บทที่ 12 ช่วยด้วย
“โอ๊ย อีนี่วอนแล้วมึง” มันยืดตัวขึ้นแล้วคว้าขาของหล่อนกระชากออกมาจากรถ หล่อนกำพวงมาลัยรถไว้แน่น ปากตะโกนขอความช่วยเหลือทั้งที่รู้ว่าไม่มีใครได้ยินหล่อน
ยิ่งดึกถนนสายนี้ยิ่งดูเปลี่ยวเพราะหมู่บ้านที่หล่อนอยู่เลยหมู่บ้านจัดสรรเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตรและห่างจากถนนสายหลักประมาณ 5 กิโลเมตร
เสียงร้องของหญิงสาวดังเพียงสองสามครั้งก็เงียบเสียงเพราะกำปั้นหนักๆ ของไอ้คนหน้าเหี้ยม หล่อนเจ็บจุกจนหมดแรงดิ้นต่อสู้พวกมัน ร่างบางถูกหามออกจากรถเก๋ง พอดีกับเสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายของหล่อนดังขึ้นแต่หล่อนไม่มีเรี่ยวแรงจะคว้ากระเป๋าติดมือมา แรงจะยกมือยังไม่ไหวแล้วอย่างนี้หล่อนจะช่วยตัวเองได้อย่างไร น้ำตาของความหวาดกลัวเอ่อเต็มดวงตาทั้งสองข้าง
“ช่วยด้วย ..ช่วยฉันด้วย” เสียงร้องเบาหวิวขณะที่พวกมันพามาถึงประตูรถตู้
“เปิดประตูกว้างๆ เอามันไปไว้เบาะหลัง ฤทธิ์มากยังงี้ให้อยู่ข้างประตูไม่ได้เดี๋ยวมันใจเด็ดเปิดประตูกระโดดตอนรถวิ่งจะซวยกันหมด”
คนสั่งยังคงสั่งเช่นเดิม ท่าทางของมันคงเป็นหัวหน้าสำหรับงานนี้แต่มันเป็นคนของใคร มันเรียกเสี่ยทุกครั้งที่พูดถึงเจ้านาย เสี่ยคนนั้นเป็นใคร นิสาลักษณ์คิดเร็ว หล่อนไปทำความเดือดร้อนหรือทะเลาะกับเสี่ยคนไหนไว้บ้าง หล่อนทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้และหล่อนก็ต้องเบิกตากว้าง เสี่ยคนที่พวกมันพูดถึงต้องเป็นเสี่ยอู๊ดอย่างแน่นอน
“ไอ้เสี่ยอู๊ดใช่มั้ยที่สั่งพวกแกมาจับตัวฉัน” หล่อนรวบรวมสติขณะถามพวกมัน
“รู้ก็ดีแล้วจะได้เตรียมตัวไปเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของเสี่ย” ไอ้คนที่เป็นหัวหน้าหันมาตอบอย่างรำคาญ มันยิ้มเยาะอยู่ในที นิสาลักษณ์ถึงกับนิ่งอึ้ง
ขณะเดียวกัน โทรศัพท์มือถือในรถของหล่อนดังติดต่อกันหลายครั้ง คนที่โทร.เข้ามารอสายด้วยความกังวล
“ทำไมไม่รับสาย” วนัชบ่นกับโทรศัพท์
“ยัยลักษณ์ไม่รับสายเหรอวะ” กิตติถามมาจากโต๊ะของเขา
“เออ แกลองโทร.ซิ ฉันโทร.สามรอบแล้ว” วนัชวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ กิตติหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองกดเรียกเมนูหน้าจอไล่ชื่อเพื่อนสาวแล้วกดโทร.ออก เสียงเรียกปลายสายดังจนตัดไป
“ไม่รับว่ะ”
“มัวทำอะไรอยู่วะหรือว่า..จะเกิดเรื่องไม่ดี” วนัชเป็นกังวลตั้งแต่นิสาลักษณ์ออกจากห้องทำงาน
“ไม่เป็นไรหรอก คิดมากน่ะ” กิตติยังคิดในทางที่ดี
“แต่ฉันไม่สบายใจ ไปหายัยลักษณ์ที่บ้าน แกรู้จักไม่ใช่เหรอ”
“เออ แกเป็นอะไรวะนัช ท่าทางร้อนรนชอบกล เป็นห่วงอะไรมากขนาดนั้น”
“ไม่รู้ อยู่ๆ ก็รู้สึกขึ้นมาเฉยๆ เหมือนยัยลักษณ์กำลังมีอันตราย ไปเร็วติ แกขับนำทางนะฉันจะตาม”
ชายหนุ่มลุกจากเก้าอี้ปิดโคมไฟที่โต๊ะแล้วเดินออกจากโต๊ะ กิตติทำตามรวดเร็วพอกัน ไม่กี่นาทีสองหนุ่มก็ขับรถออกจากตึกสูง
หญิงสาวที่วนัชเป็นห่วงกำลังถ่วงเวลาชายหน้าเหี้ยม หล่อนถามพวกมันเพื่อรอรถใครสักคนผ่านมาช่วยหล่อน
“เสี่ยอู๊ดให้พวกแกมาจับฉันไปทำไม” หล่อนงอตัวงุ้มไม่ยอมให้มันอุ้มได้ง่าย
“ไปให้แกตีหัวอีกมั้ง แกทำให้เสี่ยโกรธ คราวนี้แกจะได้รับผลตอบแทนที่แกทำไว้ เอามันขึ้นรถเร็วๆ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะยุ่ง”
“ฉันไม่ไปกับพวกแก” หล่อนมีแรงสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของสองหนุ่ม พวกมันไม่ทันระวังคิดว่าหญิงสาวไม่มีทางต่อสู้
“นังนี่ ฤทธิ์มากนัก จัดการโว้ย”
“พี่ เสี่ยสั่งไม่ให้ช้ำนะเมื่อกี้พี่ตุ๊ยท้องมันทีหนึ่งแล้วนะ” ไอ้ลูกน้องค้านจึงเป็นโอกาสของนิสาลักษณ์ หล่อนยกเท้าขึ้นถีบไอ้ตัวหัวหน้าแล้วออกวิ่ง แต่ยังไม่พ้นตัวไอ้ลูกน้อง แขนยาวของมันคว้าผมของหล่อนไว้แน่น
“จะไปไหน มึงหนีไม่พ้นเสี่ยกูหรอก มานี่”
“โอ๊ย ช่วยด้วย ช่วยด้วย ปล่อยฉัน ปล่อย..” หล่อนตะโกนสุดเสียงที่จะตะโกนให้ดังที่สุดในเวลานี้ได้ หล่อนดิ้นรนแล้วทิ้งตัวลงกับพื้นกลิ้งเข้าข้างทาง มันตามติด มือข้างหนึ่งของไอ้ลูกน้องจิกผมไม่ปล่อย
“มึงหนีไม่พ้นหรอก”
“ถ้าไม่ติดว่าเสี่ยสั่งไว้ละก็มึงน่วมทั้งตัวแล้ว” ไอ้หัวหน้าก้าวยาวๆ มายืนข้างตัวหล่อน
ข้างทางมีพงหญ้ารก ทั้งต้นอ้อ ต้นธูปฤๅษี หญ้าน้ำขึ้นแข่งกันแน่นขนัด นิสาลักษณ์เหลือบมองพงหญ้า หล่อนมีทางช่วยตัวเองได้ทางเดียวเท่านั้น ถ้าหล่อนไม่กระโจนเข้าไปในพงหญ้าพวกมันต้องลากตัวหล่อนขึ้นรถได้สำเร็จ หล่อนขอเปียกน้ำและเสี่ยงกับสัตว์เลื้อยคลานในป่าหญ้าดีกว่าไปเสี่ยงกับการเป็นนางบำเรอของไอ้เสี่ยลามกนั่น
“ไปขึ้นรถดีๆ ไม่งั้นกูทุบ” หนึ่งในสองขู่พร้อมกับเงื้อมือขึ้น มันปล่อยมือจากเส้นผมของหล่อนและช่วงเวลานี้เองที่นิสาลักษณ์ต้องตัดสินใจ หล่อนลุกขึ้นยืนแล้วพุ่งตัวเข้าไปหาพงหญ้า
“เฮ้ย มึงจะไปไหน คิดจะหนีเหรอ ไม่มีทาง เอาตัวมันมาถ้าพูดดีๆ ไม่รู้เรื่องก็ต้องให้เจ็บตัวเหมือนเมื่อกี้” ไอ้หัวหน้าสั่งเสียงเหี้ยมกว่าเดิม
“พี่ เสี่ยจะด่านะ” ลูกน้องค้านยังไม่กล้าทำอะไรหญิงสาว
“ด่าก็ต้องยอมไม่งั้นมันไม่ยอมไปดีๆ จับมัน” มันสั่งเสียงกร้าว ลูกน้องทำตามคำสั่งรวดเร็ว มันถลาเข้าไปจิกผมนิสาลักษณ์อีกครั้งและครั้งนี้มันกระชากอย่างไม่ปรานี
“โอ๊ย ปล่อยกูนะ ปล่อยกู ช่วยด้วย ช่วยด้วย” หญิงสาวแผดเสียงเท่าที่มี ไม่มีใครช่วยหล่อนเลยหรือไม่มีรถใครผ่านมาสักคันเลยหรือ หล่อนต้องตกเป็นเหยื่อกามของไอ้เสี่ยใจชั่วจริงๆ หรือ
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย..”
เสียงของหล่อนไม่ได้ไกลไปจากพงหญ้ารกครึ้ม ไม่ไกลไปจากบริเวณเปลี่ยวนี้เลย เมื่อเส้นผมถูกดึงจนเจ็บไปทั่วศีรษะปลายเท้าจึงจิกที่พื้นดินเละขอบถนน น้ำขังข้างถนนไม่เหม็นคลุ้งอย่างที่คิด ตรงกันข้าม น้ำตรงที่ปลายเท้านิสาลักษณ์จุ่มลงไปเป็นน้ำใสเช่นน้ำในสระว่ายน้ำ
“มึงไม่รอดมือเสี่ยหรอกอีนังตัวดี มานี่”
แขนสองข้างถูกสองวายร้ายตะปบแน่นและกระชากออกห่างจากขอบถนน เท้าข้างหนึ่งของไอ้ลูกน้องเหยียบลงไปในน้ำเป็นเวลาเดียวกับที่นิสาลักษณ์สะบัดแขนผลักมันจนเสียหลักลื่นลงไปข้างทาง
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย” หล่อนส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้งและในพริบตานั้นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น ไอ้ลูกน้องร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวด
“โอ๊ยยยย..อะไรวะ โอ๊ยยยช่วยด้วยพี่ ช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วยพี่” ลูกน้องหน้าเหี้ยมร้องขอความช่วยเหลือใบหน้าบูดเบี้ยวเจ็บปวด
ไอ้หัวหน้าจ้องเขม็งไปที่ร่างของลูกน้อง ดวงตาเบิกกว้างกับภาพที่เห็น ประกายน้ำจากปลายขาของลูกน้องพุ่งเป็นลำขึ้นที่คอม้วนตัวรัดแน่น เกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เขาเห็นมันคืออะไรกัน มือที่จับแขนหญิงสาวคลายออก มันไม่สนใจหญิงสาวอีกต่อไป
นิสาลักษณ์ผงะห่างจากตัวมัน หล่อนเห็นเช่นเดียวกับที่มันเห็น คุณพระช่วย เกิดอะไรขึ้นกับไอ้ลูกน้องชั่วของเสี่ยอู๊ด ใบหน้าของมันเหยเก มือสองข้างจับแน่นที่ลำคอตัวเอง บีบรัดจนข้อปูดโปน ดวงตาเหลือกลาน