ตอนที่ 3
“ไม่ทราบว่ารตีมารบกวนเวลาทำงานของพ่อเลี้ยงหรือเปล่าคะ?”
เธอถามอย่างมีจริต แววตาหวานวาวของเธอสะกดสายตาของเขาไม่ให้กระพริบ
“ไม่ครับ… ไม่เลย เป็นเกียรติของผมด้วยซ้ำที่คุณเริงรตีให้เกียรติมาเยี่ยมเยือนจนถึงบ้าน”
เขารีบกล่าว เมื่อเห็นท่าทางเกรงใจของเธอ
สายตาของเขายังจับจ้องอยู่ที่เรือนร่างเย้ายวนตรงหน้า
“เอ่อ… ฉันขอโทษที่ไม่ได้โทรมานัดล่วงหน้า”
“ไม่เป็นไรครับ สำหรับคุณเริงรตีผมว่างเสมอ ว่างทุกเวลา…”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มอย่างมีนัยสำคัญ ดวงตาเชื่อมวาวถักทอประกายวาบหวาม หว่านสเน่ห์กับเธออย่างจงใจ คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอเริงรตีที่นี่
“มีธุระอะไรให้ผมรับใช้ครับ”
รอยยิ้มเล็กๆ ที่ริมฝีปากทำให้เขาดูเป็นคนเจ้าเล่ห์ขึ้นมาในทันที
“เอ่อ…..”
คนถูกถามอ้ำอึ้ง เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา… กลับรู้สึกสองจิตสองใจที่จะขอความช่วยเหลือ เริงรตีกระอึกกระอักอยู่เป็นครู่ ทั้งที่ซักซ้อมถ้อยคำเอาไว้แต่แรก… ว่าจะเริ่มยังไง? เมื่อเจอหน้าเขา
“ไม่ต้องเกรงใจครับ… ได้โปรดกรุณาอย่าคิดว่าผมเป็นคนอื่นคนไกล อันที่จริงไร่และฟาร์มของเราก็อยู่ห่างกันเพียงแค่รั้วกั้น ถ้าเจ้าของฟาร์มจะสานสัมพันธ์กันไว้… ก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายนี่ครับ”
กล่าวแล้วร่างท้วมใหญ่ก็ขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้
เขาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เธอ ใกล้จนแลเห็นเปลวไฟแห่งความปรารถนาที่มีความเหว่ว้าเป็นเชื้อไฟ ลุกโชนอยู่ในดวงตาของผู้หญิงที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ตรงหน้าเขา
“เอ่อ… รตีไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี”
เสียงหวานกระอึกกระอัก แม้ดวงตาภายใต้แพขนตางอนยาวพยายามซ่อนแววเหว่ว้าจากสายตาของเขา หากแต่พ่อเลี้ยงก็สามารถมองทุลุเข้าไปในความว้าเหว่นั้นได้ไม่ยาก และเพียงวาบหนึ่งของดวงตาที่สบประสานกัน เขาสังเกตเห็นว่าดวงตาของเธอสลดลงอย่างเห็นได้ชัด ด้วยปัญหาชีวิตที่รุมเร้า จำต้องแบกรับเอาไว้จนหนักอึ้งไปทั้งหัวอก
ภายใต้คอเสื้อซึ่งกว้างและคว้านลึกของเริงรตี ทำให้เนินเนื้ออิ่มอูมนุ่มนิ่มในอกอวบ ยวบยาบยั่วสายตาของผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่ตั้งใจ มิหนำซ้ำ… มันยังกระเพื่อมไหวไปมาตามจังหวะหายใจของเธอที่พยายามซ่อนความตื่นเต้นจากสายตาของเขาที่ยังคงกวาดสำรวจเรือนกายของเธอไม่ลดละ
“รตี…”
เขาเอ่ยชื่อเธอขึ้นมาอย่างลืมตัว แรงพิศวาสที่ปรารถนาทำให้พ่อเลี้ยงเดโชเอื้อมมือออกไปคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ได้ทันท่วงที ในจังหวะที่เริงรตีตกอยู่ในอาการละล้าละลัง ทำท่าว่าจะหันหลังกลับออกไปจากห้องเอาดื้อๆ ให้หันมาเผชิญหน้ากับเขาอย่างถือวิสาสะ ทั้งที่มีโต๊ะทำงานกั้นกลาง
“อย่าค่ะ…!”
เธอทัดทานด้วยความตกใจ แต่เขาไม่ปล่อย
“รตี… คุณรู้ใช่ไหมว่าผมแอบรักคุณมาตลอด ผมต้องการคุณเหลือเกิน”
พ่อเลี้ยงเดโชละล่ำละลักออกมาด้วยอารมณ์พิศวาสที่
พลุ่งโพลงอยู่ในอก เบื้องหลังประตูที่ปิดสนิท เขารีบอ้อมออกมาจากโต๊ะทำงานที่ขวางอยู่ตรงหน้า พร้อมกันนั้นมือใหญ่ของเขาก็ยกขึ้นกอบกุมใบหน้าหวาน แล้วทาบริมฝีปากซึ่งรกไปด้วยแผงหนวดดกหนา นาบเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่มของเริงรตีอย่างจาบจ้วง ปลายลิ้นสากชำแรกสู่ร่องปากเย้ายวน สอดเข้าไปความหาความฉ่ำหวานจากปลายลิ้นน้อยๆ ของคนที่ตกใจจนสติแทบดับวูบ
จูบร้อนแรงของพ่อเลี้ยงเดโช ทำเอาเริงรตีถึงกับสะท้าน หากก็หวามไหวจนเผลอเบียดบดริมฝีปากร้อนผ่าว แลกจูบกับเขาอย่างดูดดื่มลืมตัว ริมฝีปากทั้งสองประกบกันแนบแน่นราวกับมีอำนาจแม่เหล็กดึงดูดเอาไว้
หัวใจของเริงรตีเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ลมหายใจขาดห้วงหายไปบางขณะ กับวิธีการจูบอันร้ายกาจของเขา จูบที่มีทั้งรุนแรง เร่าร้อน นุ่มนวลและเนิบนาบสลับกัน ทำให้ริมฝีปากของเขาประทับเอารอยลิปสติกสีแดงจากริมฝีปากร้อนฉ่าของเธอ
“หืม…” เขาเผยอริมฝีปากค้าง ส่งสายตาเป็นเชิงถามเมื่อเธอหัวเราะเบาๆ ภายหลังจากถอนจูบออกจากริมฝีปากของกันและกัน ที่เริงรตีขำก็เพราะว่าริมฝีปากของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะลิปสติกจากปากของเธอ
“หัวเราะปากแดงๆ ของคุณค่ะ”
ตอบเบาๆ อมยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก สายตาจับจ้องมองดูริมฝีปากเรื่อแดงของเขาที่เกิดจากการบดเคล้าเอาลิปสติกสีแดงไปจากริมฝีปากของเธอ
“เช็ดให้ผมหน่อยสิ… นะครับ”
เขาวิงวอน ออดอ้อน ทั้งน้ำเสียงและแววตา
“ค่ะ…” เธอเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชู่ในกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา
“ไม่… ไม่ใช่เช็ดด้วยทิชชู่”
เขาส่ายหน้า รีบท้วงขณะดึงมือเธอออกจากกล่องทิชชู่
“คะ…” เธอชะงักไปเล็กน้อย
“ไม่ให้เช็ดด้วยทิชชู่… แต่เช็ดด้วยริมฝีปากของคุณ”
บอกพร้อมกับโน้มใบหน้าคมคายของเขาลงมาใกล้จนรู้สึก
ได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของเขา