บทที่ 6 รับผิดชอบ
หลังจากศึกครั้งที่สองจบลงรามก็อุ้มพะพายไปอาบน้ำในห้องน้ำทำความสะอาดร่างกาย ตอนแรกหญิงสาวทำท่าจะไม่ยอมแต่ก็สู้แรงของรามไม่ได้เลยต้องจำยอมให้ชายหนุ่มอาบน้ำให้ เพราะตอนนี้แค่จะยืนเธอก็ยังทำแทบไม่ได้ เพราะถูกชายหนุ่มสูดเอาพลังไปหมดแล้ว
ตอนนี้พะพายนั่งอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งในห้องแต่งตัวของตัวเอง เธอแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเองกับสภาพร่างกายที่สะท้อนในกระจก เนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยร่องรอยดูดกัดของชายหนุ่ม ทั้งบนเนินอก ซอกคอ และต้นขาด้านใน ไม่แปลกเลยที่เธอตื่นมาแล้วรู้สึกเจ็บระบมไปหมดทั้งตัว แต่ทางกลับกันเขากับไม่เป็นอะไรเลยสักนิด ทั้งที่เมื่อคืนเธอก็ทั้งตีทั้งกัดเขาเหมือนกัน พอเธอเห็นเขาแบบนี้ก็ยิ่งนึกอยากบีบคอชายหนุ่มให้ตายเสียให้ได้ แต่มันก็เป็นไปได้แค่ความคิดเท่านั้น เพราะร่างกายของเธอตอนนี้ไม่พร้อมที่จะไปทะเลาะตบตีกับเขาอีกแล้ว ตอนนี้เธอทำได้แค่นั่งมองชายหนุ่มที่กำลังยืนเช็ดผมให้กับเธออยู่ด้านหลัง
“ถ้าจะมอง…ก็มองมาตรงๆ เลยก็ได้นะฉันไม่เก็บค่ามองหรอก” เสียงของคนที่ยืนเช็ดผมดังขึ้น เมื่อเห็นคนตัวเล็กแอบมองตัวเอง
“หลงตัวเอง”
“ก็คนมันมีดีให้หลง…เธอก็ลองแล้วนี่ จริงไหม” ฟอด! รามก้มลงมากระซิบพูดที่ข้างหูของพะพาย แล้วขโมยหอมแก้มเธอไปหนึ่งที
“นี่!” พะพายหันไปถลึงตาใส่คนขี้ขโมย แล้วเอามือของตัวเองมาถูแก้มที่โดนหอมด้วยความเกลียดชัง
“ครับบบ…คุณเมีย” รามเอยขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า อย่างไม่สะทกสะท้านกับสีหน้าของหญิงสาวที่มองมาทางตัวเอง (น่ากลัวตายละ)
พะพายไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับชายหนุ่มอีกเลยหันหน้าหนีแล้วไม่สนใจเขาอีก เมียงั้นเหรอ ใครจะไปเป็นเมียของเขากันนิสัยก็ไม่ดี หื่นก็หื่น
“หึ เมียงั้นเหรอ…แล้วเป็นเมียคนที่เท่าไรของคุณละ” พะพายพูดเอยออกมาด้วยน้ำเสียงดูแคลน นี่คงจะแอบเข้าห้องของผู้หญิงไปทั่วแน่นอน
“คนที่เท่าไรฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ…เพราะไม่เคยนับเสียด้วยสิ”
“เลว”
“ถึงจะเลวก็ผัวเธอไหมล่ะ” รามไม่เคยปฏิเสธเรื่องความเลวของตัวเองอยู่แล้ว กว่าจะมีทุกอย่างเหมือนทุกวันนี้ เขาก็ทำเรื่องไม่ดีมาไม่น้อย
“ไม่ใช่!” พะพายรีบเอ่ยคานออกไป เธอไม่ต้องการสถานะนี้สักหน่อย
“หึ ไม่ใช่…แล้วใครกันที่เมื่อกี้ยังนอนส่งเสียงคราง และขอให้ฉันเอาแรงๆ อยู่เลย”
“นี่…คุณนี่มัน!” พอพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาพะพายก็แทบไปต่อไม่เป็นเลยก็ว่าได้
พะพายเกลียดร่างกายของตัวเองมากที่มันไม่ยอมทำตามคำสั่งของเธอเอาเสียเลย มันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พอถูกชายหนุ่มแตะนิดแตะหน่อยร่างกายของเธอก็ยอมเขาไปหมดเสียทุกอย่าง บางครั้งก็ตอบสนองเขาเป็นอย่างดีจนน่าเจ็บใจ
“หิวไหม…ออกไปหาอะไรกินข้างนอกกันไหม” รามเอ่ยขึ้นหลังจากเช็ดผมให้หญิงสาวข้างกายจนแห้ง บอกเลยนี่เป็นครั้งแรกของเขาเลยก็ว่าได้ที่มายืนเช็ดผมให้ผู้หญิงอย่างนี้
“ไม่หิว…คุณกลับไปได้แล้ว”
“……”
“คุณก็ได้ในสิ่งที่ต้องการไปหมดแล้วนี่”
“แล้วเธอรู้เหรอว่าฉันต้องการอะไร” รามเอ่ยออกมาด้วยความไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร เพราะหญิงสาวเอาแต่ไล่เขาอยู่นั้นเลย นี่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่โดนเขาทำถึงขนาดนี้คงจะเรียกร้องให้เขามารับผิดชอบไปแล้ว แต่นี่อะไรเอาแต่ไล่ให้เขาไปอยู่ได้
พะพายเงียบไม่ตอบกลับชายหนุ่มออกไป จะไม่รู้ได้ไงว่าเขาก็ต้องการมาสนุกกับ เรือนร่างของเธอเหมือนกับพวกผู้ชายคนอื่นๆ รามรู้ว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไรอยู่เลยอย่างแก้ความเข้าใจผิด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดีเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาก็มีแต่ผู้หญิงเข้าหาเขาเสียมากกว่า เลยไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไงดี
โครกครากๆ โครกครากๆ
อยู่ๆ เสียงท้องของคนที่บอกว่าไม่หิวก็ดังขึ้น พะพายเอามือกุมที่ท้องของตัวเองแล้วก้มหน้าลงด้วยความอาย ทำไมร่างกายเธอมันถึงไม่ยอมเชื่อฟังเธอเอาเสียเลยนะ ชอบทำให้เธอต้องขายหน้าชายหนุ่มอยู่เรื่อย
“ถ้าไม่อยากไปกินข้างนอกก็สั่งมากินที่ห้องก็ได้…โอเคไหมครับ” รามก้มพูดที่ข้างหูของหญิงสาวที่ตอนนี้เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมพูดโต้ตอบกับเขา
“อยากทำอะไรก็ทำ…ว้าย!…นี่คุณจะทำอะไรอีกเนี่ย!” พะพายที่กำลังพูดอยู่ ก็ต้องร้องออกมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ชายหนุ่มก็ช้อนตัวเธอแล้วก็อุ้มไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง
“ไม่ทำอะไรหรอกน่า…ก็แค่จะพาไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นก็เท่านั้นเอง”
“ฉันเดินเองได้…ไม่ต้องมาอุ้ม ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลย”
“อวดเก่งจริง…เมียใครวะ” รามเดินอุ้มพาพะพายออกไปนอกห้องแต่งตัว แล้วก็อดบ่นคนตัวเล็กไปด้วยไม่ได้ สภาพแบบนี้ยังจะอวดเก่งอีก
“ฉันไม่ได้อวดเก่ง…ปล่อยฉันลงเลยนะ” พะพายโวยวายใส่ชายหนุ่มเป็นชุด มาว่าเธออวดเก่งได้อย่างไง
“หึ.หึ…แปลว่ายอมรับแล้วสินะ..ว่าเป็นเมียฉัน” รามหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ที่หญิงสาวหลงพูดว่าตัวเองเป็นเมียของเขาแล้ว
“ไม่ใช่ สักหน่อย…คุณนี่มัน..ไม่พูดด้วยแล้ว” พะพายถึงกับพูดต่อไปไม่เป็น ที่ถูกชายหนุ่มหลอกให้พูดออกมาอย่างลืมตัว คนอะไรเจ้าเล่ห์ที่สุด
กริ่งๆ กริ่งๆ
หลังจากที่รามพาพะพายออกมานั่งที่ห้องนั่งเล่น ชายหนุ่มก็โทรศัพท์หาใครบางคนให้ซื้ออาหารเข้ามาให้เขาหน่อย พะพายได้แต่นั่งมองเขาอยู่เฉยๆ ไม่อยากพูดกับเขาอีกแล้วยิ่งพูดก็ยิ่งเข้าตัวเองอย่างไงก็ไม่รู้ เธอนั่งได้ไม่นานก็มีคนมากดกริ่งที่หน้าประตู
“นั่งอยู่นี่ละ เดียวฉันออกไปเปิดเอง” รามพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าพะพายทำท่าจะลุกขึ้นไปเปิดประตู
รามเดินออกไปได้ไม่นานเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับถุงอาหารสี่ห้าถุง แล้วที่ไหล่ข้างหนึ่งของเขาก็ยังมีกระเป๋าเป้มาด้วยใบหนึ่ง นี่เขาคิดจะไม่กลับบ้านตัวเองเลยหรือไงถึงได้เอากระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยอย่างนี้ พะพายคิดแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างห้ามไม่ได้ แล้วชีวิตของเธอต่อไปนี้จะเป็นอย่างไรเนี่ย!
รามนั่งมองคนตรงหน้าที่บอกว่าไม่หิวตักข้าวเข้าปากไม่หยุดสงสัยจะหิวมากจริงๆ แต่จะหิวก็ไม่แปลกก็พวกเราไม่ได้กินอะไรกันเลยตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนิ แถมเธอยังถูกเขารังแกไม่หยุดอีกด้วย พอพูดถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็อยากจับหญิงสาวตรงหน้ามากัดกินซ้ำๆ อีกเสียให้ได้พอเป็นเธอแล้วให้เขากินทั้งวันทั้งคืนก็ยังได้
“มองอะไร” คนถูกมองเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างอดไม่ได้ จะมองอะไรนักหนา
“มอง…เมีย!” รามพูดออกมาแล้วยักคิ้วให้พะพายไปหนึ่งทีอย่างกวนๆ
“กินอิ่มแล้วก็กลับไปได้แล้ว…ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก” พะพายพูดออกมาหลังจากกินเสร็จ แล้วทำท่าจะลุกเดินเข้าห้องนอนของตัวเอง
“นี่คุณ…เอามือออกไปเลยนะ!” อยู่ๆ รามก็เข้ามากอดพะพายจากด้านหลังไม่ยอมให้หญิงสาวไปไหนต่อ
“หยุดคุยกันก่อนได้ไหมพะพาย…ทำไมเธอชอบไล่ฉันจัง”
“ปล่อยนะ..คุณ!”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า…ฉันจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำทุกอย่างตกลงไหม”
“ไม่ต้อง…ฉันไม่ต้องการ แล้วก็เอาเงินของคุณกลับไปด้วย”
“ไม่เอาแบบนี้ได้ไหม…เรามาคุยกันดีๆ ก่อนไม่ได้เหรอ”
“แต่ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณอีกแล้ว…คุณกลับไปได้แล้ว”
“ไม่…ฉันบอกว่าจะรับผิดชอบก็คือรับผิดชอบเธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” รามพูดออกมาอย่างคนเอาแต่ใจ ก็เขาจะรับผิดชอบเสียอย่างใครจะทำไม
“นี่คุณพูดบ้าอะไรของคุณ…ว้าย!..ปล่อยฉันนะ”
“ในเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่อง…ก็ใช่วิธีอื่นคุยกันเถอะ”
“นี่คุณจะทำอะไร…ปล่อยฉันเลยนะ” พะพายพยายามดิ้นออกจะแขนของชายหนุ่มแต่ก็ไม่เป็นผล
หลังจากที่รามพูดจบก็อุ้มร่างของพะพายเดินเข้าห้องนอนไป เตียงนอนที่เป็นที่รองรับอารมณ์ของทั้งสองร่าง ก็เริ่มขยับหนักเบาตามแรงของคนที่นอนอยู่บนเตียง ได้ยินเสียงร้องครางของทั้งสองคนออกมาเป็นพักๆ นานหลายชั่วโมงกว่าจะหยุดกลับมาเป็นปกติ