บทที่ 10 อันตราย
“พี่ดลให้ผมสานงานยัยลักษณ์ต่อนะครับ”
“ไม่ได้ ยัยลักษณ์ต้องเคลียร์งานนี้ด้วยตัวเอง พี่รู้ว่าแกสองคนเป็นห่วงยัยลักษณ์แต่เสี่ยอู๊ดมันต้องการคุยกับยัยลักษณ์ เราตามใจมันหน่อยถ้าเห็นท่าไม่ดีพี่ลุยเอง”
“ขอบคุณค่ะพี่ดล ลักษณ์รักพี่ดลมากที่สุดเลยตอนนี้” หล่อนทำตาเชื่อมซึ้งใส่นายหนุ่ม
“ตอนอื่นแกเกลียดพี่งั้นสิ” เขาพูดแล้วหัวเราะ นิสาลักษณ์ยิ้มหวานให้เขา
“ใครเกลียดพี่ชายใจดีคนนี้ก็เลวแล้วละค่ะ ลักษณ์รักพี่ดลมากกว่าผู้ชายคนไหนเลยนะไม่ได้ล้อเล่นนะพี่ พูดจริงรักจริง”
“เออ ฉันเชื่อพวกแก นัช มีงานใหม่แต่งานนี้เป็นฝรั่งซื้อคอนโดฯให้แฟนคนไทยท่าทางจู้จี้โดยเฉพาะผู้หญิง”
“งั้นผมรับเอง ไอ้นัชมันไม่ชอบคนจู้จี้เดี๋ยวเสียลูกค้า” กิตติเสนอตัวรับงานใหม่ที่ดลมนัสพูดถึง
“งานเก่าแกเสร็จแล้วเหรอ”
“ใกล้แล้วพี่”
“งั้นดี พี่จะได้ให้นัชไปบ้านเพื่อนคุณแม่พี่ แต่งานนี้ให้ลักษณ์ช่วยด้วย แกเสร็จของฝรั่งมาช่วยอีกคน บ้านหลังใหญ่ นัชรีบออกแบบ ส่วนแต่งสวนยัยลักษณ์ออกแบบให้พี่ดูก่อนถ้าไม่ถูกใจพี่จะช่วยออกเอง” ดลมนัสสั่งงานรวดเดียว กิตติมองเจ้านายแล้วว่า
“บ้านหลังใหญ่เหรอพี่”
“ดูรูปแทนคำตอบ” หนุ่มใหญ่ดึงรูปถ่ายบ้านหลังใหม่ออกมาจากแฟ้มส่งให้กิตติ
“โห. เพื่อนคุณแม่พี่รวยมากใช่มั้ยครับ” กิตติเห็นรูปถ่ายแล้วส่งให้วนัช
“เขารวย” ดลมนัสตอบสั้นๆ
“รวยกว่าคุณแม่พี่อีกเหรอ” นิสาลักษณ์รับรูปจากมือวนัชมาดูบ้าง หล่อนเห็นรูปคิดว่าเป็นบ้านในนวนิยายเสียอีก
“หลายเท่า” หนุ่มใหญ่ตอบสั้นอีกเช่นเคยแล้วยิ้มขำกับท่าทางตื่นเต้นของหญิงสาว
“เราต้องแต่งบ้านให้ด้วยมั้ยครับ” วนัชตั้งคำถามแรก เขาฟังเพื่อนๆ ถามเจ้านายมาหลายประโยคแล้ว
“เขามีทีมแล้วละแต่ขอการออกแบบจากบริษัทเรา พี่รับงานเพราะคุณแม่ขอร้องไม่งั้นก็ไม่เอา”
“ทำไมล่ะคะ” หญิงสาวคนเดียวเอ่ยแทนเพื่อนๆ
“เรื่องมากที่สุด” ดลมนัสตอบสั้นแต่เข้าใจง่าย
“พี่ว่าลักษณ์เหรอ ลักษณ์ถามดีๆ นะเนี่ย” นิสาลักษณ์โวยวายเมื่อดลมนัสพูดเช่นนั้น
“ไอ้บ้า พี่หมายถึงคุณป้า เพื่อนคุณแม่พี่” ดลมนัสหัวเราะ
“แล้วรับทำไมล่ะพี่” กิตติแย้งหยิบรูปบ้านมาดูอีกครั้ง
“รับให้พวกแกได้เงินก้อนโตไง แกจะได้มีตังค์ไปขอสาวซะทีไอ้ติ ปิ๊งมานานแล้วไม่ใช่เหรอวะ”
หนุ่มใหญ่หันมาพยักหน้ากับกิตติ วนัชหัวเราะ นิสาลักษณ์ขำไปด้วย
“อย่าว่าแต่ปิ๊งเลยพี่ จีบยังไม่ติดเลยไม่เชื่อถามน้องวรรณเลขาฯพี่ดูสิ” นิสาลักษณ์อำเพื่อนรัก
“เฮ้ย ยัยลักษณ์ฉันเปล่าจีบน้องวรรณนะโว้ย” กิตติร้อนตัวนั่งไม่เป็นสุข ดลมนัสจ้องหน้าลูกน้องหนุ่มแล้วยิ้ม
“แกชอบยัยวรรณจริงๆ เหรอติ”
“ก็..น่ารักดี แต่น้องวรรณมีแฟนแล้วพี่ เธอไม่สนผมหรอก” กิตติยอมรับ วนัชหัวเราะแล้วว่า
“มันจีบไม่ได้ก็เลยว่าน้องวรรณมีแฟนแล้ว ผมว่ายัยวรรณยังไม่มีแฟนหรอกพี่ มีแต่พี่ชาย”
“รู้ดีนะมึง” กิตติหันมาเล่นงานเพื่อนเมื่อเพื่อนไม่เข้าข้างเขา
“งั้นพี่เคลียร์ให้เอง แต่พรุ่งนี้พวกแกทำงานชิ้นใหญ่ด่วน ถ้างานเก่ายังไม่เสร็จเร่งมือด้วยคืนนี้อยู่ทำงานได้มั้ยถ้าไม่ได้เอาไปทำที่บ้าน”
“ผมก็ว่างั้นแหละเป็นห่วงยัยลักษณ์ เพิ่งมีเรื่องกับเสี่ยอู๊ดกลัวไอ้เสี่ยจะดักฉุดมัน”
“พูดเป็นเล่นติ มันไม่ง่ายยังงั้นหรอกน่ะ” ดลมนัสหันมาดุกิตติ
“แต่เรากลัวไว้ก็ดีนะพี่ ผมได้ยินชื่อเสี่ยคนนี้มาบ้างเขาไม่ยอมแพ้ผู้หญิง ยัยลักษณ์ไปตีหัวเขาแถมด่าอีกเขาไม่ปล่อยง่ายๆ หรอกพี่ ให้ยัยลักษณ์เอางานไปทำที่บ้านผมกับไอ้ติทำที่นี่ได้”
วนัชพูดอย่างมีเหตุผล ดลมนัสพยักหน้ารับฟัง เรื่องเสี่ยอู๊ดเขาก็พอรู้ข่าวคาวในสังคมเช่นเดียวกับวนัช เสี่ยอู๊ดไม่ใช่เสี่ยลงพุงงี่เง่าธรรมดา เขาเป็นเสือผู้หญิงที่บางครั้งใช้เงินซื้อหญิงสาวมาเป็นนางบำเรอชั่วข้ามคืน
หลังจากอิ่มเอมในรสสวาทที่ตักตวงจากหญิงสาวแล้วเขาก็เขี่ยทิ้งราวกับเป็นเศษขยะไร้ค่า วันนี้นิสาลักษณ์ทำให้เสี่ยอู๊ดเสียหน้า เขาต้องแก้แค้นและในขณะเดียวกันเขาต้องการตัวหล่อนไปชำระแค้นครั้งนี้ด้วย
ดลมนัสหันมาจ้องหน้านิสาลักษณ์ สายตาที่มองมาไม่ใช่พี่ชายที่เป็นห่วงน้องสาวเพียงอย่างเดียวแต่มีคำสั่งตามมา
“แกกลับบ้าน เอางานที่ค้างไปทำที่บ้านห้ามดื้อกับพี่ เข้าใจ๋”
“ไม่เข้าใจค่ะ จะกลัวอะไรกันนักหนา พรุ่งนี้ลักษณ์จะทำให้พี่รู้ว่าเสี่ยหื่นนั่นมันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย” หญิงสาวค้านคำสั่งเสียงแข็ง
“ยัยลักษณ์ ถ้าคิดจะทำงานกับพี่ต่อห้ามขัดคำสั่ง ไปเก็บของแล้วกลับบ้าน ห้ามแวะที่ไหนถึงบ้านแล้วโทร.รายงานพี่ด้วย ติ นัช กลับไปทำงานได้แล้ว พี่จะทำเหมือนกัน เชิญครับคุณลูกน้องกิตติมศักดิ์ทั้งหลาย”
เจ้านายประชดกรายๆ สายตาที่กวาดไปทั่วใบหน้าของทุกคนนั้นจริงจัง ไร้แววยั่วอารมณ์ให้หัวเราะเช่นทุกครั้ง เขาเอาจริงถ้าใครคนใดคนหนึ่งขัดคำสั่งเขา
“ชอบบังคับยังงี้ถึงหาเมียไม่ได้ซักทีแก่แล้วรู้ตัวไว้ด้วย” นิสาลักษณ์พึมพำขณะลุกขึ้นยืน
“ว่าใคร ใครแก่ แกนั่นแหละแก่ ระวังขึ้นคาน”
ดลมนัสสวนกลับทันควัน เขาได้ยินเสียงงึมงำของลูกน้องสาว กิตติปล่อยก๊ากแบบไม่เกรงใจเจ้านาย วนัชหัวเราะตามแล้วเดินนำออกจากห้องเจ้านาย นิสาลักษณ์หันมาค้อนให้นายแล้วก้าวยาวๆ ตามวนัช กิตติหันมายักคิ้วแล้ววิ่งหนีวิถีแฟ้มในมือนายใหญ่
“พวกมันเป็นเจ้านายรึว่าเราวะ” หนุ่มใหญ่พูดกับตัวเองแล้วลุกเดินออกมาหน้าห้อง
“วรรณ กาแฟแก้วนึงมีขนมเอามาด้วย พร นพ เข้ามาหาพี่ด้วย”
“ค่ะ” สิรีพรรับคำ มานพพยักหน้าตามคำของเพื่อนสาว
“สงสัยงานใหญ่ เมื่อกี้พี่ๆ โดนอะไรบ้างก็ไม่รู้ พี่ลักษณ์หน้าตึงออกมาเลย” มานพกระซิบกับเพื่อน
“ไม่มีอะไรหรอกรีบเข้าไปเร็วๆ ก่อนจะถูกกินหัว” สิรีพรหอบแฟ้มเอกสารที่คิดว่าเจ้านายต้องขอดูติดไปด้วย มานพถือสมุดโน้ตเตรียมพร้อมเช่นกัน
วรรณาถือถาดใส่ถ้วยกาแฟกับแก้วน้ำเปล่าตามมานพเข้าไปในห้องเจ้านาย หล่อนถูกเรียกคุยงานพร้อมสิรีพรกับมานพ ครู่ใหญ่ทั้งสามจึงกลับออกมาจากห้องเจ้านาย มานพคว้ากระเป๋าเป้คล้องไหล่ งานที่ต้องทำรออยู่ สิรีพรยกหูโทรศัพท์ทันทีที่ถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง วรรณาเปิดแฟ้มบัญชีรายรับในคอมพิวเตอร์ลงมือคีย์ตัวเลขลงไป
ทุกคนสนใจงานที่รับผิดชอบเช่นทุกวัน มีบางเวลาที่ได้พูดคุยหัวเราะสนุกสนานผ่อนคลายการทำงานบ้างซึ่งเจ้านายใหญ่ลงมาสนทนาด้วยเป็นบางวัน ความเป็นกันเองนี่แหละที่ทำให้ดลมนัสมีลูกน้องที่ไว้วางใจได้และงานของเขาไม่เคยหมดจากออฟฟิศ
แฟ้มเอกสารที่ฟาดลงบนศีรษะล้านครึ่งหนึ่งของพื้นที่ผมบนศีรษะด้วยฝีมือของหญิงสาวนักออกแบบมือหนึ่งของบริษัทดลมนัส สร้างความโกรธแค้นให้กับเสี่ยผู้ไม่เคยยอมแพ้หญิงสาวคนไหนที่เขาต้องการมาปรนเปรอความสุขบนเตียง
นิสาลักษณ์ทำให้เสี่ยใหญ่ขายหน้า เสียศักดิ์ศรีและอับอาย เขาแทบสั่งหักคอหล่อนในช่วงเวลานั้น หล่อนไม่รับข้อเสนอของเขาแถมยังด่าเขา ตีศีรษะเขาด้วยแฟ้มงานของหล่อน แค่นี้หล่อนก็หมดโอกาสหายใจต่อไปแล้ว