บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ผลลัพธ์

“นังอ้อย เข้าบ้านไม่ต้องไปตอบโต้กับเขา เขาก็อยากรู้เหมือนเรานี่แหละ เข้ามา”

อบเชยดึงแขนลูกกลับเข้าด้านในแล้วดึงประตูรั้วปิดล็อคกุญแจต่อหน้าผู้กระหายในเหตุการณ์ร้อนที่เกิดภายในบ้านของพาณี

ไฝกลับเข้าบ้านด้วยความผิดหวัง พยอมยืนมองอยู่ที่หน้าประตูห้องครัว ไฝบอกกับหล่อนว่าจะออกไปฟังข่าวนอกบ้าน เสียงไซเรนท์รถตำรวจกับรถพยาบาลที่แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านพาณีอาจมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นที่บ้านนั้น

“ไงล่ะพี่ไฝ ได้ข่าวเด็ดอะไรมาล่ะ” พยอมเอ่ยถามยิ้มๆ

“นังยอม เอ็งอย่ามายิ้มเยาะข้านะโว้ย ยังไงก็มีข่าวให้แกได้ตลึงละกัน คุณจามรผัวคุณณีจมน้ำตายในสระน้ำโว้ย”

“พูดบ้าๆ เมื่อตอนสายฉันยังเห็นแกเดินดูต้นไม้ในสวนหลังบ้านอยู่เลย” พยอมจ้องหน้าไฝไม่เชื่อที่ไฝพูด

“นั่นมันตอนสาย นี่มันตอนเกือบเที่ยง คนละตอนกันโว้ย คุณจามรจมน้ำตายจริงๆ” ไฝยืนยันเสียงหนัก หล่อนต่อเติมข่าวด่วนนิดหน่อยเพื่อเพิ่มสีสันให้คนฟังอยากรู้อยากเห็นเหมือนหล่อน

“พี่ไฝ พูดเกินไปรึเปล่าตายซะที่ไหน เขาพาส่งโรงพยาบาลแล้ว เดี๋ยวก็หายกลับมา แกนี่ต่อนั่นเติมนี่ได้ไม่อายปากเลยนะ” เพิ่มพูนสามีพยอมเดินเข้ามาทางหลังบ้าน เขาเป็นคนลงไปดึงร่างไร้สติของจามรขึ้นจากสระน้ำ

รถตำรวจแล่นมาจอดหน้าบ้านพาณี เพิ่มพูนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าประตูรั้วบ้าน เขาไม่ได้ยินเสียงคนในบ้านร้องเรียกให้ช่วยแต่ก็พอจะเดาได้ว่าต้องมีเรื่องไม่ดีขึ้นในบ้านหลังนั้น เขาตามตำรวจเข้าไปด้านใน

ภาพที่เขากับตำรวจเห็นเป็นชายคนหนุ่มนอนคว่ำหน้าอยู่กลางสระน้ำ ตำรวจหันมามองหน้ากันและเลยมาที่เขา เขากระโจนพรวดลงไปก่อนคำสั่งของตำรวจ ความหวังลึกๆ ว่าจามรยังมีลมหายใจทำให้เขาไม่ลังเลที่จะโดดลงสระ ขณะที่เขาดึงจามรมาถึงขอบสระร่างของหนุ่มใหญ่ยังอุ่น ตำรวจสองนายรอรับร่างจามรอยู่ด้านบน เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลที่ตามหลังตำรวจเข้ามาช่วยยกร่างชุ่มน้ำขึ้นเปลหาม การปฐมพยาบาลขั้นแรกเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ครู่เดียวเจ้าหน้าที่หนุ่มหันมามองตำรวจกับเพิ่มพูน

“ต้องส่งโรงพยาบาลด่วนครับ” ชายหนุ่มพูดเพียงแค่นั้นร่างในเปลก็ถูกเคลื่อนย้ายออกจากสระน้ำ เพิ่มพูนมองตามพวกเขาแล้วหันมามองตำรวจ

“จะรอดมั้ยครับ”

ไม่มีคำตอบจากปากนายตำรวจหนุ่ม พลอยดาวยืนนิ่งงันอยู่ไม่ห่างนัก เพิ่มพูนเดินเข้าไปหาหญิงสาว

“คุณพลอย เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” เพิ่มพูนถามเกรงใจ พลอยดาวส่ายหน้าแล้วเดินกลับเข้าบ้าน

“คุณรู้จักคนบ้านนี้เหรอครับ” นายตำรวจหนุ่มเอ่ยขึ้น

“ครับ ผมเป็นคนขับรถบ้านติดกัน รู้จักคนในบ้านนี้เพราะเจ้านายเรารู้จักกันครับ”

“งั้นเชิญให้ปากคำในบ้านด้วยครับ ตามมาครับ”

เพิ่มพูนเดินตามนายตำรวจยศร้อยตำรวจโทไปได้แค่ประตูทางเข้าเท่านั้นเพราะตัวเขาเปียกโชกด้วยน้ำ เขาตอบคำถามตำรวจเท่าที่รู้และเท่าที่ตำรวจอยากรู้ ตัวเขาเองก็อยากรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับจามร เขาเชื่อว่าคนที่รู้เรื่องนี้มากกว่าใครคือ พลอยดาว

เขาเดินกลับออกมาด้านนอกรั้วบ้านพาณีขณะรถโรงพยาบาลแล่นออกไปและรถพาณีแล่นเข้ามา เขาหวังแค่ให้หมอช่วยต่อลมหายใจของจามรได้เท่านั้น

ไฝจ้องหน้าเพิ่มพูนด้วยสายตาไม่พอใจ ถึงจะรู้ว่าตัวเองเสริมเรื่องมากไปแต่อาการของจามรที่หล่อนเห็นบนเปลหามนั้นไม่น่าจะรอด

“ไอ้เพิ่ม พูดยังงี้หาเรื่องกันนี่หว่า ข้าไม่ได้ต่อเกินความจริงนะโว้ย คุณจามรอาจไม่รอดก็ได้ จมอยู่ในสระตั้งนานแล้วเอ็งสะเออะรู้ได้ยังไงว่ายังไม่ตาย”

“ก็ฉันลงไปดึงคุณจามรขึ้นจากสระ ตัวแกยังอุ่นอยู่เลย ฉันว่าไม่ตายหรอกถึงมือหมอแล้วเดี๋ยวก็กลับบ้านได้ ยอม หาข้าวให้พี่กินหน่อยหิวข้าวว่ะ” เพิ่มพูนดึงมือภรรยาเข้าห้องครัวปล่อยให้ไฝค้อนลมขวับๆ อยู่เพียงลำพัง

“เออ แล้วข้าจะรอดูว่าคุณจามรจะม้วยมอดหรือว่ารอดอย่างที่แกพูดไอ้เพิ่ม”

สาวใหญ่สะบัดหน้าหันออกจากหน้าห้องครัวไปทางระเบียงหลังบ้าน

วันนี้เป็นวันปลอดโปร่งสำหรับไฝเพราะเพ็ญศรีคุณนายของบ้านออกไปหาเพื่อนกว่าจะกลับก็ค่ำๆ ดาลัดลูกสาวเพ็ญศรีไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ฉลองการเรียนจบ ส่วนชยาผู้พี่ออกไปเที่ยวถ้าไม่เที่ยงคืนหรือตีสองตีสามไม่กลับเข้าบ้านเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเขา ไฝจึงทำตัวเป็นใหญ่ในบ้าน หล่อนนั่งบนเก้าอี้หนังนุ่มในห้องรับแขก ทานอาหารของเจ้านายโดยไม่ฟังคำทักท้วงของพยอมกับเพิ่มพูน

“พี่ไฝ ระวังคุณนายจะเห็นเข้าสักวัน” พยอมเตือนแล้วไม่ได้ผลจึงไม่อยากเตือนอีก

“ถ้าเอ็งกับผัวเอ็งไม่บอกจะรู้จะเห็นได้ยังไง”

“วันซวยของพี่ไงล่ะ” เพิ่มพูนหมั่นไส้อดพูดแดกดันให้ไม่ได้

“ไอ้เพิ่ม มึงว่ากูเหรอ”

“อ้าวๆ พูดแค่นี้ขึ้นกูมึงเลยเหรอพี่ไฝ ยังไงๆ ก็อย่าให้เกินไปนักเพราะแกไม่ใช่เจ้านายฉัน ฉันเตะได้นะโว้ย พี่ก็พี่เถอะ ทำตัวไม่ให้เคารพกูก็ไม่เคารพโว้ย”

“ไอ้เพิ่ม ไอ้..” ไฝโกรธจนลุกจากเก้าอี้เต้นเร่าๆ

“พี่ไฝ พอเถอะ ฉันขอละนะ ฉันกับพี่เพิ่มไม่พูดหรอก” พยอมเดินหนีอีกคน ไฝยิ้มหยันสองสามีภรรยาที่ไม่กล้ามีปากเสียงกับหล่อน

เพิ่มพูนไม่อยากมีเรื่องเพราะไฝเป็นแม่บ้านที่เพ็ญศรีไว้ใจถ้าเขาพูดมากไปไฝอาจยุให้เพ็ญศรีไล่เขากับพยอมออกก็จะมีปัญหามากไปกันใหญ่เพราะเขามีภาระส่งเงินให้แม่ต่างจังหวัดทุกเดือนเพื่อเป็นค่ารถ ค่าอาหารและค่าเทอมลูกสาวสองคนที่ให้แม่ดูแลแทนเขากับภรรยา เขาทำงานในบ้านเพ็ญศรีด้วยความสบายใจ บางครั้งเพ็ญศรีจะเกรี้ยวกราดบ้าง ชยาจะด่าเขาบ้าง ดาลัดจะจิกใช้พยอมบ้างแต่เขาก็อยู่ได้ถ้าเขาหมดความอดทนลูกๆ กับแม่ต้องลำบาก เขาจึงต้องทนและในระยะหลังมานี้เพ็ญศรีพูดดีขึ้น ไม่โวยวายและมองโลกในแง่ดีขึ้นซึ่งเขากับภรรยาก็ไม่เข้าใจ

ความอยากรู้อยากเห็นของไฝไม่หยุดเพียงแค่คำพูดของเพิ่มพูนเท่านั้น หล่อนออกมายืนชะเง้อมองที่ระเบียงหลังบ้านซึ่งสามารถเห็นคนในบ้านพาณีทางด้านหลังบ้านได้ถนัด

“ทำไมเงียบวะ คุณณีกับคุณพลอยยังไม่กลับเหรอวะ” ไฝสอดส่ายสายตาไปเกือบทั่วหลังบ้านแต่ก็มองไม่เห็นใครจึงกลับเข้าบ้าน

พาณีเร่งฝีเท้าเมื่อถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจนำทางไปที่ห้องชันสูตร หล่อนรู้ตั้งแต่อยู่ที่สถานีตำรวจแล้วว่าจามรหมดลมหายใจหลังจากถึงโรงพยาบาลได้เพียงนาทีเดียวเท่านั้น หล่อนเสียใจแต่ไม่มีน้ำตาให้สามีรุ่นราวคราวเดียวกับหล่อนเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเพราะจามรคิดไม่ดีกับพลอยดาว หล่อนไม่รู้ว่าการจบชีวิตของจามรมาจากอะไร พลอยดาวเล่าให้หล่อนกับตำรวจฟังตั้งแต่ต้น หล่อนเชื่อลูกและดีใจที่ลูกไม่ต้องตกเป็นเหยื่อตัณหาของสามีใจทรามที่หล่อนคิดว่าเขาเป็นคนดีมีน้ำใจ

“แม่คะ” พลอยดาวก้าวยาวๆ ตามแม่มาหยุดยืนหน้าห้องชันสูตร

“ไม่เป็นไรลูก แม่แค่อยากเห็นว่าเขาตายจริงๆ ไม่ต้องห่วงจ้ะ”

“พลอยขอโทษ ถ้าพลอยไม่อยู่ตรงนั้นอาจาก็คงไม่..” หญิงสาวจับมือแม่ไว้แน่น เธอรู้สึกผิดกับการเสียชีวิตของจามร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel