงอยากไปแบบไหนล่ะ’ ทัพฟ้าถามความเห็นเพื่อนๆ ทุกคน

‘งั้นไปเชียงใหม่บ้านกูไหม’ ชาเขียวเสนอ

‘ไปค้าง’ ควอนถาม

‘ใช่ไปค้างสักสองคืน’ ชาเขียวบอก

‘ก็ดีนะ’ ทัพฟ้าเห็นด้วย

‘พักบ้านเราประหยัด’ ชานมเสนออีก

‘แล้วจะไปวันไหนอ่ะ’ ควอนถามต่อไปอีกพร้อมสติ๊กเกอร์ยิ้มตามไปด้วย

‘นั่นดิพวกมึง’ ชาเขียวพิมพ์

‘พรุ่งนี้ค่อยคุยกันไหม แล้วใครคิดว่าควรไปที่ไหนและไปวันไหนค่อยเสนอกันพรุ่งนี้ตอนพักเที่ยง’ ชานมพิมพ์มา เพราะตอนนี้เธอกำลังจะดูซีรี่ส์จีนอยู่

‘โอเค ตามชานมบอกแล้วกัน งั้นแยกพวกมึง’ คนตั้งกลุ่มส่งข้อความกลับมา แล้วทุกคนก็ส่งสติ๊กเกอร์บอกฝันดีกันแล้วเสียงไลน์ก็เงียบลง

ควอนมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เพิ่งจบการสนทนาไปก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำมานอนพกผ่อน เพราะพรุ่งนี้เขามีเรียนตอนเช้า เรียนบัญชีด้วยสิ เขาต้องนอนพักผ่อนให้เพียงพอไม่งั้นเรียนไม่รู้เรื่อง แต่พอเดินเข้าไปในห้องน้ำส่องกระจกก็ยกมือขึ้นแตะริมฝีปากของตัวเองแล้วความรู้สึกวูบไหวในอกก็กลับมาอีกครั้ง สองแก้มนวลก็ซับสีเลือดขึ้นมาจนเขาต้องก้มหน้ามองอ่างล้างหน้าด้วยไม่กล้าดูสีหน้าของตัวเองในกระจก

“ไอ้ควอนมึงได้แค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว” บอกตัวเองแล้วก็แตะลูบไล้ริมฝีปากอมชมพูตัวเองไปมาก่อนจะเดินไปเปิดฝักบัวอาบชำระคราบเหงื่อไคลของตัวเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel