บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ภาพหลอน

เพ็ญศรีถอนใจเฮือก หล่อนเลี้ยงลูกไม่ดีมาตั้งแต่ต้นจะโทษใครได้นอกจากโทษตัวเองและถึงหล่อนจะปรามลูกได้ไม่ทั้งหมดแค่ไม่ทำให้น่าเกลียดในงานใหญ่ๆ แค่นี้ก็น่าจะพอใจแล้วไม่ใช่หรือ สาวใหญ่ตั้งคำถามและตอบเองในเวลาเดียวกัน

เสียงรถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน เพ็ญศรีเดินออกไปมองแล้วก็ต้องยิ้มเมื่อหนุ่มใหญ่ก้าวลงจากรถ หล่อนสาวเท้าเข้าไปรับเขาถึงหน้าประตูบ้าน นิรุทธ์ยิ้มรับภรรยาใหม่พร้อมกับอ้อมกอดที่เคยกอดหล่อนทุกครั้งที่หล่อนมารับเขา

เขาแต่งงานกับเพ็ญศรีเมื่อสามปีที่ผ่านมา ความที่ภรรยาเก่าจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้เขากลายเป็นพ่อม่ายที่ยังหนุ่ม ความเหงาและการอยู่เพียงลำพังทำให้เขาอยากมีใครสักคนไว้คอยดูแลและเป็นเพื่อน เขาตัดสินใจแต่งงานกับแม่ม่ายลูกสองด้วยความเต็มใจแต่วนัชลูกชายคนเดียวของเขาไม่ยอมรับการตัดสินใจในครั้งนี้

วนัชรับไม่ได้กับการจากไปของแม่ เขาไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อให้ลืมเหตุการณ์ร้ายกับชีวิตแต่การอยู่ห่างพ่อทำให้พ่อหาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน เขากลับมาทวงสิทธิ์การเป็นเจ้าของบ้านแทนแม่ เพ็ญศรีโกรธเด็กหนุ่มที่ไม่ให้เกียรติหล่อนแต่เมื่อเห็นดวงตาเจ็บปวดของเขายามมองพ่อ หล่อนจึงเข้าใจและขอร้องให้นิรุทธ์ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของหล่อนโดยอ้างว่าทิ้งลูกให้อยู่เพียงลำพังไม่ได้

นิรุทธ์รู้สึกดีกับเพ็ญศรีมากยิ่งขึ้นที่หล่อนไม่โต้ตอบความโกรธของวนัช จากวันนั้นนิรุทธ์จึงไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านตัวเองกับบ้านภรรยาใหม่และเมื่อเดือนที่ผ่านมาวนัชบินกลับจากต่างประเทศ เขาจึงโอนบ้านและสมบัติเกือบทุกชิ้นให้เป็นชื่อของลูกชายเพียงคนเดียว วนัชจึงยอมรับเพ็ญศรีในระดับหนึ่งแต่สาวใหญ่คนนั้นไม่มีวันเข้ามาแทนที่แม่ของเขาได้ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหนๆ ก็ตาม

“คราวนี้ไปหลายวันนะคะ ประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอคะ”

“ครับ คราวนี้ได้อยู่กับคุณนานเลยแหละ” เขาโอบกอดหล่อนพาเดินเข้าด้านใน

“คุณจะไปงานศพใครเหรอครับ” เขาก้มมองชุดผ้าไหมสีดำที่หล่อนสวมอยู่

“คุณจามรค่ะ เขาเสียเมื่อตอนสาย ฉันก็ไม่รู้หรอกค่ะเพิ่งรู้ครู่ใหญ่นี่เอง ไปด้วยกันมั้ยคะ” หล่อนเงยหน้ามองเขา ดวงตาของหล่อนหม่นเศร้า

“ทำไมเร็วจัง เขาแข็งแรงดีไม่ใช่เหรอครับ เขาเป็นอะไรครับ” เขารอฟังคำตอบจากหล่อน

“เอ่อ..” เพ็ญศรีตอบไม่ถูกเพราะหล่อนฟังมาจากคนรับใช้ยังสรุปอะไรไม่ได้จนกว่าจะถามพาณีแต่ขณะที่หล่อนกำลังหาคำตอบให้สามีเสียงห้วนก็ดังแทรกขึ้น

“บอกเขาไปสิ มันตายในสระน้ำ”

เสียงดังแรงและเร็วมันก้องอยู่ในหูของหล่อนและฉับพลันใบหน้าขาวซีดของใครคนหนึ่งก็ซ้อนกับใบหน้าของนิรุทธิ์ ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยเลือดสีคล้ำไหลออกทางมุมปากดวงตาไร้แววจ้องเขม็ง หล่อนผงะห่างจากสามี ตาเบิกกว้างตื่นกลัวกับสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า

ใบหน้าซ้อนกับหน้านิรุทธ์เขียวคล้ำมากขึ้น เลือดไหลย้อยจากดวงตาสู่แก้มบวมอืดนั้นสีดำปนเหลือง ริมฝีปากเป่งแสยะแย้มน้ำสีขาวขุ่นไหลทะลักออกมาทางมุมปาก

“มันตายในน้ำ บอกเขาไปสิมันตายในน้ำเหมือนฉัน เหมือนฉัน” เสียงจากปากช้ำเลือดช้ำหนองดังก้องในโสตประสาทของสาวใหญ่ หล่อนผงะถอยกรูด หวาดกลัวสุดขีด

“อ๊ายยยย…..” เพ็ญศรีกรีดเสียงโหยหวนแล้วล้มตึงต่อหน้านิรุทธ์

“คุณเพ็ญ!” นิรุทธ์งงระคนตกใจกับเสียงกรี๊ดของภรรยา เขาไม่เข้าใจสีหน้าท่าทางหวาดกลัวของหล่อน เขายิ้มกับหล่อนอยู่ดีๆ อยู่ๆ หล่อนก็จ้องหน้าเขา ดวงตาเบิกกว้างถอยหลังหนีราวกับเห็นหน้าเขาเป็นภูตร้าย และสุดท้ายหล่อนก็ร้องกรี๊ดล้มฟุบลง

“คุณเพ็ญ คุณเพ็ญ” เขาถลาเข้าไปหาร่างที่กองอยู่กับพื้น ประคองไว้ในอ้อมแขน ปากเรียกชื่อหล่อน ความงุนงงเปลี่ยนเป็นตกใจ

“ใครอยู่ข้างในออกมาเร็ว” เขาหันไปเรียกผู้ช่วย พยอมวิ่งออกมาจากห้องครัว ไฝวิ่งตามมาด้วย

“คุณนายเป็นอะไรคะ” ไฝปากไวร้องถามก่อนจะถึงตัวเจ้านาย

“เป็นลม ไปหายาดม ยาหอมมาเร็ว”

นิรุทธ์ตอบได้เพียงเท่านั้นเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพ็ญศรีเป็นอะไร เขาช้อนร่างไร้สติขึ้นพาไปที่เก้าอี้รับแขกตัวยาว ไฝเดินตามมานั่งจ้องหน้านายหญิง พยอมวิ่งกลับเข้าห้องครัว

“มานั่งทำไม ไปเอายาหอมมา” นิรุทธ์หันมาตวาดใส่ไฝ สาวใช้รนรานออกไป

“สมน้ำหน้า สอพอไม่รู้เวลา” พยอมเดินสวนเข้ามาพร้อมแก้วยาหอมในมือ

“มึงว่าใคร” ไฝเน้นเสียงหงุดหงิด พยอมไม่ตอบเดินยิ้มเข้าไปหานาย ไฝจึงได้แต่สะบัดหน้า พยอมมียาหอมหล่อนต้องมียาดม หล่อนวิ่งไปที่ตู้ยาในห้องครัวครู่เดียวก็วิ่งกลับเข้ามาที่ห้องรับแขก

“นี่ค่ะยาดม” ไฝยื่นยาดมให้นิรุทธ์ เขารับมาเปิดจ่อที่จมูกสาวใหญ่

เขาประคองเพ็ญศรีให้ดื่มยาหอมจากมือพยอมก่อนหน้านี้ กลิ่นยาดมไม่ได้ช่วยให้เจ้าของบ้านฟื้นคืนสติเร็วขึ้นสักนิด นิรุทธ์มองหน้าภรรยา ใบหน้าของหล่อนซีดเผือด เขาแตะมือที่แก้มของหล่อนแล้วก็ต้องดึงมือกลับรวดเร็วสีหน้าตื่นตระหนก

“เป็นอะไรคะคุณรุทธ์” ไฝถามทันทีที่เห็นกิริยาของนายผู้ชาย

“ปละ เปล่า” หนุ่มใหญ่ตอบสาวใช้ สายตามีคำถามของเขาจับนิ่งที่ใบหน้าเพ็ญศรี

แก้มของหล่อนเย็นเฉียบ เย็นเหมือนน้ำแข็งมือของเขาแตะที่แก้มนุ่มของหล่อนแท้ๆ แต่ทำไมเหมือนมือจุ่มลงในน้ำเย็นจากช่องแช่แข็ง

“ไม่เป็นไรแล้วชักมือกลับทำไมคะ แก้มคุณนายร้อนเหรอคะ คุณนายมีไข้เหรอคะงั้นพาไปส่งโรงพยาบาลมั้ยคะอิฉันจะให้เพิ่มเตรียมรถ” ไฝซักไซ้ด้วยความอยากรู้คำตอบ หล่อนเห็นนิรุทธ์ตกใจมาก กระชากมือกลับทันทีที่แตะถูกแก้มเพ็ญศรี พยอมเห็นเช่นเดียวกับหล่อน

“ไม่ต้อง คุณดาอยู่รึเปล่า ไปตามมาซิ” นิรุทธ์หันมาจ้องหน้าแม่บ้าน

“ดาอยู่นี่ค่ะ แม่เป็นอะไรเหรอคะอารุทธ์” ดาลัดเดินเข้ามาในห้องรับแขก หล่อนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องของหล่อน เสียงกรี๊ดเมื่อครู่หล่อนได้ยินแว่วๆ เท่านั้นคิดว่าคนข้างบ้านทะเลาะกันจึงไม่สนใจ

แต่ตอนนี้แม่ของหล่อนนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา ใบหน้าซีดขาว เสียงร้องที่ได้ยินเป็นเสียงแม่ของหล่อนอย่างนั้นหรือ หล่อนก้าวยาวๆ ไปที่โซฟา

“แม่คะ แม่ แม่เป็นอะไรคะ” ดาลัดจับแขนแม่เขย่า ปากร้องเรียกไปด้วย นิรุทธ์มองมือลูกเลี้ยง ดาลัดจับต้องตัวเพ็ญศรีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขามองหน้าคนเป็นลมอย่างไม่เข้าใจ เมื่อกี้เขาอุปทานไปเองหรือว่าแก้มเพ็ญศรีเย็นจริงๆ

“แม่หนูเป็นลมจ้ะ อาคุยอยู่ด้วยดีๆ อยู่ๆ คุณเพ็ญก็ร้องกรี๊ดล้มลงไป”

“เมื่อกี้คุณแม่ร้องเหรอคะ” ดาลัดมองนิรุทธ์สลับกับแม่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel