ตอนที่ 3
“ไม่เป็นไรคะ” มุกตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า สีหน้านิ่งเรียบเหมือนจะยอมรับและเข้าใจในเหตุผลที่แฟนหนุ่มพยายามหยิบยกมากล่าว…แต่เปล่าเลย!
ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่
เช้ามืดที่อากาศขมุกขมัว ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ความเหนอะชื้นอวลอยู่ในอากาศรอบกาย ภายในรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองที่อวลไปด้วยกลิ่นแอร์อึนอับ มีร่างของมุกนั่งโดยสารอยู่ภายใน พร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่วางเอาไว้ข้างเบาะ
เมื่อรถแล่นเข้ามาถึงจุดหมาย โชเฟอร์วาดวงเลี้ยวเข้ามาจอดเทียบ เลียบชานชลาสถานีขนส่งสายใต้ใหม่
“ถึงแล้วครับ” โชว์เฟอร์กล่าว
มุกมองตัวเลขสีแดงบนหน้าจอมิเตอร์ ยื่นค่าโดยสารให้โชเฟอร์
เมื่อก้าวลงจากรถแท็กซี่เป็นที่เรียบร้อย หญิงสาวก็ลากกระเป๋าเดินทางสีดำใบใหญ่ มองขวามองซ้ายอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะรี่เข้าไปยังช่องจำหน่ายตั๋วรถโดยสารปรับอากาศชั้น 1 กรุงเทพฯ-กระบี่ ที่มีป้ายขนาดใหญ่บอกเอาไว้ชัดเจน ทันทีโดยไม่รีรอ
ช่วงเวลาที่มุกเดินทางมาถึงนั้นยังเช้าอยู่มาก ไม่ต้องเข้าคิวต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วให้เสียเวลา เหมือนที่เห็นบ่อยๆในช่วงเทศกาลหรือมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง
“ไปกระบี่ค่ะ…เท่าไรคะ?” หญิงสาวแจ้งจุดหมายปลายทาง ถามราคากับพนักงานขายตั๋วที่ทรุดร่างท้วมอยู่เบื้องหลังบานกระจกใส ในช่องสี่เหลี่ยมที่สร้างไว้เป็นตู้สำหรับจำหน่ายตั๋ว
“หกร้อยยี่สิบบาทค่ะ” พนักงานหญิงร่างท้วมคนเดียวกันนั้น ในชุดเสื้อคอปกสีฟ้าจางๆ ตอบเบาๆ พลางยื่นมือออกมาจากช่องกระจกวงกลมขนาดมือลอดผ่าน เอื้อมมืออวบมารับธนบัตรแบงค์พันจากมือเล็กๆของหญิงสาวที่ยื่นให้
มุกจ่ายเงินเพื่อซื้อตั๋วสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ด้วยราคาตั๋วหกร้อยยี่สิบบาท มุกไม่เคยรู้ราคาตั๋วรถทัวร์ที่จะเดินทางไปกระบี่มาก่อนเลยในชีวิต เพราะทุกครั้งที่จะเดินทางไปไหนมาไหน มุกแทบไม่ต้องจัดการสิ่งใดด้วยตัวเอง เพราะมุกมีพ่อที่คอยเอาใจใส่ ตามใจลูกสาวคนเดียวพัดสารพัน มีคนรับใช้คอยดูแลล้อมหน้าล้อมหลัง มีคนขับรถคอยรับส่งไม่ได้ขาด ไม่ว่ามุกจะเดินทางไปไหนมาไหน จนทำให้มุกติดนิสัยรักความสะดวกสบายโดยไม่รู้ตัว
ทว่าครั้งนี้ต่างไปจากทุกครั้ง มุกต้องตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ จัดแจงทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด ตั้งแต่การเก็บสัมภาระลงกระเป๋าเดินทางโดยไม่พึ่งคนใช้เหมือนทุกครั้ง เพราะไม่ต้องการให้คนในบ้านรู้ว่าเธอจะไปเที่ยว
เพราะเกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจไปตามประสาผู้หญิง เมื่อมนตรีผู้เป็นแฟนหนุ่มที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขัดใจเธอ และเธออยากเอาชนะ…หลังจากที่แอบน้อยใจมานานว่ามนตรีรักงานมากกว่ารักเธอ
“รถใกล้จะออกหรือยังคะ…?” มุกถามกับพนักงานขายตั๋ว ขณะที่ยื่นมือน้อยๆไปรับตั๋วที่พนักงานคนนั้นยื่นออกมาจากช่องกระจก พร้อมๆกับเงินทอนในมือ
“ 7 โมงตรงค่ะ” พนักงานตอบ
มุกหยิบตั๋วขึ้นมาพลิกดูสองสามที มีตัวเลขบอกตำแหน่งที่นั่งเอาไว้ชัดเจน แสดงว่าผู้โดยสารต้องนั่งตามหมายเลขที่นั่งซึ่งถูกกำหนดเอาไว้ชัดเจนบนตั๋ว หากเพราะความไม่แน่ใจ มุกจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง
“เอ่อ…ต้องนั่งตามหมายเลขที่ระบุไว้ในตั๋วหรือเปล่าคะ?” มุกถาม ยอมรับว่ารู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยที่จะต้องเดินทางโดยรถทัวร์ ซึ่งถือว่าครั้งนี้ เป็นการเดินทางโดยรถทัวร์ครั้งแรกในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะทุกครั้งที่ต้องเดินทางไกลๆ มุกจะนั่งเครื่องบินตลอด
“ใช่ค่ะ…นั่งตามหมายเลขที่นั่ง ที่ระบุเอาไว้ในตั๋วนะคะ” พนักงานขายตั๋วตอบ ชำเลืองมองใบหน้าสวยหวานของมุกช้าๆ ราวกับว่ามุขแกล้งสงสัยในสิ่งที่ถาม โดยที่พนักงานขายตั๋วไม่รู้ว่านี่คือการเดินทางโดยรถทัวร์ครั้งแรกในชีวิตของมุก
ด้วยเช้านี้ เป็นวันที่มุกตัดสินใจเดินทางอย่างกะทันหัน เพราะความเอาแต่ใจ ประกอบกับอารมณ์โกรธมนตรีผู้เป็นแฟนหนุ่มตั้งแต่เมื่อวาน ทำให้ทุกอย่างค่อนข้างฉุกละหุก จากที่ตั้งใจว่าจะเดินทางโดยเครื่องบินก็ไม่ทันได้จองตั๋วเอาไว้ หรืออาจกล่าวได้ว่ามุกไม่มีแผนสำหรับการเดินทางไปเที่ยวในครั้งนี้เลยก็ว่าได้
“รถออกทัวร์ออกเวลา 7 โมงตรงค่ะ เหลืออีก 10 นาที กรุณามาให้ตรงเวลานะคะคุณ” พนักงานหญิงคนเดิมกล่าว กำชับกำชาให้หญิงสาวตรงต่อเวลา
“ค่ะ…เอ่อ จะถึงกระบี่กี่โมงคะ?” หญิงสาวถามขึ้นอีกครั้งด้วยความสงสัย
“ราวๆ 6 โมงเย็นค่ะ”
“คะ!...ถึงกระบี่ 6 โมงเย็นเชียวหรือคะ” มุกอุทาน ทำตาโตด้วยความลืมตัวเหมือนไม่เชื่อในความไกลของกระบี่กับกรุงเทพฯ ซึ่งเวลามันช่างแตกต่างกันลิบลับกับการนั่งเครื่องบินที่เธอคุ้นชิน
‘ตายชัก!...นี่เราต้องนั่งรถทัวร์ถึง 12 ชั่วโมงเชียวหรือนี่?’ หญิงสาวนึกในใจ
เพราะมุกมาถึงแต่เช้า จึงทันรถทัวร์เที่ยวแรกซึ่งกำลังจะออกเดินทางในเวลา 7.00 นาฬิกา และจะถึงกระบี่ในเวลา 18.00 น. ตามเวลาที่ได้สอบถามจากเจ้าหน้าจำหน่ายตั๋ว
เสี้ยวอึดใจจากนั้น มุกลากกระเป๋าเดินทางออกไปยังประตู ด้านที่พนักงานขายตัวบอกว่ารถได้จอดเทียบรอผู้โดยสารอยู่พักใหญ่ๆแล้ว ซึ่งขณะนั้นก็จวนเจียนจะถึงเวลาออกเดินทางแล้ว
ภายหลังจากกวาดสายตาอยู่ชั่วครู่ สะดุดเข้ากับตัวอักษรสีน้ำเงินเข้มที่คาดอยู่ขนแถบสีขาวข้างตัวรถที่เป็นสีฟ้าทั้งคัน เขียนเอาไว้ว่า กรุงเทพฯ-กระบี่ เมื่อลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปจนใกล้ ได้ยินเสียงครืนครางของเครื่องยนต์ดีเซลที่สตาร์ทเครื่องรออยู่พักใหญ่ เตรียมเครื่องยนต์และความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในตัวรถให้พร้อมที่สุดสำหรับการเดิน