บทที่ 11 เสี่ยสั่ง
“ไอ้หมึก ไอ้ยศ ไปเอาตัวนังนั่นมาให้กู คืนนี้กูจะสั่งสอนให้มันรู้ว่าการที่มันได้เป็นเมียกูน่ะวิเศษแค่ไหนแล้วค่อยส่งมันไปเฝ้ายมบาล ไปจัดการเดี๋ยวนี้”
“ครับเสี่ย เสี่ยรอที่เดิมนะครับ” หมึกรับคำสั่งหนักแน่น เขาไม่เคยพลาดกับการนำตัวหญิงสาวมาส่งขึ้นเตียงในโรงแรมม่านรูดให้กับเสี่ยอู๊ด
“เออ กูจะอาบน้ำรอ” อารมณ์ของเสี่ยใหญ่ดีขึ้น ความโกรธแค้นในตัวหญิงสาวจางหายไปเมื่อคิดถึงร่างอวบอิ่มของหล่อน คืนนี้เขาจะชำระแค้นที่หล่อนทำไว้กับเขา
นิสาลักษณ์ไม่ทำตามคำสั่งของดลมนัส หล่อนไม่ยอมกลับบ้านแม้หมดเวลาทำงานปกติของแต่ละวันแล้ว หล่อนขอทำงานต่อจนเสร็จซึ่งก็เลย 2 ทุ่มไปแล้ว
“ลักษณ์กลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวฉันไปส่ง” กิตติวางมือจากงานของตัวเอง
“ไม่ต้องย่ะ แค่สองทุ่มไม่มีอะไรหรอก พวกแกกลัวไอ้เสี่ยลามกนั่นเกินไปรึเปล่า มันไม่กล้ากับฉันหรอกน่ะ” หญิงสาวเก็บของบนโต๊ะปิดโคมไฟหลอดประหยัดมุมซ้ายมือของโต๊ะแล้วเดินออกมายืนหน้าโต๊ะทำงานกิตติ มองไปที่โต๊ะวนัช
“ฉันกลับก่อน แกจะทำให้เสร็จคืนนี้เลยเหรอนัช”
“ก็งั้น อีกนิดเดียวเอง ให้ติไปส่งดีกว่าลักษณ์” วนัชยังคงห่วงเพื่อน
“ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอกน่ะ บายโว้ยพรุ่งนี้เจอกัน” หล่อนยกมือให้เพื่อนหนุ่มทั้งสองแล้วเดินไปที่ประตูเปิดออก วนัชมองตามรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาวอย่างบอกไม่ถูก
“ติ ฉันว่าเราไปส่งยัยลักษณ์กัน พรุ่งนี้ค่อยมาทำงานต่อ”
“มันไม่ให้ไปส่งก็อย่าไปยุ่งกับมันเลยว่ะ ถ้ามันเห็นเราขับรถตามรับรองเลยเพื่อนมันจอดรถด่ากลางถนนแหงๆ ทำงานต่อเถอะ” กิตติไม่เห็นด้วยกับความคิดของวนัช เขาหันกลับมาสนใจงานตัวเองต่อ
วนัชได้แต่ถอนใจ เขาตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมต้องห่วงนิสาลักษณ์ ทำไมกังวลกับการขับรถกลับบ้านเพียงลำพังของเพื่อนในคืนนี้ ทุกวันเขาไม่เคยห่วงหล่อนแต่วันนี้เขารู้สึกไม่ดีแต่เมื่อกิตติมั่นใจว่าเพื่อนรักปลอดภัยเขาก็ควรเชื่ออย่างที่กิตติเชื่อสิ เพื่อนของเขาต้องไม่เป็นอะไร
รถเก๋งสีแดงของนิสาลักษณ์แล่นปราดสู่ถนนสายหลักเพียงไม่กี่นาทีจากหน้าตึกใหญ่ หล่อนเปิดเพลงดังลั่นรถซึ่งทำเป็นประจำถ้าได้ขึ้นรถคู่กายคันนี้
หล่อนร้องเพลงแข่งกับนักร้องในแผ่นซีดีอย่างสนุกสนานโดยไม่รู้ตัวว่ามีรถตู้สีฟ้ากำลังแล่นตามหลังมาแบบไม่ทิ้งช่วงห่าง อันตรายที่หล่อนไม่เคยกลัวกำลังคืบคลานเข้ามาหาหล่อนอย่างช้าๆ
ถนนสายหลักยังคงคลาคล่ำไปด้วยรถราของคนทำงานดึกและผู้ที่มีธุระต่อเนื่องจากตอนกลางวันจนถึงค่ำและผู้ที่เพิ่งออกจากบ้านเพื่อทำงานในช่วงดึก
นิสาลักษณ์ขับรถมาตามเส้นทางเดิม หล่อนคุ้นกับถนนจนไม่ต้องบอกว่าตรงไหนมีหลุมบ่อ ตรงไหนเป็นรอยปะถนนและตรงไหนต้องหลบหลุมลึก หล่อนขับรถแอบเข้าด้านซ้ายเมื่อถึงทางแยกเข้าหมู่บ้าน
ทางเข้าบ้านของนิสาลักษณ์เป็นถนนซีเมนต์เพิ่งปรับใหม่เมื่อปีที่ผ่านมา ถนนแคบขยายออกให้รถแล่นสวนได้อย่างสบายไม่ต้องแอบชิดข้างทางแทบจะตกถนนเหมือนก่อน หญิงสาวเลี้ยวรถจากถนนใหญ่มาได้ประมาณ 100 เมตร รถตู้ที่แล่นตามมาตลอดก็แล่นแซงขึ้นมา หล่อนชะลอรถเมื่อรถตู้เปิดไฟเลี้ยว
“มันจะรีบไปไหนของมันวะ” หล่อนมองรถคันหน้าอย่างหงุดหงิดเพราะแทนที่จะแซงทิ้งระยะสักนิดก่อนจะเข้าทางซ้ายแต่รถตู้คันใหญ่แซงขึ้นแล้วตัดปาดหน้าเข้าซ้ายและความเร็วเมื่อครู่ลดลง
“มันจะบ้ารึไงวะ จะไปก็ไปสิ ชะลอทำบ้าอะไรเนี่ย”
หญิงสาวตบไฟเลี้ยวขวาเตรียมแซงเพราะรถสวนข้างหน้าไม่มี รถตามหลังมาก็ไม่เห็น หล่อนเปิดโอกาสให้รถตู้ขับช้าได้เต็มที่แต่พอหล่อนจะแซงรถตู้ก็ออกขวาเบียดดื้อๆ
“ไอ้บ้า” หล่อนสบถลั่นรถ มือเร็วตามอารมณ์กดแตรดังสนั่นแต่รถตู้ไม่เร่งความเร็วหนีแม้แต่นิดยิ่งเพิ่มความโกรธให้กับหล่อนมากขึ้น
“เมายาบ้ารึเปล่าวะไอ้บ้าเอ๊ย” หล่อนตบแตรติดๆ กันแต่รถคันหน้ายังทำเหมือนไม่ได้ยิน หล่อนจึงชะลอเข้าซ้าย รถตู้ก็ปัดเข้าซ้ายอีก
ความโกรธทำให้หญิงสาวหักพวงมาลัยออกขวาโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวแล้วเร่งความเร็วขึ้นแซงแล้วปาดหน้าอย่างไม่เกรงใจและยอมไร้มารยาทในการขับขี่ยานยนต์บนถนนเป็นครั้งแรก หล่อนคิดว่ารถคันนั้นต้องโกรธและปาดหน้ากลับคืนอย่างแน่นอนและก็จริง
“เอี๊ยดดด…อ๊าดดด…เอี๊ยดดดด…”
เสียงล้อบดถนนดังติดต่อกันและรถคันที่แซงขึ้นปาดหน้าก็หยุดรถลงขวางทางรถเก๋งคันเก๋ของหญิงสาว ประตูใหญ่ตรงผู้โดยสารเปิดออกทันทีที่รถตู้จอดสนิท ชายวัยฉกรรจ์สองคนก้าวลงจากรถ
นิสาลักษณ์โกรธจนลืมความกลัวและความปลอดภัยของตัวเอง หล่อนจอดรถเกือบชิดท้ายรถตู้ถ้าหล่อนเบรกไม่ทันป่านนี้หน้ารถหล่อนคงยับยู่ดูไม่ได้และตัวหล่อนอาจเจ็บหนักจากแรงกระแทกก็ได้
“ขับรถบ้ายังไงเนี่ย” หล่อนเปิดประตูรถก้าวลงมา ความโกรธทำให้หล่อนไม่กลัวชายหนุ่มทั้งสอง
“ก็ขับมารับคุณไงครับ เฮ้ยเอาตัวไป”
ชายหน้าตาดุก้าวเข้ามาหาหญิงสาวและตอบคำถามของหล่อนด้วยรอยยิ้มแปลกๆ แต่นั่นไม่ได้ทำให้นิสาลักษณ์กลัวเท่ากับคำว่า เอาตัวไปของมัน หล่อนพลาดไปอย่างไม่น่าให้อภัย ดึกดื่นและบนเส้นทางเปลี่ยวเช่นนี้หล่อนไม่น่าลงจากรถ คิดได้เพียงเท่านั้นหล่อนก็ผลุบกลับเข้าในรถดึงประตูปิดแต่ก็ช้าไปเมื่อมือแข็งแรงของชายหน้าเหี้ยมอีกคนกระชากประตูออกก่อนที่หล่อนจะทันล็อค
“ลงมาดีๆ อย่าให้ต้องออกกำลังกันเลยครับคุณผู้หญิง” มันยิ้มน่ากลัว ใบหน้าอยู่ใกล้หล่อน
“แกต้องการอะไรก็เอาไป แต่อย่าทำอะไรฉันนะ อยากได้ตังค์ก็เอาไป”
ความกลัวแล่นปรู๊ดจับขั้วหัวใจ มือเย็นเฉียบ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะรู้แต่ว่ามันรัวเร็วจนยากควบคุม
“เอาไปทำไม ตังค์ในกระเป๋าคุณไม่พอใช้หรอก ที่ผมต้องการคือตัวคุณ ลงมา เร็ว อย่าให้โมโห”
“ไม่..ออกไปนะ อย่ามาถูกตัวฉันนะ”
“ผมถูกนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกน่ะ เพราะตัวคุณถูกเสี่ยสั่งห้ามไว้แล้ว เสี่ยต้องถูกตัวคุณทุกส่วนเพียงคนเดียวเท่านั้น ลงมา”
น้ำเสียงกระชากเมื่อหญิงสาวปัดมือมันออกจากแขนของหล่อน หล่อนรู้สึกถึงความกลัวยามค่ำคืนว่าเป็นอย่างไรในวินาทีนี้เอง ไม่มีใครช่วยหล่อนได้ หล่อนต้องช่วยตัวเอง
“อย่าเข้ามานะ ออกไป ออกไป๊” ทั้งมือและเท้าเป็นอาวุธสำคัญที่พอจะยับยั้งพวกมันไว้ได้ หล่อนไม่ยอมให้มันดึงหล่อนพ้นประตูรถเพราะเมื่อใดที่หล่อนออกจากรถมันจะจับตัวหล่อนได้ง่ายขึ้น หล่อนไม่รู้ว่าใครเป็นคนสั่งพวกมันมาแต่หล่อนไม่ยอมให้มันพาตัวไปได้ง่ายๆ
“เก่งนักนะนังตัวดี เพราะงี้เสี่ยถึงต้องการตัวมึง เอามันลงมา” คนเดิมสั่งการอยู่ข้างรถ
“พี่มาช่วยกันสิ มันแรงจะตาย”
“มึงกลัวมันรึไง ลากมันลงมา” คนสั่งดึงประตูเปิดกว้างขึ้น นิสาลักษณ์ใช้เท้าถีบผลัวะไปที่ท้องของมัน แรงถีบทำให้ร่างหนางอตัวทันที