บทที่ 2 พ่อเลี้ยง
พลอยดาวเข้าใจความต้องการของแม่ เธอจึงไม่ขัดข้องที่จะให้จามรเข้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเธอเพราะอย่างน้อยเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นสามีของแม่ เธอให้ความเคารพเขาเช่นญาติคนหนึ่งแต่ระยะหลังมานี้ จามรทำตัวสนิทสนมกับเธอมากเกินกว่าญาติและทำให้เธอรู้สึกรังเกียจเขาขึ้นมาเงียบๆ
หญิงสาวนอนเหยียดยาวบนเก้าอี้นอนกึ่งนั่งริมสระน้ำ เสื้อคลุมสีฟ้าพาดคลุมตั้งแต่เข่าถึงหน้าท้องแบนราบ นิตยสารบ้านกางทับหน้าอกอวบ ดวงตาหลับพริ้ม เธอเพิ่งหลับตาได้ครู่เดียวหลังจากอ่านหนังสือเกือบชั่วโมง
เสียงฝีเท้าย่ำบนพื้นกระเบื้องสีน้ำตาลสลับลวดลายขาวส้มริมสระดังเข้ามาใกล้ พลอยดาวปรือเปลือกตาขึ้นมอง ร่างสูงก้าวเข้ามายืนห่างจากเก้าอี้ที่เธอนอนไม่ถึงเมตร เธอดีดตัวลุกนั่งรวดเร็วเมื่อเห็นรอยยิ้มของผู้ที่ถือวิสาสะก้าวเข้ามาถึงตัว
“มีอะไรคะอาจา” พลอยดาวถามก่อนที่จามรจะก้าวชิดขอบเก้าอี้
“อาจะมาว่ายน้ำด้วย” เขาตอบสายตาที่จ้องมองเนินอกอวบของลูกเลี้ยงเป็นประกายวับ
“อ๋อ.ค่ะ เชิญตามสบายค่ะ” เธอพยักหน้าเร็วๆ หยิบหนังสือวางบนโต๊ะเล็กข้างเก้าอี้นอนดึงเสื้อคลุมออกจากตัวเหวี่ยงเท้าลงจากเก้าอี้และลุกขึ้นยืนถอยห่างจากเก้าอี้ขณะสวมเสื้อคลุม
“หนูพลอยจะไปไหนล่ะ ว่ายน้ำเป็นเพื่อนอาหน่อยสิจ๊ะ” หนุ่มใหญ่ยิ้มหวานเชื่อม เดินอ้อมเก้าอี้เข้ามาหาหญิงสาว
“ไม่ค่ะ อาไปว่ายคนเดียวเถอะค่ะ พลอยยังไม่อยากว่ายตอนนี้ พลอยขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะเชิญอาตามสบาย” พลอยดาวมองสายตาของพ่อเลี้ยงก็รู้ว่ากำลังคิดจะทำอะไรกับเธอ ทางเดียวที่เธอต้องทำขณะนี้คือหนีเข้าบ้าน
“เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนล่ะ บอกให้มาว่ายน้ำกับอาไง แม่หนูไม่อยู่หรอกจ้ะไม่ต้องกลัวหรอกนะ มาว่ายน้ำกับอานะคนดี” เขาก้าวยาวๆ ถึงตัวพลอยดาวแล้วคว้าแขนเธอ
“อาจา จะทำอะไร” หญิงสาวตกใจแต่พยายามควบคุมสติไว้ คนอย่างจามรยิ่งดิ้นรนเขาจะยิ่งสนุก เธอต้องนิ่งเพียงอย่างเดียว
“ก็พาหนูไปว่ายน้ำไงจ๊ะ ไปครับคนเก่ง คนสวยของอา ให้อาทาครีมกันแดดให้ก็ได้นะ มาสิ”
เขาจับแขนลูกเลี้ยงแน่นขึ้นแล้วออกแรงดึงเข้ามาหาตัว พลอยดาวผลักอกเขาเต็มกำลังที่มี มือแข็งแรงของพ่อเลี้ยงหนุ่มหลุดจากแขนผงะห่างออกมานิดเดียวเท่านั้น
“ไม่เอาน่ะหนูพลอย อาขอแค่นี้ทำให้อาไม่ได้เหรอจ๊ะ ไปว่ายน้ำกันไงล่ะหนู” เขาก้าวเข้ามาอีกมือสองข้างยกชายเสื้อยืดคอกลมขึ้นทางศีรษะ เหวี่ยงเสื้อทิ้งอย่างไม่ไยดี หญิงสาวตรงหน้านี่ต่างหากที่เขาควรไยดีด้วย
“อาจา รู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังทำอะไร ถ้าแม่รู้อาจะเดือดร้อน” หญิงสาวถอยทีละก้าว หางตามองหาทางหนี
“แม่หนูไม่รู้เพราะอาไม่บอก หนูเองก็ไม่ควรบอก ยังไงๆ แม่หนูก็รักอาเชื่ออามากกว่าหนูอยู่แล้ว”
“ก็ไม่แน่หรอกค่ะ อย่าเข้ามานะไม่งั้นฉันร้องนะ” เธอขู่ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่
“ร้องให้คอแตกก็ไม่มีใครได้ยินหรอกหนู นังอ้อยมันติดละครมันเปิดทีวีดังลั่นบ้านซะขนาดนั้น ตาแสนกับยายอบออกไปพร้อมแม่หนู กว่าจะกลับก็เย็น อาว่าหนูทำตามอาดีกว่านะ มาหาอาสิจ๊ะลูกสาวคนสวย”
“ฉันไม่ใช่ลูกแก คนเลวๆ อย่างแกไม่ควรเป็นพ่อของใคร ออกไปนะ” พลอยดาวถอยจนถึงกำแพงรั้วบ้านท้ายสระน้ำ เธอกำลังจนมุม
จามรสะแหยะยิ้มอย่างน่าขยะแขยงที่สุดในความรู้สึกของพลอยดาว เขาพุ่งตัวเข้าตะครุบร่างเพรียวของพลอยดาว รวบตัวเธอเข้ามากอดรัดตามอารมณ์หื่นกระหายที่พลุ่งพล่านครอบคลุมทั้งร่างของเขา หญิงสาวสะบัดตัวหนีอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยราคะของจามรแต่เขาก็คว้าข้อมือเธอไว้พร้อมกับกระชากไปที่ขอบสระ
“อย่าดื้อให้มันมากนักมันไม่น่ารักรู้มั้ย” เขาตะคอกใส่หน้าเธอแล้วออกแรงดึงกึ่งลากจนถึงขอบสระ ปลายเท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนน้ำที่ปริ่มขอบสระ พลอยดาวขืนตัวสะบัดมือเพื่อให้หลุดจากอุ้งมือจามร
“ปล่อยฉัน ปล่อยฉัน ไอ้เนรคุณ ไอ้สารเลว ปล่อยฉัน ปล่อย ช่วยด้วย ช่วยด้วย” เสียงมีเท่าไหร่หญิงสาวเปล่งมันออกมาทั้งหมด
“ร้องเข้าไป ร้องให้คอแตก ดูซิใครจะกล้ามาช่วยเธอ มานี่” เขาจ้องหน้าเธอแล้วยิ้มอย่างผู้ชนะ วันนี้เขาจะทำให้พลอยดาวยอมสิโรราบต่อเขาให้จงได้ เขาออกแรงกระชากแขนเธออีกครั้ง
“กูบอกให้มานี่นังตัวดี”
“ไม่..ปล่อยฉัน ปล่อย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย ช่วยด้วย” เสียงของเธอก้องไปทั้งผืนน้ำและอยู่ๆ ท่อน้ำทางด้านที่ทำไว้เพื่อว่ายทวนกระแสน้ำก็พุ่งออกโดยไม่มีใครเปิด พลอยดาวหันไปจ้องด้วยความแปลกใจ จามรไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเขากระชากแขนหญิงสาวขณะที่เธอเผลอ ร่างบางถลาเข้ามาหาเขาอย่างเสียการทรงตัวแต่ก่อนที่ร่างนุ่มจะถูกคนเถื่อนพาลงสระฉับพลันน้ำกลางสระก็หมุนม้วนราวกับเกิดพายุทอนาโดกลางมหาสมุทร มันม้วนตัวเป็นเกลียวเคลื่อนเข้าหาฝั่งอย่างรวดเร็ว พลอยดาวตะลึงกับภาพตรงหน้า จามรเบิกตากว้างเขาไม่ทันที่จะกะพริบตาด้วยซ้ำเกลียวน้ำก็พุ่งเข้าใส่เขาอย่างแรง
“โอ๊ย!” หนุ่มใหญ่ร้องด้วยความเจ็บปวดมือสองข้างยกขึ้นบีบคอตัวเอง ร่างหนาหมุนคว้างตามแรงน้ำ ใบหน้าบิดเบี้ยวไร้รูปทรง ดวงตาถลนเหลือกโปนอย่างหวาดกลัวสุดขีด มือที่กำรอบลำคอเกร็งกดแน่นขึ้นๆ ริมฝีปากอ้าค้างบิดเหยเกเหมือนคนพิการ
“โอ๊ะ..อะ..อ่ะ..” เสียงร้องครวญเจ็บปวดทรมานดังแทบไม่ได้ยิน
พลอยดาวถอยหลังกรูด ดวงตาเบิกโต สิ่งที่เธอเห็นคืออะไร น้ำใสในสระเปลี่ยนรูปร่างเป็นเพ็ชฆาตได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้นในน้ำ
“ตูม!..”
“อ๊ายยยยย..” หญิงสาวร้องสุดเสียงถอยหลังรวดเดียวชนกำแพงรั้วริมสระ ร่างหนาของจามรหมุนติ้วแล้วพุ่งลงสระมือสองข้างยังกำแน่นที่ลำคอตัวเอง
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย” พลอยดาวร้องเสียงหลงเหมือนคนเสียสติ เกลียวน้ำสลายแตกกระจายเป็นเม็ดฝนตกสู่พื้น ท่อน้ำพุ่งแรงเมื่อครู่หยุดลงฉับพลับ คลื่นระริกรุมรอบตัวจามรแล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าหาฝั่งกระเพื่อมล้นขอบสระไหลลงร่องรอบสระเงียบหายไป
ร่างบางของหญิงสาวสั่นเทา มือข้างหนึ่งอยู่ที่ปากอิ่ม นิ้วแม่โป้งกับนิ้วชี้ถูกฟันซี่เล็กกัดจนรู้สึกเจ็บ มืออีกข้างกำเสื้อคลุมตรงหน้าอกไว้แน่น ดวงตายังคงเบิกค้างหยาดน้ำใสรื้นขึ้นในดวงตาทั้งสองข้าง
เลือดในกายสูบฉีดจนร้อนไปทั้งร่าง หัวใจเต้นแรงราวกับว่ามันจะปะทุออกมานอกหน้าอก เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ หนึ่ง สอง สาม สี่และห้า ครู่ใหญ่เธอจึงตั้งสติรวบรวมสมาธิให้กลับมา
“อาจามร” หญิงสาวพึมพำขณะเพ่งสายตาไปกลางสระน้ำ
“แม่..” แวบหนึ่งเธอคิดถึงพาณี พาณีต้องรู้เรื่องนี้ พาณีต้องมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับสามีของหล่อน
พลอยดาวออกวิ่งจากท้ายสระเมื่อคิดได้ว่าเธอต้องทำอะไรเป็นอย่างแรก เธอวิ่งเข้าประตูด้านติดต่อกับสระน้ำ ตรงไปที่ห้องรับแขก มองหาน้ำอ้อยเห็นนอนหลับอยู่หน้าทีวีจึงเดินไปหยิบรีโมทมาปิดเครื่องแล้วโยนลงบนเก้าอี้ตามเดิมก่อนจะเดินไปที่โทรศัพท์บนโต๊ะข้างเก้าอี้รับแขกตัวยาว
เสียงเรียกปลายสายดังติดต่อกันหลายครั้งก็ไม่มีวี่แววว่าพาณีจะรับสาย พลอยดาววางโทรศัพท์ลงบนแป้นทรุดนั่งบนเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรง ขาอ่อนจนไม่สามารถฝืนยืนต่ออีกได้ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นอีกครั้งและกดเลข 10 ตัว เสียงเรียกดังสองครั้งก็มีคนรับ