บทที่ 10
ในเวลาเดียวกันนั้น..ที่บ้านของพงษ์พิบูลย์
"แกไปไหนมา"
"ตกใจหมดเลย! คุณพ่อยังไม่นอนอีกหรือคะ" นาเดียที่เพิ่งจะเดินเข้าบ้านไม่คิดว่าพ่อยืนอยู่มุมนี้
"พ่อถามว่าแกไปไหนมา แล้วนั่นรถใคร?" พงษ์พิบูลย์มองตามหลังรถคันที่มาส่งลูกสาว
"รถเพื่อนค่ะ"
"อย่าเพิ่งไป"
"เดียง่วงแล้วค่ะ"
"แกรู้เรื่องที่ ไอ้แทนมันจะแต่งงานไหม"
"คุณพ่อรู้แล้วหรือคะ"
"แสดงว่าแกรู้เหรอ? แล้วทำไมแกไม่บอกพ่อ"
"บอกแล้วได้อะไรล่ะคะ แต่งก็แต่งไปสิใครจะแคร์"
"แกอย่าลืมนะว่าสิ่งที่เราทำอยู่.."
"พ่ออย่าเพิ่งพูดเรื่องนั้นตอนนี้ได้ไหม เดียกำลังอารมณ์ดีไม่อยากจะเครียด"
"แกทำยังไงก็ได้ให้งานแต่งนั้นถูกยกเลิกไป!" พงษ์พิบูลย์ได้แต่ตะโกนตามหลังลูกสาวที่เดินขึ้นบ้านแบบไม่สนใจ
เช้าวันต่อมา..ที่บริษัท
"ไหนคุณบอกว่าจะจัดการโครงการที่สระบุรี ฉันยังไม่เห็นคุณทำอะไรเลย" นี่ก็วันที่สามแล้ว แต่เธอก็เห็นเขายังเงียบอยู่ น้ำอิงทนรอไม่ได้ก็เลยเข้ามาหาเขาในห้องทำงาน
"เดี๋ยวจะทำ"
"เดี๋ยวแล้วเมื่อไร"
"ยังไม่รู้"
"คุณแทน"
"ผมชื่อแทนคุณ" คิ้วหนาเลิกขึ้นสูงเหมือนบอกคนตรงหน้าว่าอย่ามาเรียกเขาแบบสนิทสนม
"คุณแทนคุณ คุณรู้ไหมว่าเงินเท่าไรที่จมอยู่กับโครงการนี้"
"เท่าไรมันก็เงินของผม"
"ผิดแล้ว แต่ก่อนมันอาจจะเป็นเงินของคุณ ตอนนี้เงินส่วนนั้นมันเป็นของฉันด้วย" ที่เธอพยายามกดดันเพราะอยากให้เขาเห็นอะไรหลายอย่างในโครงการนี้ บางทีเขาอาจจะตาสว่างขึ้นมาเลยก็ได้ แต่คนแบบเขาไม่รู้ว่าวิธีนี้จะสามารถทำให้ตาสว่างได้ไหม
"พรุ่งนี้ฉันจะไปหน้างาน หวังว่าฉันคงจะเจอคุณที่นั่น"
"ผู้หญิงอะไรอวดเก่ง" สายตาคมมองตามหญิงสาวที่เพิ่งจะเดินออกจากห้องเขาไป
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา..
"อาได้ยินว่า คุณน้ำอิงจะไปหน้างานที่สระบุรีเหรอ" ตั้งแต่วันนั้นพงศ์พิบูลย์ยังไม่ได้มาคุยกับแทนคุณเลย เพราะคิดว่าจะให้เขาเข้าไปขอโทษตัวเองก่อน แต่พอได้ยินข่าวนี้ก็ทนรอไม่ไหวจนต้องเข้ามาหา
"คุณอาเชิญนั่งก่อนสิครับ" พอเห็นว่าเป็นพ่อของหญิงคนรักเข้ามา แทนคุณรีบกุลีกุจอลุกขึ้นหาที่นั่งให้
"ตอบอาก่อนดีกว่า"
"ผมก็ได้ยินแบบนั้นแหละครับ"
"ทำไมต้องไปให้เหนื่อยด้วย อาให้คนจัดการที่หน้างานแล้ว ไม่ต้องลำบากไปก็ได้"
"ถ้าเธอเก่งนักก็ปล่อยไปเถอะครับคุณอา ผู้หญิงตัวแค่นั้นจะทำอะไรได้"
แต่พงษ์พิบูลย์ไม่คิดแบบนี้เพราะเห็นจากทุกโครงการที่น้ำอิงจัดการมา
"ถ้าคุณอาเป็นห่วงเรื่องนั้น เดี๋ยวผมจะไปดูหน้างานกับผู้หญิงคนนั้นให้ก็ได้ครับ"
"เราจะไปเหรอ แต่อาว่า.."
"คุณอาไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ผมไปได้"
"เออ.." เอาแล้วไงงานใหญ่กว่าเดิมอีก ถ้าไปแค่เธอคนนั้นยังพอจัดการได้
"คุณอากลับไปพักผ่อนเถอะครับ เดี๋ยวถ้ามีอะไรผมจะปรึกษาคุณอาแล้วกันครับ"
เย็นวันเดียวกัน.. ที่โต๊ะอาหาร
"เวลาเดินดูหน้างานอย่าลืมใส่หมวกเซฟตี้ ระวังของตกหล่นใส่หัว" พอทัตเทพรู้ว่าทั้งสองจะออกหน้างานก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย
"อิงจะระวังค่ะ"
"พ่อดีใจนะที่เราจะไปดูหน้างานกับน้อง" ทัตเทพหันไปพูดกับลูกชายที่เอาแต่นั่งเงียบ
"คุณลุงทานนี่ดีกว่าค่ะ" น้ำอิงตักอาหารวางใส่จานข้าวให้กับผู้เป็นลุง เมื่อเห็นว่าลูกชายที่ท่านรักและหวงแหนมาก กำลังใจลอยไปถึงไหนตอนไหนไม่ได้ยินแม้คำพูดของพ่อ
ครื่นนน ..มือหนารีบล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีที่สัมผัสได้ว่ามันสั่น
ทั้งสองที่ร่วมรับประทานอาหารอยู่โต๊ะเดียวกันอดที่จะมองหน้ากันไม่ได้ ขนาดโทรศัพท์ไม่มีเสียงดังเขายังให้ความสำคัญกับมันมากกว่าคนที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าในเวลานี้เสียอีก
>>{"ครับ"}
{"พรุ่งนี้เดียอยากจะไปดูหนัง คุณแทนมารับหน่อยนะคะ"}
>>{"แต่พรุ่งนี้ผมมีธุระ"}
{"ไม่เอาเดียร์อยากไปดูหนังพรุ่งนี้"}
>>{"เป็นตอนเย็นได้ไหมล่ะครับ"}
{"ถ้าถึงตอนเย็นไม่ต้องมาหาเลยนะ"}
>>{"เดี๋ยวก่อนสิครับเดีย"} ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ เมื่อคนที่อยู่ในสายตัดสายไปแล้ว
"แกจะไปไหน นั่งลง!" ถ้าลูกชายออกจากบ้านเวลานี้ พรุ่งนี้มีหวังคงไม่ได้ไปดูหน้างานแน่