นกน้อยในกรงทอง(1)
ตอนที่ 4
นกน้อยในกรงทอง
หญิงสาวยังคงสับสนว่าตัวเธอนั้นอยู่ในสถานะอะไรกันแน่ ทุกๆวันมาวินจะปฏิบัติราวกับว่าเธอเป็นภรรยา ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องทุกคนเคารพเธอทั้งที่ ความจริงแล้วเธอเป็นเพียงแค่ลูกหนี้และมาอยู่ที่นี่เพื่อชดใช้กรรมเท่านั้น
หญิงสาวไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มกำลังเล่นอะไรอยู่
“ไหนคุณบอกว่าถ้าฉันนอนกับคุณแล้วฉันปล่อยฉันไปไง”
หญิงสาวทวงถามคำสัญญาแต่ชายหนุ่มกลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เขาปั่นหน้านิ่งก่อนจะเอ่ยกับเธอ
“ใช่ ฉันพูดแบบนั้น แต่ฉันไม่ได้บอกนี่ว่าฉันจะปล่อยเธอไปตอนไหน”
หญิงสาวรู้สึกโมโหเป็นอย่างมากที่ถูกหลอก โสรญาลุกขึ้นก่อนตั้งใจจะเดินหนีกลับขึ้นไปชั้นบน แต่ชายหนุ่มกลับรั้งข้อมือเธอไว้
“นั่งลง กินข้าวให้หมด”
หญิงสาวไม่ชอบที่ถูกบังคับ เธอพยายามสะบัดมือออก มาวินไม่ชอบนิสัยดื้อรั้นของโสรญา เขาพยายามที่จะกำราบเธอด้วยการข่มขู่
“ถ้าเธอไม่นั่ง ฉันจะปล้ำเธอตรงนี้”
มองไปรอบๆเห็นสาวใช้ยืนอยู่หลายคน ทั้งยังมีลูกน้องของชายหนุ่มยืนอยู่ไกลๆ หญิงสาวพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิดก่อนที่เธอนั้นจะกระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้
“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย”
มาเฟียหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่หน้านิ่วคิ้วขมวดเขาก็ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ มาวินตักอาหารใส่จานหญิงสาวจนล้นพูน แต่โสรญากลับประท้วงด้วยกันนั่งกอดอกนิ่งๆและไม่แตะอาหารในจานเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
“กินซะ”
หญิงสาวเมินหน้าไปทางอื่น เธอทำเป็นไม่สนใจชายหนุ่มก่อนที่ท้องจะร้องออกมาเสียงดัง โสรญาอับอายเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงปั้นหน้านิ่ง
“ท้องร้องอย่างกับฟ้าถล่ม ยังจะเล่นตัวอยู่อีก”
“คุณไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรอกค่ะ นี่มันร่างกายฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้”
หญิงสาวพูดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเชิดใบหน้าขึ้น ต่อให้มาวินจะพยายามบังคับอย่างไร เธอก็จะไม่ทำตามสิ่งที่เขาต้องการอีกแล้ว คนอะไรพูดจากลับกลอกไปมา ทั้งที่สัญญากันแล้วแท้ๆว่าจะปล่อยเธอไป แต่จู่ๆก็มาพลิกลิ้น ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อรั้งเธอไว้
หญิงสาวไม่พอใจ ทั้งยังรู้สึกสิ้นหวัง จากที่ดีใจว่าจะได้ออกไปจากที่นี่กลับกลายเป็นว่าเธอนั้นถูกหลอก
มาวินส่ายศีรษะเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาว เขามองดูนาฬิกาใกล้เวลานัดหมายกับหุ้นส่วนแล้วจึงได้รีบออกไป
“ดูแลนายหญิงให้ดี ทำยังไงก็ได้ให้นายหญิงกินอาหาร”
โสรญาพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิด เธอรู้ว่าชายหนุ่มนั้นต้องการกดดันด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง หญิงสาวไม่ต้องการให้ผู้อื่นต้องมาเดือดร้อนเพราะเธอจึงได้ตัดสินใจตักอาหารใส่ปาก
“ฉันกินแล้วนะคะ หวังว่าคุณจะพอใจ”
หญิงสาวเอ่ยประชด ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นและเดินไปที่บันได มาวินกระตุกยิ้ม แม้จะเห็นเธอปั้นปึงขนาดนั้นแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ กลับกันยังรู้สึกมีความสุขที่ยั่วโมโหเธอได้
“ไปได้เเล้ว อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลานัดฉันไม่อยากไปสาย”
ชายหนุ่มปั้นหน้าให้เคร่งขรึมก่อนจะกระชับสูทเล็กน้อย เขาก้าวขึ้นรถตู้คันหรูก่อนที่จะเคลื่อนตัวออกไป
โสรญาแอบมองจากชั้นบน เธอทิ้งตัวนอนลงบนเตียงก่อนจะเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ที่หัวนอน หญิงสาวเห็นว่าเธอหายมานานกว่า 2 วันแล้วกลัวแม่จะเป็นห่วง จึงได้ตัดสินใจต่อสายหาอีกฝ่าย และโชคดีที่โทรศัพท์นั้นใช้งานได้ ทำให้เธอมีโอกาสได้คุยกับแม่อีกครั้ง
“แม่”
ปลายสายเมื่อได้ยินเสียงลูกสาวก็เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ลูกอยู่ที่ไหนทำไมโทรไปแล้วไม่รับ”
หญิงสาวรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่เธอนั้นไม่พยายามหาทางติดต่อกลับไปหาแม่ โสรญาไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเป็นห่วงเธอจึงได้โกหกไปว่า
“พอดีหนูทำโทรศัพท์หายค่ะ นี่ใช้โทรศัพท์จากบ้านเพื่อนโทรหาแม่”
หญิงสาวเอ่ยด้วยความรู้สึกผิดนั้นก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงออกมาจากปลายสาย
“แม่ก็เป็นห่วง ลูกสบายดีก็ดีแล้ว”
หญิงสาวยกยิ้มน้ำตาเอ่อคลอ เธออยากบอกความจริงกับแม่แต่ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่สบายใจและร้อนรนจนบินกลับมา อีกอย่างเธอไม่ต้องการให้แม่กับพ่อทะเลาะกัน และไม่ต้องการให้แม่กลับมาเจอหน้าพ่ออีก
เธอยังจำได้เสมอว่าแม่นั้นเจ็บปวดแค่ไหนกับการกระทำของพ่อ จึงกลัวว่าหากแม่กลับมาเจอหน้าพ่ออีกครั้งจะทำให้ความทรงจำที่แสนเจ็บปวดนั้นถูกกระตุ้นขึ้นมา
เพื่อปกป้องแม่จากความทรงจำที่เลวร้าย เธอจึงตัดสินใจไม่บอกความจริงกับอีกฝ่าย
“แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูสบายดี เดี๋ยวไว้ว่างๆหนูจะบินไปหานะ”
หญิงสาวพูดด้วยเสียงสั่น ก่อนที่ทั้งสองจะพูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันเล็กน้อย
โสรญามีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อ เธอเริ่มมองหาอะไรทำก่อนจะขอร้องให้สาวใช้คนนึงช่วยหาหนังสือให้เธออ่านสัก 4-5 เล่มเพื่อฆ่าเวลา